September 02, 2019 22:45
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้าไม่ได้เป็นบ่อยๆหลายๆครั้งจนมีเชื้อดื้อยา ไม่ได้มีทางเดินปัสสาวะผิดปกติ
ให้ยาฆ่าเชื้อ ไม่กี่วันหายครับ ส่วนใหญ่ 2-3 ก็ดีขึ้นชัดเเล้วครับ
ถ้ามีปัสสาวะเเสบขัดชัดเจน
อาจเป็นกระเพาะปัสสาวะ หรือ ท่อปัสสาวะอักเสบ
อาการคือ
- ขณะถ่ายปัสสาวะ มีอาการแสบบริเวณปลายท่อปัสสาวะ หรือบริเวณปากช่องคลอด ร่วมกับปัสสาวะขุ่น หรือปัสสาวะปนเลือด
- ถ้ามีภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย ก็จะมีอาการปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวัน กลางคืน ปัสสาวะแสบ ปัสสาวะขัด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะแล้วรู้สึกว่าไม่สุดต้องไปปัสสาวะอีกแม้เพิ่งปัสสาวะเสร็จ
- บางคนอาจจะมีอาการปวด หรือแสบบริเวณท้องน้อยร่วมด้วยทั้งตอนปวดและไม่ปวดปัสสาวะครับ
ปัจจัยเสี่ยง เช่น
1.มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง และหลายครั้งในเวลาอันสั้น
2.ดื่มน้ำน้อย
3.กลั้นปัสสาวะนาน ๆบ่อยๆ
4.ผู้ที่เคยรับการผ่าตัด หรือการรักษาด้วยการฉายแสงบริเวณกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะเพศมาก่อนครับ
......
การรักษา คือการรับประทานยาฆ่าเชื้อครับ เช่น Ciprofloxacin
ร่วมกับ การป้องกันคือ
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
- ดูแลความสะอาดบริเวณปลายท่อปัสสาวะและอวัยวะเพศ
- มีกิจกรรมทางเพศอย่างเหมาะสม โดยหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ควรไปปัสสาวะและทำความสะอาดบริเวณท่อปัสสาวะ รวมถึงอวัยวะเพศครับ
- ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานเกินไปครับ
ถ้ามีอาการตามที่บอกก็เเนะนำไปตรวจปัสสาวะครับ
ถ้ามีไข้สูงหนาวสั่น ร่วมด้วย ควรพบเเพทย์ทันที เพราะการติดเชื้ออาจลุกลามไปกรวยไตครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คือตอนที่ผมไปตรวจผมรู้สึกปวดหัวด้วยคือมันเกี่ยวกันหรือเปล่าครับหรือว่าผมควรไปตรวจซ้ำเพื่อความแน่ใจ
ขอบคุณครับ 😷😷
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infection) จะประกอบไปด้วยกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (cystitis) ท่อปัสสาวะอักเสบ (Urethritis) หรือแม้กระทั่งกรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis) ซึ่งการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะจะมีอาการดังนี้ เช่น ปัสสาวะกะปริบกะปรอย แสบปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขุ่น มีกลิ่นเหม็น ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นหนอง ปวดท้องน้อย ปวดเอว หนาวสั่น มีไข้ อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น กลั้นปัสสาวะนาน ดื่มน้ำน้อยทำให้ปัสสาวะออกน้อย ท่อปัสสาวะสั้น เป็นนิ่วบริเวณกรวยไต มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การติดเชื้อจากรูทวาร ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้สูงอายุ เป็นต้น
สำหรับการป้องกันที่ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ ไม่กลั้นปัสสาวะนาน ดื่มนานให้เพียงพอ ใช้ถุงยางป้องกันเมื่อมีคู่นอนหลายคู่ ปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์เสร็จ หลังขับถ่ายให้เช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง เป็นต้นค่ะ
การรักษาคือเบื้องต้นให้ดื่มน้ำมากๆซึ่งการดื่มน้ำจะช่วยขับเชื้อโรคออกและลดอาการปวดแสบปวดร้อนเวลาปัสสาวะได้ และไปพบแพทย์เพื่อตรวจยืนยันการวินิจฉัยและจะได้ทำการรักษาค่ะ แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะมาทานค่ะ ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือตอนที่ผมไปตรวจผมรู้สึกปวดหัวด้วยคือมันเกี่ยวกันหรือเปล่าครับหรือว่าผมควรไปตรวจซ้ำเพื่อความแน่ใจ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ จะหายได้ใหมครับแล้วนานแค่ใหนกว่าจะหาย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)