“อะไซโคลเวียร์ (Acyclovir)” เป็นยาต้านเชื้อไวรัสที่เกิดจากไวรัสเริม (Herpes Simplex Virus: HSV) และไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ ( Varicella Zoster Virus: VZV) ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1980
ยา Acyclovir จะออกฤทธิ์ยับยั้งการแพร่พันธุ์ของเชื้อไวรัส โดยรบกวนการสร้างและสังเคราะห์สารทางพันธุกรรม (DNA) ของเชื้อไวรัส ทำให้ไวรัสอ่อนกำลังลง และไม่สามารถก่อโรคได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
Acyclovir ใช้รักษาโรคอะไรบ้าง?
- ใช้เพื่อบรรเทาอาการ และลดระยะเวลาการเกิดเป็นแผล หรือตุ่มน้ำพอง ในผู้ป่วยโรคอีสุกอีใส หรือผู้ป่วยโรคงูสวัด
- ใช้รักษาเริมในที่ต่างๆ เช่น ผิวหนัง ตา จมูก ริมฝีปาก หรืออวัยวะเพศ ทั้งในผู้ป่วยที่เป็นครั้งแรก หรือผู้ที่กลับเป็นซ้ำ
- ใช้รักษาภาวะอักเสบของโรคผิวหนังที่เป็นผื่นแดง (Eczema Herpeticum)
- ใช้รักษาในผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี หรือโรคแฮรีลิวโคพลาเกีย (Hairy leukoplakia)
ในปัจจุบันมีงานวิจัยชี้ว่า ประสิทธิภาพการรักษาของ Acyclovir ลดลง เนื่องจากไวรัสก่อโรคพัฒนาสายพันธุ์ที่ดื้อยาขึ้น โดยภาวะดื้อยาสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันดี และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
กลไกการออกฤทธิ์ยา Acyclovir
Acyclovir มีกลไกการออกฤทธิ์ที่จำเพาะต่อเอ็นไซม์ของไวรัส (Viral thymidine kinase (TK) enzyme) ซึ่งจะเปลี่ยน Acyclovir ให้เป็นรูป Active เข้าไปยับยั้งขบวนการสร้างสารพันธุกรรม (DNA) ของไวรัสภายในเซลล์ ทำให้ไวรัสไม่สามารถแพร่พันธ์ได้
รูปแบบของยา Acyclovir
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน มี 3 ขนาด คือ 200 400 และ 800 มิลลิกรัม
- ยาแคปซูลสำหรับรับประทาน
- ยาครีมสำหรับทาภายนอก ประกอบด้วยอะไซโคลเวียร์ ความเข้มข้น 5%
- ยาน้ำ
- ยาขี้ผึ้งป้ายตา ประกอบด้วยอะไซโคลเวียร์ ความเข้มข้น 3%
- ยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ประกอบด้วย อะไซโคลเวียร์ ความเข้มข้น 25 mg/ml
ยา Acyclovir ชนิดรับประทาน
- รักษาโรคงูสวัด 800 มิลลิกรัม 5 ครั้ง/วัน เป็นเวลา 7-10 วัน
- รักษาโรคเริมอวัยวะเพศ 200 - 400 มิลลิกรัม 5 ครั้ง/วัน เป็นเวลา 7-10 วัน
- ป้องกันการกำเริบของโรคเริมที่อวัยวะเพศ 400 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง ติดต่อกันเป็นเวลา 12 เดือน
- โรคอีสุกอีใสในผู้ใหญ่ 800 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง หรือ 4 ครั้ง/วัน ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน
- โรคอีสุกอีใสในเด็ก 20 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทุก 6 ชม. เป็นเวลา 5 วัน โดยขนาดสูงสุดไม่เกิน 800 มิลลิกรัม/ครั้ง
ยา Acyclovir ชนิดครีมสำหรับทาภายนอก
มีข้อบ่งใช้ คือ รักษาผิวหนังอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสเริม
ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ คือ ขนาดความเข้มข้น 5% ทาบริเวณที่ติดเชื้อวันละ 5-6 ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 5-10 วัน
ยา Acyclovir ชนิดขี้ผึ้งป้ายตา
มีข้อบ่งใช้ คือ รักษาผิวหนังอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสเริม
ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาดความเข้มข้น 3% ป้ายเปลือกตาล่างด้านในวันละ 5 ครั้ง ห่างกัน 4 ชั่วโมง ใช้ยาต่อเนื่องกัน 3 วัน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หลังจากอาการหายดีแล้วไม่ควรใช้ต่อ เนื่องจากยาขี้ผึ้งสำหรับป้ายตาอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการมองเห็น และไม่ควรขับขี่ยานพาหนะ หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้เครื่องจักรหลังการใช้ยา
ข้อควรระวังของ Acyclovir
- Acyclovir ไม่ได้รักษาโรคติดเชื้อไวรัส แต่ทำให้ภาวะติดเชื้อหายเร็วขึ้น และรุนแรงน้อยลงในบางคน
- หากใช้ Acyclovir เพื่อรักษาเริมที่อวัยวะเพศ ยานี้สามารถลดความรุนแรง หรือป้องกันการเกิดซ้ำของโรคได้
- หากใช้ Acyclovir เพื่อรักษาโรคอีสุกอีใส หรืองูสวัด ยานี้สามารถลดความรุนแรงของภาวะติดเชื้อได้
