สวัสดีคะคุณหมอ ประจำเดือนของหนูมาวันที่23เป็นวันแรก และหนูได้รับประทานอาหารเช้าตามปกติ เมื่อรู้สึกว่าเริ่มปวดประจำเดือนขึ้นมาเล็กน้อยจึงเริ่มรับประทานยาแก้ปวดท้องประจำเดือนไปคะ แต่อาการไม่ดีขึ้นเลย นอกจากนี้ยังเริ่มมีอาการปวดหัววิงเวียนเล็กน้อยเเละมีอาการพะอืดพะอม จนอาเจียนไปทั้งหมด 2 รอบ ในระหว่างวันคะ ในขณะเดียวกันก็มีอาการท้องเสียในระหว่างที่อาเจียนด้วยคะ ทำให้ไม่มีเเรงในการทำกิจวัตรประจำวันเลยคะ และในระหว่างวันหนูได้เปลี่ยนผ้าอนามัยและสังเกตุปริมาณของประจำเดือนกลับพบว่าบนผ้าอนามัยไม่มีประจำเดือนไหลติดมาเลยตั้งเเต่เช้าจนถึงเย็นวันที่23คะ หนูอยากทราบว่าหนูควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจความผิดปกติไหมคะ แล้วถ้าต้องพบแพทย์หนูควรติดต่อที่แผนกไหนและแจ้งคุณหมอว่าอย่างไรมั้งคะ

สวัสดีค่ะ กรณีปวดประจำเดือนมาก และมีประจำเดือนผิดปกติด้วย แนะนำไปตรวจนะคะ และ ให้ติดต่ออแผนกสูตินรีเวชศาสตร์ค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> สวัสดีค่ะ อาการปวดประจำเดือน มีสาเหตุการเกิดสองแบบ ได้แก่ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> >>แบบแรก คือ เกิดจากการหดตัวของมดลูก เพื่อขับเลือดประจำเดือน สามารถเกิดได้เป็นปกติค่ะ โดยอาการอาจจะเกิดขึ้น ก่อนมีประจำเดือน 1-2 วัน และในช่วงการมีประจำเดิอน โดยเฉพาะ 12-72 ชมแรกค่ะ อาการปวด จะปวดแบบบีบๆ เหนือหัวหน่าว บางคนอาจร้าวไปหลังได้ด้วย และร่างกาย อาจหลั่งสารความเจ็บปวดออกมา ทำให้มีอาการตามระบบร่วมด้วย เช่น ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศรีษะ ท้องเสียถ่ายเหลว เป็นต้นค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> >>แบบที่สอง คือ การปวดประจำเดือนทีมีสาเหตุมาจากความผิดปกติขอวระบบสืบพันธ์สตรีอื่นๆ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอก ในมดลูก หรือการติดเชื้อ เป็นต้น ผู้ป่วยอาจประสบปัญหา เช่น ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย ปวดข้างใดข้างหนึ่งของท้องน้อยมากกว่าปกติ คลำได้ก้อนหรือ มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติได้ค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> คำแนะนำเบื้องต้น เมื่อมีประจำเดือนและมีอาการปวดประจำเดือนคือ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 1.ทานน้ำมากๆ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 2.ยาแก้ปวดที่ช่วยได้ เช่น mefenamic acid หรือ ponstan , diclofenac , ibuprofen , พาราเซตามอล เป็นต้น >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 3.การประคบอุ่น >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 4.พักผ่อนมากๆ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 5.พยายามไม่มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดิอน เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อต่างๆได้ง่ายค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> หากมีอาการผิดปกติ ที่หมอกล่าวไป ที่อาจมีความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติที่จะทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนแบบที่สอง ได้แก่ ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน หรือส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมค่ะ

ควรไปตรวจเเยกโรค ว่าปวดท้องจากสาเหตุอะไรครับเพราะสาเหตุมีเยอะมาก อาการปวดท้อง เป็นได้จากเรื่องทางเดินอาหารก็ได้ครับ( เนื่องจากมีอาการอาเจียนถ่ายเหลวร่วมด้วย) , หรือจากระบบสืบพันธุ์สตรี เช่น ปวดประจำเดือน หรือถ้ามีประวัติสงสัยตั้งครรภ์ก็มีอีกหลายโรคครับ ......... เบื้องต้นพบหมอทั่วไปก่อนก็ได้ครับ ถ้าปวดมาก หรืออาเจียน ถ่ายเหลวมาก จนมีหน้าทืดใจสั่นอ่อนเพลียมาก พิจารณาไปห้องฉุกเฉินครับ ......... หรือถ้าเป็นไม่มาก ปวดน้อยลงเอง อาการโดยรวมดีขึ้น ............ เบื้องต้นต้องทดเเทนสารน้ำที่เสียไปครับคือการกินเกลือเเร่(ORS)ทดเเทน ถ้ายังพอกินได้มากินครับซื้อได้จากร้านขายยา(ไม่ใช่พวกเกลือเเร่สปอนเซอร์) จิบบ่อยๆเท่าที่ไหว ส่วนใหญ่จะหายได้เองครับ (ไม่ควรกินทีเดียวเป็นเเก้วๆ จะทำให้ท้องเสียมากขึ้น ให้ค่อยๆจิบครับ) ... ร่วมกับกินยารักษาตามอาการเช่นยาเเก้ปวดท้องเช่น Buscopan พอช่วยได้ครับ ช่วงนี้รับประทานอาหารอ่อนไปก่อนครับ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ... ส่วน ยาเเก้อาเจียน เช่น Domperidone ซื้อได้ตามร้านขายยาครับ