June 22, 2019 19:40
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการปวดประจำเดือน มีสาเหตุการเกิดสองแบบ ได้แก่
>>แบบแรก คือ เกิดจากการหดตัวของมดลูก เพื่อขับเลือดประจำเดือน สามารถเกิดได้เป็นปกติครับ โดยอาการอาจจะเกิดขึ้น ก่อนมีประจำเดือน 1-2 วัน และในช่วงการมีประจำเดิอน โดยเฉพาะ 12-72 ชมแรกครับ
อาการปวด จะปวดแบบบีบๆ เหนือหัวหน่าว บางคนอาจร้าวไปหลังได้ด้วย และร่างกาย อาจหลั่งสารความเจ็บปวดออกมา ทำให้มีอาการตามระบบร่วมด้วย เช่น ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศรีษะ ท้องเสียถ่ายเหลว เป็นต้นครับ
>>แบบที่สอง คือ การปวดประจำเดือนทีมีสาเหตุมาจากความผิดปกติขอวระบบสืบพันธ์สตรีอื่นๆ เช่น
- เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอก ในมดลูก
- การติดเชื้อ เป็นต้น
ผู้ป่วยอาจประสบปัญหา เช่น ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย ปวดข้างใดข้างหนึ่งของท้องน้อยมากกว่าปกติ คลำได้ก้อนหรือ มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติได้ครับ
คำแนะนำเบื้องต้น เมื่อมีประจำเดือนและมีอาการปวดประจำเดือนคือ
1.ทานน้ำมากๆ
2.ยาแก้ปวดที่ช่วยได้ เช่น mefenamic acid หรือ ponstan , diclofenac , ibuprofen , พาราเซตามอล เป็นต้น
3.การประคบอุ่น หรือ การใช้ถุงน้ำร้อน
4.พักผ่อนมากๆ
5.พยายามไม่มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดิอน เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อต่างๆได้ง่ายครับ
หากมีอาการผิดปกติ ที่หมอกล่าวไป ที่อาจมีความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติที่จะทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนแบบที่สอง ได้แก่ ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน หรือส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมครับ
การรักษาจะเป็นไปตามสาเหตุครับ เช่น การให้ยาปรับฮอร์โมน การผ่าตัด เป็นต้นครับ
ส่วนเลือดสีน้ำตาลทึ่ออกมานั้น ปกติตกขาวสีน้ำตาลคล้ำ มักเกิดจากเลือดเก่าๆที่อยู่ในช่องคลอดครับ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น
- การฉีกขาดของช่องคลอดแล้วมีเลือดออกอยู่เดิม (การออกกำลังกายแรงๆ, การมีเพศสัมพันธ์, การแคะแกะเกา)
- อิทธิพลของฮอร์โทนเพศชั่วคราว เช่น จากยาคุมกำเนิด ,ยาสตรีต่างๆ
- คนไข้ที่มีรอบเดือนยาว มากกวาสปกติ ทำให้ผนังมดลูกหนา จึงลอกตัวออกมาครับ
- มีการติดเชื้อ ในช่องคลอด มดลูก
- เนื้องอก
โดยทั้วไป ถ้าเป็นเลือดเก่าๆ ชั่วคราว ประมาณ 5-7 วันควรหายได้เอง แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ แนะนำให้ไปตรวจภายในเพิ่มเติมคครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณค่ะคุณหมอ งั้นอาการหนูคือปวดแบบกินยาแล้วหายคือยังปกติอยู่ใช่ไหมคะ ส่วนตัวไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายค่ะ เพราะมีแฟนเป็นผู้หญิง เลยไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องโรคติดต่อ แบบนี่ควรตรวจภายในไหมคะ (กลัวมากๆ)
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
ถ้าเคยมีเพศสัมพันธฺแล้ว ไม่ว่าจะกับชายหรือหญิง แนะนำให้ตรวจภายใน เพื่อคัดกรองโรค เป็นประจำทุกปีครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หนูมีอาการปวดประจำเดือนทุกเดือนค่ะ อยากทราบว่าอาการปวดนี้ปกติหรือไม่คะ 1. เวลาปวดจะปวดช่วง1-2วันแรกตอนเมนมา 2. ถ้ากินยาแล้วจะหายปวดค่ะ แต่ถ้าไม่กินยาก็จะปวดแบบบางทีลุกเดินไหวนะคะ แต่เดินแบบตัวงอ ง่ายๆคือปวดแบบต้องกินยาอะค่ะ 3. ยาที่กิน ถ้ากินยาพวกพอนสแตน (เม็ดเหลืองๆรีๆ) ไม่หายปวดเลยค่ะ แต่ถ้ากินยา Mainnox แล้ว อาการปวดจะหายเลย (เภสัชเคยบอกว่ายานี้ลดอาการปวดเกร็งโดยตรง) มีรูปยาให้ดูค่ะ. 4. ไม่เคยตรวจภายใน 5. บางทีหลังจากประจำเดือนหมดประมาณ 2 อาทิต จะมีเลือดไหลออกมาเหมือนยังตกค้างอะค่ะ ไหลนิดๆ ติดกางเกงใน ประมาณ 1-2 จุด สีน้ำตาลๆ 6. เมนมาก่อนรอบเก่าประมาณ 1-2 วัน อย่างเช่น รอบเดือนพฤษภาคมมาวันที่ 3 เดือนมิถุนายนก็จะมาวันที่ 31 พค.เลย 7. เมนมาไม่เกิน7วันต่อรอบ ไม่ได้มาเยอะถึงขนาดต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ อยากทราบว่า อาการปวดท้องเมนนี้เป็นอาการปวดปกติไหมคะ หรือปวดแบบผิดปกติแล้ว กลัวเป็นช็อคโกแลตซีสต์ค่ะ แต่ก็กลัวที่จะไปหาหมอ (กลัวตรวจภายใน) เรื่องอายหมอไม่ค่อยอายค่ะ แต่กลัวเจ็บมากกว่า
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)