กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ภญ.สุภาดา ฟองอาภา
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ภญ.สุภาดา ฟองอาภา

Zovirax (ตัวยา Acyclovir)

เผยแพร่ครั้งแรก 23 ม.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 8 ก.ค. 2020 เวลาอ่านประมาณ 5 นาที

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • ยา acyclovir เป็นยาสำหรับรักษาอาการของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น โรคเริม โรคงูสวัด โรคอีสุกอีใส แต่ไม่ได้มีฤทธิ์กำจัดเชื้อไวรัสให้หายไปจากร่างกายได้อย่างเด็ดขาด
  • การรับประทานยา acyclovir ควรรับประทานในปริมาณตามแพทย์สั่งทุกครั้ง และควรรับประทานในเวลาเดิมทุกวัน และควรรับประทานตั้งแต่เริ่มมีอาการใหม่ๆ
  • ผลข้างเคียงจากยา acyclovir ที่พบบ่อย เช่น เวียนศีรษะ ปวดท้อง คลื่นไส้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย มีไข้ เบื่ออาหาร ท้องเดิน ท้องร่วง ท้องเสีย ผื่นขึ้น ตาแดง ผม
  • ผู้ป่วยโรคไต โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน ผู้สูงอายุ ผู้ที่เคยปลูกถ่ายไขกระดูก ปลูกถ่ายไต คือ กลุ่มผู้ที่ต้องระมัดระวังในการใช้ยาตัวนี้กว่าคนปกติ ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน ห้ามซื้อยารับประทานเอง
  • ยา acyclovir สามารถเกิดปฏิกิริยากับยาตัวอื่นได้ เช่น ยา Foscarnet ยา Tizanidine ยากลุ่ม NSIADs จึงต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบเกี่ยวกับประวัติการใช้ยาก่อนตรวจสุขภาพ
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพผู้หญิง ผู้ชายทุกวัย

ยาอะไซโคลเวียร์ acyclovir ใช้สำหรับรักษาโรคติดเชื้อไวรัสบางชนิด โดยออกฤทธิ์รักษาแผลพุพองรอบๆ ปาก โดยเฉพาะจากโรคเริม ซึ่งมีสาเหตุจากเชื้อไวรัส herpes simplex โรคงูสวัด ซึ่งมีสาเหตุจากเชื้อไวรัส herpes zoster และโรคอีสุกอีใส (Chickenpox)

นอกจากนี้ยา acyclovir ยังใช้ในการรักษาโรคเริมที่อวัยวะเพศ (Genital herpes) ได้อีกด้วย ในผู้ที่ป่วยเป็นโรคเริมที่อวัยวะเพศบ่อยครั้ง การใช้ยา acyclovir จะช่วยลดจำนวนครั้งของการเป็นโรคนี้ในอนาคตได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ยา acyclovir เป็นยาต้านเชื้อไวรัส (antiviral drug) อย่างไรก็ตาม ยานี้ไม่สามารถรักษาการติดเชื้อให้หายขาดได้ ทำให้เชื้อไวรัสยังคงมีชีวิตอยู่ในร่างกายของผู้ติดเชื้อต่อไป แม้จะไม่มีอาการของโรคก็ตาม 

ยา acyclovir จะช่วยลดความรุนแรงของอาการ และช่วยย่นระยะเวลาของอาการโรคให้สั้นลง ช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น ป้อง กันไม่ให้เกิดแผลใหม่ และช่วยลดอาการปวด หรืออาการคันให้กับผู้ป่วย 

ยา acyclovir ยังอาจช่วยบรรเทาอาการปวดที่ยังหลงเหลืออยู่ แม้ว่าแผลผู้ป่วยจะหายแล้วก็ตาม นอกจากนี้ยา acyclovir ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสในผู้ร่างกายที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอีกด้วย 

วิธีใช้ยา acyclovir

ยา acyclovir ในปัจจุบันมักมีจำหน่ายในรูปของยาเม็ดขนาด 200, 400 และ 800 มิลลิกรัม วิธีรับประทานยาตัวนี้ให้มีประสิทธิภาพที่สุด มีดังต่อไปนี้

  • รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โดยอาจรับประทานก่อน หรือหลังอาหารก็ได้ตามแต่แพทย์ประเมิน ซึ่งโดยทั่วไปยานี้จะรับประทานวันละ 2-5 ครั้ง และให้ดื่มน้ำตามมากๆ ระหว่างการใช้ยานี้ด้วย 
  • หากรับประทานยาในรูปแบบยาน้ำ ต้องเขย่าขวดยาก่อนรับประทานยาทุกครั้ง และต้องตวงยาด้วยช้อนตวงยา หรืออุปกรณ์ตวงยาเท่านั้น เพื่อให้ได้ขนาดยาที่ถูกต้อง อย่าใช้ช้อนรับประทานอาหารในการตวงยาแทน
  • ควรประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน
  • อย่าเพิ่มปริมาณยาเองและอย่าหยุดยาเองโดยเด็ดขาด เพราะปริมาณ acyclovir ที่แพทย์จ่ายให้นั้น จะจ่ายตามสภาวะโรค การตอบสนองต่อยา และอายุผู้ป่วยด้วย
  • แจ้งแพทย์ให้ทราบเกี่ยวกับความคืบหน้าของอาการหลังใช้ยา หากอาการของโรคยังไม่ดีขึ้น หรืออาการแย่ลง แพทย์จะได้พิจารณาเปลี่ยนยาให้

ผลข้างเคียงของยา acyclovir

หลังจากใช้ยา acyclovir อาจมีอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดศีรษะ อาเจียน ซึ่งหากยังมีอาการแบบนี้ไปอย่างต่อเนื่องตลอดการใช้ยา ให้แจ้งแพทย์ หรือเภสัชกรทันที

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้น ก็ไม่ได้หมายความว่า ยาจะเป็นโทษต่อร่างกายจนต้องเปลี่ยนยาเสมอไป เพราะก่อนจ่ายยาให้ แพทย์จะพิจารณาถึงประโยชน์จากยามากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงอยู่แล้ว 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ฉีดวัคซีนงูสวัดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 4292 บาท ลดสูงสุดถึง 655 บาท

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

นอกจากผลข้างเคียงที่กล่าวไปข้างต้น ควรแจ้งแพทย์ทันทีหากพบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงต่อไปนี้ 

  • เวียนศีรษะ 
  • ง่วงนอน
  • มีอาการของโรคไต เช่น ปริมาณปัสสาวะเปลี่ยนแปลง ปวดหลัง ปวดสีข้างอย่างผิดปกติ 
  • มีการเปลี่ยนแปลงของจิตใจ และอารมณ์ เช่น กระสับกระส่าย สับสน ประสาทหลอน
  • ตัวสั่น 
  • การทรงตัวผิดปกติ
  • พูดลำบาก
  • จังหวะการหายใจเต้นผิดปกติ 
  • มีรอยฟกช้ำตามตัวได้ง่าย
  • ปัสสาวะมีสีเข้ม หรือมีเลือดปน 
  • ปวดท้องอย่างรุนแรง
  • ตัวเหลือง ตาเหลือง
  • การมองเห็นผิดปกติไปอย่างกะทันหัน
  • เกิดอาการชัก
  • หมดสติ 

นอกจากนี้ ยา acyclovir ยังสามารถส่งผลต่อเซลล์เม็ดเลือด ไต และส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ แต่จะมีโอกาสเกิดกลุ่มอาการเหล่านี้ได้ ก็ต่อเมื่อผู้ใช้ยามีสภาวะร่างกายที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี เคยได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก หรือปลูกถ่ายไต มาก่อน

ผู้ใช้ยา acyclovir ยังสามารถมีปฏิกิริยาการแพ้ยาได้ แต่เป็นกรณีที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตาม หากพบอาการของการแพ้ยา ให้ไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ อาการผื่น คัน บวมโดยเฉพาะที่ใบหน้า ลิ้น คอ เวียนศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก

ผลข้างเคียงดังจากการใช้ยา acyclovir ที่กล่าวข้างต้นไม่ใช่ผลข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้น หากมีอาการข้างเคียงใดๆ นอกเหนือจากที่กล่าวไว้ให้ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรทันที

