August 23, 2018 19:07
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ยาฝังคุมกำเนิด เป็นฮอร์โมนที่บรรจุในแท่งพลาสติกเล็กๆจำนวน 6 แท่ง ขนาดแท่งละ 3.4 x 0.24 เซนติเมตร(ซม) เช่น ยา Norplant® สามารถใช้ได้คุมกำเนิดได้ 5 ปี ปัจจุบันมีการพัฒนาให้สะดวกขึ้นเหลือเพียงชนิดแบบ 1 แท่ง (Implanon®) ขนาดแท่งละ 4.0 x 0.20 ซม. คุมกำเนิดได้ 3 ปี และแบบ 2 แท่ง (Jadelle®) ขนาดแท่งละ 4.3 x 0.25 ซม.
กำหนดการนำเข็มออกทุก 3-5 ปี หากครบกำหนดแล้วไปนำยาออกที่ รพ นัฐบาล เอาออกได้ฟรีตามสิทธิ์ค่ะ
-หากคนไข้ต้องการนำออกก่อนครบอายุ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง 300-500บาทขึ้นไปค่ะ ที่รพรัฐบาลนะคะ
อย่างไรก็ตาม อาการผอมลงมาก มักไม่ได้มีผลมาจากการฝังยาคุมกำเนิดนะคะ
เบื้องต้น ต้องพิจารณาเกี่ยวกับรูปร่างในปัจจุบันของคนไข้ก่อน ว่าเข้าข่าย ผอม หรือ สมส่วนค่ะ โดยดูจาก ค่า BMI หรือ ดัชนีมวลกาย ในคนไทยผู้ใหญ่ปกติ ค่ะ
โดยคนที่รูปร่างสมส่วน ผู้ชาย BMI อยู่ระหว่าง 22-23 และผู้หญิง 19-20 ค่ะ
หากมี BMI ต่ำกว่า 18.5 ถือว่าผอม และหากผอมมากๆ เช่น BMI ต่ำกว่า 17 ควรหาสาเหตุค่ะ
คนไข้ที่ทีอาการคือ ผอม นอกจากเรื่องอาหาร วิถีชีวิตประจำวันแล้ว ยังต้องดูเรื่องโรคร่วมอย่างอื่นที่อาจเป็นสาเหตุของความผอมด้วยค่ะ
โรคที่เป็นสาเหตุของความผอมที่อยากแนะนำให้คนไข้สังเกตและตรวจเพิ่มเติม ได้แก่
1. โรคไทรอยด์ สูงค่ะ คนไข้อาจมีอาการมือสั่น ใจสั่น เหงื่ออกมาก ความดันโลหิต สูง บางคน ถ่ายเหลวบ่อย ตาโปน บางคนอาจมีคอโตได้ค่ะ คนไข้จะกินจุ แต่น้ำหนักตัวน้อยค่ะ
2.โรคติดเชื้อ ต่างๆ เช่น
การติดเชื้อ HIV คนไข้ที่มีความเสี่ยงกับโรคนั้นๆ เช่น ผู้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
โรคตับ โรคไต เรื้อรัง
วัณโรค ต่างๆ ได้แก่ วัณโรคปอด วัณโรคที่ต่อมน้ำเหลือง วัณโรคที่กระดูก ทำให้คนไข้ผอมลง บางคนทีอาการไอเรื้อรัง ปวดตามตัว ไข้ต่ำๆเกือบทุกวัน หรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยวัณโรคมาก่อนค่ะ
พยาธิต่างๆ ทำให้มีอาการ ถ่ายเหลว เรื้อรัง
3.โรคเบาหวาน ระยะแรกๆ ผู้ป่วยอาจมีอาการ หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย กินจุ น้ำหนักลดค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ควรไปตรวจน้ำตาลในเลือดค่ะ
4. โรคความผิดปกติของการดูดซึมสารอาหารในลำไส้ เช่น เคยผ่าตัดมาก่อน ทำให้ลำไส้สั้นลง มีอาการถ่ายเหลวเรื้อรัง เป็นต้น
5. โรคมะเร็งต่างๆ น้ำหนักลดอาจเป็นอาการไม่เฉพาะเจาะจง แต่ถ้ามีอาการอื่นมาก่อน ร่วมกับมีน้ำหนักลดอย่างรวดเร็วเป็นหลักเดือน ก็จะทำให้นึกถึง โรคมะเร็ง ได้ค่ะ
6.โรคทางจิตใจ เช่น anorexia , โรคซึมเศร้า
7.การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสัดส่วน/ไม่เพียงพอ หลังจากที่ได้ตรวจร่างกาย ซักประวัติ ตรวจเลือด เพื่อยกเว้นสาเหตุทางกายที่เป็นไปได้ทั้งหมดของความผอมที่ผิดปกตินั้น จึงจะเข้าสู่การปรับการกินอาหารให้เหมาะสมค่ะ ได้แก่ การทานอาหารให้ตรวเวลา ครบสามมื้อ อาหารอาจเน้นที่พลังงานสูง ไม่ทานของที่ไม่มีประโยชน์ เช่น ขนมซอง น้ำอัดลม เป็นต้น อาจแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ ทานอาหารที่มีคุณค่า เช่น ขนมไทย ซาลาเปา นม เป็นต้นค่ะ
