เม็ดเลือดขาวแม้จะมีปริมาณเพียงประมาณ 1% ของน้ำเลือดแต่เม็ดเลือดขาวก็มีประโยชน์อย่างยิ่งเสมือนเป็นกองทัพที่มีบทบาทป้องกันร่างกายจากโรคร้ายต่างๆเม็ดเลือดขาวนั้นมีหลากหลายชนิดซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันการตรวจค่าเม็ดเลือดขาวแต่ละชนิดจึงเป็นเรื่อง จำเป็นสำหรับแพทย์และเป็นเรื่องควรทราบสำหรับตัวท่านเจ้าของร่างกายการรู้ขีดความสามารถของกองทัพแห่งชาติตนเองสำคัญอย่างไรการรู้เรื่องของเม็ดเลือดขาวก็สำคัญเช่นนั้น
วัตถุประสงค์
เพื่อทราบจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวปริมาตรใดปริมาตรหนึ่งโดยทั่วไปจะใช้ต่อ 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตรแต่ในหน่วยสากลจะใช้ตอน 1 ลิตร
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คำอธิบายอย่างสรุป
- WBC leukocyte มีหน้าที่ในการออกกำลังกายโดยการทำลายจุลชีพก่อโรคเช่นเชื้อโรคหรือจุลินทรีย์ใด ๆที่แปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายหรือแม้แต่เซลล์ของร่างกายเองที่กลายพันธุ์ไปก่อนที่จะเป็นเซลล์มะเร็ง ก็จะถูกกำจัดโดย WBC บางตำราก็เรียกว่า "leukocyte count"
รูปที่ 4 แสดงแหล่งกำเนิดและรูปลักษณ์ของเม็ดเลือดชนิดต่าง ๆ หน้า 87
- WBC ในทางการแพทย์ไทยต้องการให้แสดงคน 2 ค่าใหญ่ ๆ คือ 1) จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวทั้งหมด (total number of WBC) คือหัวข้อที่กำลังกล่าวถึง และ 2) จำนวนเซลล์แยกย่อยของเม็ดเลือดขาว (differential white blood counts) ซึ่งจะได้กล่าวถึงในข้อต่อไปแต่อย่างไรก็ตามก็ใคร่จะเอ่ยชื่อ "เซลล์แยกย่อยของ WBC" พอให้รู้จักเฉพาะชื่อไว้ก่อน ดังนี้
- Lymphocytes (ลิมโฟไซต์)
- Monocytes (โมโนไซต์)
- Basophils (เบโซฟิลส์)
- Eosinophils (อีโอซิโนฟิลส์)
- Neutrophils (นิวโตรฟิลส์)
ค่าปกติของ WBC
- ให้ยึดถือตามข้าที่ระบุไว้ในใบรายงานแสดงผลเลือด (ถ้ามี)
- ค่าปกติทั่วไปในผู้ใหญ่ (ชาย / หญิง)
W BC count : 5,000-11,000 cells/cu.mm
หรือ : 5-11 x 109/L
ค่าผิดปกติที่ถือว่าวิกฤติ
หน่วยทั่วไป : <2,500 หรือ > 30,000 /mm3
หรือ : < 25 หรือ > 30 x 109/L
ค่าผิดปกติ
- ในทางน้อย อาจแสดงผลว่า...
- ร่างกายกำลังได้รับพิษจากยา (drug toxicity) เช่น การได้พิษจากยาเคโมรักษามะเร็งหรือวิธีเคมี บำบัด (chemotherapy)
- ไขกระดูกมีความผิดปกติ (bone marrow failure)
- ร่างกายติดเชื้ออย่างรุนแรง (overwhelming infection)
- ร่างกายขาดสารอาหารบางอย่างเช่น วิตามินบี 12 กรกฟอลิกหรือธาตุเหล็ก
- ม้ามทำงานมากเกินไป (hypersplenism) โดยดักจับเก็บเม็ดเลือดขาวไว้อย่างมากผิดปกติจากกระแสเลือด
- สภาวะ WBC ต่ำมีศัพท์แพทย์เรียกว่า leukopenia
- ในทางมาก อาจแสดงผลว่า...