ข้อควรระวังในการใช้ยา acyclovir

  • ผู้ป่วยโรคไต โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี เคยได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก การปลูกถ่ายไต คือ กลุ่มผู้ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการใช้ยาตัวนี้ จึงควรแจ้งประวัติการใช้ยา และประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบก่อนเข้าตรวจ
  • อาจมีอาการรวิงเวียนศีรษะ ง่วงนอน อ่อนเพลียหลังจากรับประทานยาตัวนี้ แต่ถือเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้น้อยมากๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากรับประทานยาตัวนี้แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการขับรถ ทำงานกับเครื่องจักร เพื่อความปลอดภัย
  • อาการข้างเคียงอื่นๆ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้อง 
  • หากกำลังใช้ยา acyclovir อยู่ แล้วต้องเข้ารับการผ่าตัด ให้แจ้งแพทย์ทราบเสียก่อนรวมถึงรายการยาอื่นๆ อาหารเสริม และสมุนไพรที่กำลังใช้อยู่ด้วย
  • ระหว่างใช้ยาตัวนี้ ห้ามฉีดวัคซีนบางชนิด เช่น วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส (varicella virus) หากยังไม่ได้รับคำยินยอมจากแพทย์
  • ผู้สูงอายุมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากนี้ได้มากที่สุด ผู้ดูแล หรือคนในครอบครัวจึงต้องสังเกตอาการที่เกิดขึ้นหลังผู้ป่วยสูงอายุใช้ยา acyclovir ด้วย โดยเฉพาะปัญหาที่ไต เช่น ปริมาณปัสสาวะเปลี่ยนแปลงไป ปวดหลัง ปวดสีข้าง
  • ยา acyclovir ช่วยรักษาแผล และอาการของโรคเริมได้ก็จริง แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคด้วย ดังนั้นหากมีอาการของโรคติดเชื้อไวรัส Herpes simplex ที่อวัยวะเพศ ต้องงดการมีเพสสัมพันธ์ในระหว่างรักษาโรคเริมถึงแม้จะใช้ยาตัวนี้อยู่ (ยังรักษาไม่หาย) เพราะจะทำให้ติดต่อไปยังอีกฝ่ายได้
  • สารในยา acyclovir สามารถส่งผ่านจากน้ำนมไปสู่ทารกได้ หญิงตั้งครรภ์ หรือที่กำลังให้นมบุตรอยู่ จึงต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาตัวนี้
  • ห้ามแบ่งยานี้ให้กับผู้อื่นใช้โดยเด็ดขาด เพราะยานี้ถูกสั่งจ่ายสำหรับสภาวะโรคปัจจุบันของคุณเท่านั้น และห้ามใช้ยานี้สำหรับการติดเชื้อในครั้งอื่นๆ ยกเว้นแพทย์สั่ง

ปฏิกิริยาระหว่างยา acyclovir กับยาอื่น

การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ซึ่งข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด

ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่า กำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ฉีดวัคซีนงูสวัดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 4292 บาท ลดสูงสุดถึง 655 บาท

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

สำหรับตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาบางชนิดที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยา acyclovir ได้แก่

  • ยาที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับไต เช่น ยากลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (nonsteroidal anti-inflammatory drugs-NSAIDs) เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ยานาพรอกเซน (Naproxen)
  • ยา acyclovir มีส่วนประกอบคล้ายกับยาวาลาไซโคลเวียร์ (valacyclovir) อย่างมาก ดังนั้นห้ามใช้ยาที่มีส่วนประกอบของ valacyclovir ขณะกำลังใช้ยา acyclovir

นอกจากนี้ ยังมียาอื่นๆ ที่สามารถเกิดปฏิกิริยากับยา acyclovir ได้ หากมียาที่ต้องรับประทานร่วมกับ Acyclovir โปรดแจ้งแพทย์ หรือเภสัชกร ทราบ

การได้รับยา acyclovir เกินขนาด

หากได้รับยา acyclovir เกินขนาดจนทำให้เกิดอาการร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที ส่วนอาการของการได้รับยาเกินขนาดอาจมีดังนี้

  • ปริมาณปัสสาวะผิดปกติไปจากเดิม
  • อ่อนเพลียอย่างมาก
  • กระสับกระส่าย
  • หมดสติ
  • เกิดอาการชัก

หากลืมรับประทานยา acyclovir

ถ้าลืมรับประทานยาให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่ถ้านึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไปแล้ว ให้ข้ามมื้อที่ลืม และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า

การเก็บรักษายา acyclovir

เก็บรักษายาที่อุณหภูมิห้อง (ประมาณ 15-25 องศาเซลเซียส) ห่างจากแสงแดง และความชื้น ไม่เก็บยาในห้องอาบน้ำ รวมทั้งเก็บยาให้ห่างจากเด็กและสัตว์เลี้ยง

เมื่อยาหมดอายุ หรือเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีก ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ยานี้อย่างเหมาะสม ไม่เทยานี้ทิ้งในห้องน้ำ หรือในท่อระบายน้ำ

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพผู้หญิง ผู้ชายทั่วไป จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


7 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
PubChem, Acyclovir (https://pubchem.ncbi.nlm.nih.gov/compound/Acyclovir), 17 March 2020.
Medlineplus, Acyclovir (https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a681045.html), 16 March 2020.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน ผู้อ่านไม่ควรเลือกใช้ยาเองจากการอ่านบทความ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพราะแต่ละท่านอาจมีสาเหตุของโรค โรคประจำตัว และประวัติการรักษาที่ต่างกัน ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)