August 28, 2019 12:13
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการไอมากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป เป็นอาการที่ควรเริ่มจะต้องหาสาเหตุ เรื่องจากอาจกลายเป็นอาการไอเรื้องรังได้ครับ
ซึ่งสามารถเป็นได้จากหลายสาเหตุครับ
ซึ่งควรจะต้องได้รับการซักประวัติ ตรวจร่างกายเพ่มเติมค่ะว่าอาการร่วมต่างๆมีอะไรบ้าง เพื่อช่วยการวินิจฉัย ได้แก่
1.หากมีน้ำมูกไหลลงคอ มีปวดตามใบหน้า มีน้ำมูกเขียวข้น อาจเป็นไซนัสอักเสบได้ ควรจะค้องได้รับยาฆ่าเชื้อเฉพาะ และอาจจะต้องตรวจร่างกายส่องดูไซนัส
2.อาการภูมิแพ้ อาจมีอาการไอบ่อยๆ โดยเฉพาะถ้ามีไอกลางคืนบ่อยๆ ทำกิจกรรมแล้วเหนื่อยมากขึ้น ร่วมกับถ้าคนไข้สุบบุหรี่ หรือ เคยสูบบุหรี่อาจมีปัญหาหลอดลมตีบ หรือ หอบหืด/ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ได้ หรือไอมากเมื่ออยู่ในห้องที่ฝุ่นค่อนข้างเยอะหรือ ไปทุ่งดอกไม้เป็นต้นครับ
3.วัณโรคปอด ต้องถามเพิ่มเติมว่ารอบตัวคนไข้มีใครไอเรื้อรัง ไหม คนไข้มีอาการอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น และวัณโรค ถ้าเป็นมากๆ อาจมีไอเป็นเลือดร่วมด้วยได้ครับ
4.เส้นเสียง กล่องเสียงอักเสบ อาจมีอาการไอเรื้อรัง เสียงแหบได้ มีเสมหะในคอ
4. อาจไม่เกี่ยว กับการติดเชื้อหรือภูมิแพ้ ได้แก่ กรดไหลย้อน ซึ่ง อาจมีอาการจุกแสบแน่นอก และแสบร้อนยอดอก ระคายเคืองกล่องเสียง อาจมีอาการไอเรื้อรังได้ เยื้องต้นแนะนำให้ไปตรวจกับอายุรแพทย์ หรือ แผนกหูคอจมูก เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดและส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมครับ เพื่อรักษาตามสาเหตุนะครับ
การบรรเทาอาการเบื้องต้น ได้แก่
การใช้ยาแก้ไอ ซึ่งโดยปกติมีอยู่สองชนิดด้วยกัน คือ
1.ยาละลายเสมหะ จะทำการละลายเสมหะทำให้ไอและขับเสมหะได้มากขึ้นยาแก้ไอชนิดนี้ส่วนใหญ่จะทำให้ไอลดลงจากการที่เสมหะลดลงครับ
2.ยากดการไอ ยาจะไปยับยั้งไม่ให้เกิดการไอเกิดขึ้นมักจะใช้ในกรณีไอแห้งๆไม่มีเสมหะไอจากอาการแพ้หรือหลอดลมตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นไวเกินครับ
ไม่แนะนำให้ใช้ในการอักเสบติดเชื้อเนื่องจากจะขับเอาเสมหะออกไม่ได้ครับ
ในกรณีนี้อาการอย่างเดียวอาจจะยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นจากสาเหตุอะไรแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อหาวาเหตุเพิ่มเติมจึงจะรักษาได้ถูกต้องตามการงินิจฉัยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ
1.คุณแม่ถึงจะน้ายบ้านออกแต่ ก่อนหน้านี้อยู่บ้านเดียวกัน ควรพาคุณแม่ไปเอ็กซเรย์ปอดดูนะครับ เพราะคุณอม่อาจจะมีการติดเชื้อวัณโรคร่วมด้วย
แต่ถ้าคุณแม่ไม่ติดเชื้อวัณโรค การรักษา ครบ 2 สัปดาห์แล้ว ส่วนใหญ่จะไม่แพร่เชื้อแล้วครับ สามารถย้ายกลับมาอยู่ด้วยกันได้ครับ
2.ควรกินยาอย่างสม่ำเสมอ เข้าสังคมได้ตามปกติ เพราะการแพร่เชื้อถือว่าน้อย
3.ปอดอาจจะกลับเป็นปกติ หรือไม่เป็นปกติก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคครับว่าปอดเสียหายไปมากแค่ไหน
4.ถ้าเสียงที่ผิดปกติเกิดจากวัณโรค การรักษาให้หายแล้ว ก็จะกลับเป็นปกติครับ แต่ถ้าเสียงที่ผิดปกติ เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น เส้นเสียงมีปัญหา มีก้อนที่เส้นเสียง การรักษาวัณโรคหายเสียงก็จะไม่หายครับ ขึ้นอยู่กับสาเหตุการเกิดโรคครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คุณหมอคะ หนูไอมา4เดือนและเสียงหายไป เสียงแหบมาก แล้วไปหาหมอบ่อยครั้ง ก็ตรวจไปเป็นโรคอย่างอื่น จนเมื่ออาทิตย์ก่อนคุณหมอตรวจปอด ปอดเป็นรอย แต่ตรวจเสมหะไม่เจอเชื้อ แต่อาการเหมือนคนเป็นวัณโรค วันนี้คุณหมอเลยให้เริ่มกินยารักษาวัณโรควันนี้วันแรก และหมอที่ดูแลบอกว่าให้ย้ายคุณแม่ออกไปก่อนในระยะแพร่เชื้อ หนูอยากทราบว่า2อาทิตย์ถัดมาหลังจากกินยาแล้ว คำถาม1.คือคุณแม่สามารถกลับเข้ามาได้หรือยังคะ คำถาม2. หลัง2อาทิตย์หนูสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้ไหมคะ หรือต้องทำตัวแบบไหน ยังไง สามารถเข้าร่วมสังคมได้ไหมคะจะแพร่เชื้ออีกไหมคะ หรือต้องรอจนหายขาดก่อนไหมคะ คำถาม3. ปอดหนูหลังจากที่หายขาดรอยที่ปอดจะจางหายไปไหมคะ กลัวว่าถ้าย้ายงานจะตรวจไม่ผ่าน หนูกังวลมากค่ะ คำถาม4. หลังจากหายขาดจากวัณโรค เสียงหนูจะกลับมาไหมคะ เครียดมากเลย ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)