July 08, 2019 23:46
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการปวดประจำเดือน มีสาเหตุการเกิดสองแบบ ได้แก่
>>แบบแรก คือ เกิดจากการหดตัวของมดลูก เพื่อขับเลือดประจำเดือน สามารถเกิดได้เป็นปกติครับ โดยอาการอาจจะเกิดขึ้น ก่อนมีประจำเดือน 1-2 วัน และในช่วงการมีประจำเดิอน โดยเฉพาะ 12-72 ชมแรกครับ
อาการปวด จะปวดแบบบีบๆ เหนือหัวหน่าว บางคนอาจร้าวไปหลังได้ด้วย และร่างกาย อาจหลั่งสารความเจ็บปวดออกมา ทำให้มีอาการตามระบบร่วมด้วย เช่น ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศรีษะ ท้องเสียถ่ายเหลว เป็นต้นครับ
>>แบบที่สอง คือ การปวดประจำเดือนทีมีสาเหตุมาจากความผิดปกติขอวระบบสืบพันธ์สตรีอื่นๆ เช่น
- เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอก ในมดลูก
- -โรคของรังไข่ เช่น ชอคโกแลตซีส ถุงน้ำรังไข่ PCOS เป็นต้น
- การติดเชื้อ เป็นต้น
ผู้ป่วยอาจประสบปัญหา เช่น ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย ปวดข้างใดข้างหนึ่งของท้องน้อยมากกว่าปกติ คลำได้ก้อนหรือ มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติได้ครับ*******ดังนั้น กรณีของคนไข้ เนื่องจากปวดมาก ปวดด้านเดียว มีอาการหน้ามืดเป็นลม อาจเป็นการปวดที่ผิดปกติได้ จึงควรไปพบแพทยืเพื่อตรวจเพิ่ทเติมครับ*******
คำแนะนำเบื้องต้น เมื่อมีประจำเดือนและมีอาการปวดประจำเดือนคือ
1.ทานน้ำมากๆ
2.ยาแก้ปวดที่ช่วยได้ เช่น mefenamic acid หรือ ponstan , diclofenac , ibuprofen , พาราเซตามอล เป็นต้น
3.การประคบอุ่น หรือ การใช้ถุงน้ำร้อน
4.พักผ่อนมากๆ
5.พยายามไม่มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดิอน เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อต่างๆได้ง่ายครับ
หากมีอาการผิดปกติ ที่หมอกล่าวไป ที่อาจมีความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติที่จะทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนแบบที่สอง ได้แก่ ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน หรือส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมครับ
การรักษาจะเป็นไปตามสาเหตุครับ เช่น การให้ยาปรับฮอร์โมน การผ่าตัด เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ประจำเดือนมาวันที่ 23-28 มิ.ย.62 มาช่วงเช้าไม่รู้ตัวว่าประจำเดือนมา เมื่อเวลาผ่านไป ประมาณตอนเที่ยงเริ่มมีอาการปวดท้องน้อยด้านซ้าย ปวดมาก ปวดบิด ต้องงอตัว เดินหรือยืนตัวตรงไม่ได้เต็มที่ เมื่อช่วงที่มดลูกบีบตัวจะปวดมาก มือสั้นและหน้ามืด เมื่อทำการประคบร้อนยิ่งปวดบิดมากขึ้น ปวดจนทนไม่ได้ต้องกินยาแก้ปวดประจำเดือน(กินเมื่อปวดจนทนไม่ได้) เมื่อกินยาไปแล้วยังมีอาการปวดเหมือนเดิม ลักษณะ เหนียว เป็นเมือก สีคล้ำออกน้ำตาลเข้ม ไม่มีกลิ่น วันที่ 2 จะเป็นลิ่มเลือดออกมา และยังมีอาการปวดท้องน้อยมากเหมือนวันแรก วันที่ 3 ยังมีอาการปวดอยู่แต่น้อยกว่าวันที่ 2 ประจำเดือนมากระปริดกระปรอย วันที่ 4 มากเยอะขึ้นอีก แต่ไม่มีอาการปวดท้อง แล้วประจำเดือนก็ค่อยๆหายไป วันที่ 8 ก.ค 62 ปัสสาวะบ่อย และมีอาการปวดท้องน้อยด้านซ้ายอีก ปวดบิด เมื่อทำการกดท้องอาการทุเลาลงแต่เมื่อเอามือที่กดออกไม่นานประมาณ 2-3 นาที ก็มีอาการปวดท้องขึ้นมาอีก อยากถามว่าอาการข้างต้นคือ ปวดประจำเดือนธรรมดา หรือ จะเกี่ยวกับมดลูกหรือเกี่ยวกับรังไข่/ท่อนำไข่/ซีสต์ค่ะ * -หนูปวดประจำเดือนเพิ่มมากขึ้นทุกเดือน และปวดจนทนไม่ไหวจากที่เมื่อก่อนหนูไม่เคยมีอาการปวดท้องประจำเดือน -หนูไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือกินฮอร์โมนต่างๆ -หนูมักจะปวดท้องน้อยเฉพาะด้านซ้ายและเหนือหัวเหน่าเท่านั้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)