- การรักษาด้วย Acyclovir จะได้ผลดีที่สุดก็ต่อเมื่อเริ่มใช้ทันทีที่มีผื่นปรากฏ หรือภายใน 3 วัน แต่หากเป็นผื่นงูสวัดต้องใช้ภายใน 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ในเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงแล้วเป็นผื่นอีสุกอีใสอาจไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้ แต่ในเด็กโต หรือผู้ใหญ่ที่เป็นโรคอีสุกอีใส ควรใช้ยารักษาควบคู่กับการดื่มน้ำตามมากๆ - เด็กอายุน้อยกว่า 2 ปีไม่ควรใช้ยานี้
- หากคุณมีโรคไต หรือระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ควรใช้ยา Acyclovir ด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจเกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรง
- กรณีติดเชื้อเริมที่อวัยวะเพศ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย เพราะเชื้อสามารถแพร่กระจายผ่านทางเพศสัมพันธ์ได้ และการใช้ยา Acyclovir เพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้
การใช้ Acyclovir ในผู้หญิงตั้งครรภ์ และผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร
ยังไม่มีการศึกษาการใช้ยา Acyclovir ในผู้หญิงตั้งครรภ์ จึงไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะบอกว่าปลอดภัย จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
นอกจากนี้ ยา Acyclovir สามารถส่งผ่านทางน้ำนมได้ ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเช่นกัน
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปของยา Acyclovir
- ท้องร่วง
- อาเจียน
- อาการปวดหัว
- เวียนหัว
- เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า
- ปวดกล้ามเนื้อ หรือปวดข้อ
- การมองเห็นมีปัญหา
- น้ำคั่งในร่างกาย
- ผมร่วง
- สับสน
- พฤติกรรมบางอย่างเปลี่ยนแปลง
ผลข้างเคียงร้ายแรงที่ควรพบแพทย์ทันที
- ผื่นรุนแรง ลมพิษ หรือมีผื่นที่ทำให้เกิดตุ่มน้ำ และแผลถลอก
- ผิวหนัง หรือดวงตามีสีเหลือง
- มีเลือดออกผิดปกติ หรือมีอาการฟกช้ำ
- ภาวะชัก
- หมดสติ
- อาการบวมของใบหน้า ริมฝีปาก หรือลิ้น
- หายใจลำบาก
- ปัสสาวะน้อยลง หรือมีเลือดในปัสสาวะ
- ง่วงนอนอย่างรุนแรง หรือมีภาวะสับสน
- เห็นภาพหลอน
- เหน็บชาและเดินเซ
ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี อาจได้รับผลข้างเคียงจาก Acyclovir มากกว่าคนอื่น เพราะมักมีปัญหาเรื่องไตไม่สามารถกำจัดยาได้เท่ากับคนอายุน้อย จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
ปฏิกิริยาต่อยาอื่นของ Acyclovir
หากคุณรับประทานยาแผนปัจจุบัน ยาสมุนไพร หรืออาหารเสริมชนิดใดชนิดหนึ่งอยู่ ควรแจ้งแพทย์ก่อนใช้ยา เพราะยาเหล่านั้นอาจทำปฏิกิริยากับ Acyclovir ได้
ตัวอย่างยาที่มีผลต่อยา Acyclovir เช่น
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- ยาที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา เช่น amphotericin B (Fungizone), amikacin (Amikin) และ gentamicin
- Garamycin (Kantrex) และ Tobramycin (Tobi, Nebcin)
- ยาจำหน่ายหน้าเคาเตอร์ หรือเรียกว่า ยา OTC (Over The Counter drugs) เช่น Advil, Motrin หรือ Aleve
- ยาที่ใช้รักษา HIV เช่น Zidovudine (Retrovir, AZT)
- ยาที่ใช้ขยายหลอดลม เช่น Aminophylline, Theophylline
หากลืมรับประทานยา Acyclovir ต้องทำอย่างไร?
โดยทั่วไปถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
อย่างไรก็ตาม การลืมรับประทานยาอาจทำให้การรักษาภาวะติดเชื้อไม่สมบูรณ์ หรือทำให้เกิดอาการเชื้อดื้อยาได้
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาเกินขนาด
- มีอาการตัวสั่น
- ง่วงนอนมาก
- หมดสติ
- มีอาการชัก
- ไตวาย (เพราะไตไม่สามารถกรองน้ำในร่างกายให้เป็นปัสสาวะได้)
หากผู้ป่วยได้รับยาเกินขนาด แล้วมีอาการดังกล่าว ควรรับปรึกษาแพทย์ทันที
การเก็บรักษายา
- ควรเก็บยาในภาชนะบรรจุเดิม ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก
- ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 15-25 องศาเซลเซียส ไม่ควรอยู่ในที่อุณหภูมิมากกว่า 30 องศาเซลเซียส
- ห้ามถูกแสงแดดโดยตรง
- ไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียก หรือชื้น
- ควรทิ้งยาทันทีเมื่อหมดอายุ
ยา Acyclovir สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้หลายอย่าง จึงควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ หรือเภสัชกร หากเกิดอาการแพ้ยารุนแรง ควรหยุดใช้ยา และไปพบแพทย์ทันที
ดูแพ็กเกจฉีดวัคซีนงูสวัด เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android