8.ยาและอาหารเสริมต่างๆที่อ้างสรรพคุณลดความอ้วน ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักหลายชนิด ไม่ได้มีการทำวิจัยหรือมีผลการวิจัยยืนยันแน่นอนว่าปลอดภัย รวมถึงยาที่รับประทานต่างๆ อาจผสมสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยหวังเอาผลข้างเคียงของยานั้นมาใช้ในการลดน้ำหนัก ตัวอย่างเช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ ยาขับปัสสาวะ ยาถ่าย ยาติตเวชต่างๆ รวมไปถึงยาแอมเฟตามีน ซึ่งยาเหล่านี้ สามารถลดน้ำหนักได้จริง แต่จะมาพร้อมผลข้างเคียงอื่นๆอีกมากมาย บางทีร้ายแรงถึงชีวิต เช่น ใจสั่น เกลือแร่ผิดปกติอย่างมาก กระดูกพรุน หัวใจวาย ติดยา อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ มีความผิดปกติของสารสื่อประสาท สุญเสียการทำงานของสมดุลร่างกายอย่างมากคะ
ดังนั้น หมอแนะนำให้คนไข้สังเกตตนเองว่ามีอาการที่าจเป็นโรคที่นำมาซึ่งความผอมผิดปกติหรือไม่นะคะ ถ้ามีคนไข้ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและหารสาเหตุ จะได้รักษาให้ตรงจุดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ก่อนฝั่งเข็มยาคุมน้ำหนักอยู่ที่45-46 ฝั่งมาได้4เดือนกว่าน้ำหนักลดลงมาเรื่อยๆจนตอนนี้เหลืออยู่ที่38-39เองค่ะ ปจด.มาบ่อยค่ะเดือนนึงมา2สัปดาห์ขึ้นไปกว่าจะหมดอะค่ะ เกี่ยวกันหรือเปล่าคะ หรือว่ายังปกติอยู่
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย คือ ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีเลือดออกทางช่องคลอดเมื่อใด โดยบางคนเมื่อเวลาผ่านไป อาการดังกล่าวจะหายไปเอง ส่วนบางคนจะพบว่ามีอาการปวดท้องประจำเดือนน้อยลง หรือบางคนจะพบว่าทำให้ประจำเดือนขาดได้
ได้ ซึ่งอาการเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ อาจเป็นผลข้างเคียงของยาคุมได้ ไม่ต้องตกใจค่ะ
**กรณี มีเลือดออกกระปริบกระปรอย การไปพบแพทย์ จะมียาช่วยได้ค่ะ โดยให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน 0.05 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ด ประมาณ 7-10 วัน เพื่อลดอาการเลือดออกกระปริดกระปรอยค่ะ
ผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้แก่
-อารมณ์แปรปรวน
-มีภาวะซึมเศร้า
-ปวดศีรษะ
-ปวดท้อง
-คลื่นไส้
-สิวขึ้น
-มีอาการกดเจ็บที่เต้านม
-บวมน้ำ
-บางคนจะพบว่ามีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเพราะยาฝังคุมกำเนิดหรือไม่
-ยาฝังคุมกำเนิดอาจมีปฏิกิริยาต่อยาชนิดอื่น ๆ
ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะหยุดไปเองหลังผ่านช่วงเดือนแรก ๆ ที่ฝังยาไป แต่หากพบว่ามีอาการต่อไป หรือมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง รวมไปถึงหากพบว่ามีผลข้างเคียงอื่น ๆ เกิดขึ้น ที่ไม่ควรจะพบ เช่น น้ำหนักลดผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ก่อนฝัง48 พอฝังผ่านไป3วันน้ำหนักลดเหลือ38 ตอนนี้ฝังได้9เดือนกว่าแล้วนน.เหลือ33เองคะ หน้ามืด แล้วก็เลือดจางปวดหัวบ่อยด้วย หิวบ่อนกินเยอะกว่าตอนจะฝัง ยิ่งกินนน.ยิ่งลดคะ แบบนี้ผิดปกติมากไหมคะ
ถอดเข็มคุมกำเนิดออกก่อนกำหนดราคาเท่าไหร่ค่ะ
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เอายาฝังคุมกำเนิดออกก่อนกำหนดเท่าไหร่ค่ะ
เอาเข็มฝังยาคุมออกก่อนกำหนดมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่คะ เนื่องจากฝังมาแล้วตอนนี้ผอมโทรมมากๆเลยค่ะ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)