วันแรก มีผื่นขึ้นที่ขา กินยาแก้แพ้กับยาทา วันที่สอง ลามขึ้นมาที่แขนแล้วลำตัว แล้วก็เจ็บคอมากกลืนน้ำลายแล้วเจ็บมาก มีไข้ประมาณ 36 องศา วันที่สาม ลามขึ้นที่ใบหน้า ผื่นไม่ลดลงเลยแถมลามมาที่หน้าอีก อยากทราบว่า มีสิทธิติดเชื่อHIV ไหมครับ

สวัสดีครับ การเกิดผื่นนั้นไม่ใช่อาการที่จำเพาะต่อการติดเชื้อ HIV ครับ การมีผื่นนั้นอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุตั้งแต่อาการแพ้ของผิวหนัง การเป็นไข้ออกผื่นจากเชื้อไวรัสบางชนิด ไปจนถึงการมีภูมิคุ้มกันที่ทำงานไวเกิน ...... การติดเชื้อ HIV นั้นจะไม่มีอาการที่จำเพาะที่สามารถใช้ช่วยยืนยันการวินิจฉัยได้ การวินิจฉัยโรค HIV จะจ้องอาศัยการตรวจเลือดเพื่อยืนยันการติดเชื้อเท่านั้นครับ ดังนั้นถ้าหากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ HIV ได้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดยืนยันการติดเชื้อดูครับ

มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ HIV ได้ประมาณ 0.3% ครับ

การตรวจเลือดโดยใช้น้ำยา Gen 4 นั้นเป็นการตรวจหาเชื้อ HIV ที่มีความแม่นยำสูง แต่ก็จะต้องมีการตรวจในเวลาที่เหมาะสมด้วยจึงจะให้ผลตรวจที่แม่นยำครับ โดยถ้าหากตรวจห่างจากการรับความเสี่ยง 1 เดือน ความแม่นยำของผลตรวจจะอยู่ที่ 95% และถ้าหากตรวจห่างจากวันที่รับความเสี่ยงอย่างน้อย 3 เดือนก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 99.9% ครับ

ค่าใช้จ่ายในการตรวจหาการติดเชื้อ HIV จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาล แต่โดยส่วนใหญ่มักอยู่ในหลักร้อยบาทครับ หมอแนะนำให้สอบถามค่าใช้จ่ายที่แน่นอนจากทางโรงพยาบาลที่จะไปตรวจโดยตรงอีกครั้งครับ

ถ้ามีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีการติดเชื้อ HIV อยู่ แม้จะเป็นเพียงแค่ครั้งเดียวก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อ HIV ได้ครับ ส่วนอาการของโรค HIV ในระยะแรกของการติดเชื้อนั้นมักไม่มีอาการที่จำเพาะครับ โดยอาจมีอาการจากการติดเชื้อในระยะเฉียบพลันได้บ้างในช่วง 1-2 เดือนแรกของการติดเชื้อ โดยจะทำให้มีไข้ ไอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยตัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่น ต่อมน้ำเหลืองโตได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะมีความใกล้เคียงกับการติดเชื้อไวรัสทั่วไปมากๆทำให้ไม่สามารถแยกได้ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดครับ และอาการเหล่านี้มักเป็นอยู่เพียงไม่กี่วันแล้วก็จะหายไปได้เอง และอาการนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับทุกคนที่มีการติดเชื้อครับ ...... ทางเดียวที่จะทำให้ทราบว่ามีการติดเชื้อ HIV หรือไม่จะต้องใช้การตรวจเลือดเพื่อหาการติดเชื้อเท่านั้นครับ