- ร่างกายอาจกำลังได้รับเชื้อโรคสำคัญหรือเกิดโรคจากจุลชีพก่อโรคที่หลุดเข้าสู่ร่างกายจึงกระตุ้นให้ต้องเร่งสร้างจำนวนเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้น
- อาจเกิดโรคสร้างเม็ดเลือดขาวมากผิดปกติจากไขกระดูก (myeloproliferative disorder)
- อาจกำลังเกิดมะเร็งชนิดใดชนิดหนึ่งก็ได้เช่นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia)
- อาจกำลังเกิดความรักขายเคืองเช่นเกิดจากความเครียดหรือริดสีดวงทวารซึ่งมีผลต่อระดับฮอร์โมน ที่มีอิทธิพลในการสร้างเม็ดเลือด
- อาจเกิดสภาวะการขาดน้ำ
- ต่อมไทรอยด์เอาทำงานมากเกินไป
- อาจกินยากลุ่ม steroid มันนานเกินไป
- สภาวะ WBC สูงเกินไปมีศัพท์แพทย์เรียกเป็นการเฉพาะว่า leukocytosis
ค่า WBC ซึ่งต่ำหรือสูงผิดจากความจริงอาจมีเหตุเนื่องจาก…
- กินอาหารบางประเภทหรือกิจกรรมออกกำลังกายหนักเกินไปหรือความเครียดอาจทำให้ WBC สูงกว่าปกติ
- การตั้งครรภ์และการคลอดบุตรมักทำให้ WBC สูงเกินปกติ
- ผู้ที่ถูกตัดม้ามออกทิ้งไปมักจะมี WBC สูงกว่าปกติ
- WBC มักมีจำนวนต่ำในช่วงเวลาเช้าและสูงในเวลาบ่าย
- ยาบางอย่างก็อาจทำให้ค่า WBC สูง / ต่ำเกินความจริง
PMN
วัตถุประสงค์
เพื่อทราบจำนวน "เซลล์แยกย่อย" ของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "pymorhonuclear neutrophils" (PMN) ซึ่งมีนิวเคลียสแยกย่อยต่างรูปร่างกันไป แต่เพื่อความสะดวกคนทั่วไปจึงมักเรียกเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดนี้ว่า "neutrophils" (นิวโตรฟิลส์) เฉยๆ ก็เป็นที่เข้าใจกัน รวมทั้งบางคลินิกก็เรียก "Polys" สั้นๆ ซึ่งย่อมาจาก"pymorhonuclear cells" ก็ได้
คำอธิบายอย่างสรุป
- ในรายงานผลการตรวจเลือดบางคลินิกจึงอาจเรียกคำว่า neutrophil ได้หลายวิธี กล่าวคือ
PMN......................................% หรือ
Neutrophil.............................% หรือ
Neut.....................................% หรือ
Polys....................................%
- Neutrophil ขนาดเมื่อยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่แต่ก็ได้เข้าไปอยู่ในกระแสเลือดแล้วจะมีชื่อเรียกเป็นการเฉพาะว่า "band cell" ทั้งนี้จะกล่าวถึงในรายละเอียดของผลเลือดในหัวข้อนั้น ต่อไป
- ธรรมชาติของนิวโตรฟิล
- ต้นกำเนิดมาจาก stem cell ในไขกระดูกใช้ระยะเวลาประมาณ 12-13 วัน จึงจะเติบโตออกมาสู่กระแสเลือดในชั้นต้นเรียกว่า band cell
- จำนวนนิวโตรฟิล
- เฉพาะที่ล่องลอยในกระแสเลือดจะแสดงด้วยจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่คำนวณได้ต่อจำนวนทั้งหมดของ WBC ณ เวลานั้น (ปกติในวงจรกระแสเลือดจะมีประมาณ 55-70% ของ WBC)
- นิวโตรฟิลยังมีอีกจำนวนหนึ่งในปริมาณประมาณใกล้เคียงกับที่ล่องลอยในกระแสเลือดทั้งนี้ในจำนวนนี้มักเกาะติดอยู่กับผนังภายในของหลอดเลือดและเนื้อเยื่อส่วนต่างๆของร่างกาย
- ทั้งนี้ นิวโตรฟิลยังมีสำรองเป็นจำนวนมากอีกประมาณ 30 - 40 เท่าของที่ล่องลอยในกระแสเลือดแม้จะโตเต็มที่แล้วแต่ก็ยังถูกเก็บกักตัวไว้ใน โพรงไขกระดูก
ผมขอให้สังเกตว่าทั้งในข้อ 2) และข้อ 3) นี่คือจำนวน "นิวโตรฟิลกองหนุน" ที่ร่างกายสำรองเตรียมพร้อมไว้ใช้ในยามจำเป็นและฉุกเฉินในกรณีเมื่อร่างกายถูกรุกรานจากเชื้อโรค
- อายุนิวโตรฟิล
- ส่วนที่ล่องลอยในกระแสเลือดจะมีอายุขัยเพียงประมาณ 6-12 ชั่วโมง เท่านั้น
- ส่วนที่เกาะอยู่กับผนังหลอดเลือดหรือเนื้อเยื่อต่าง ๆ นั้นอาจมีอายุยืนยาวอยู่ได้หลายวัน
- หน้าที่หลักของนิวโตรฟิล คือ การล้อมจับกินจุลินทรีย์ชนิดแบคทีเรียด้วยกระบวนการกลืนกิน (phagocytosis) กล่าวคือ ด้วยการฆ่าโดยวิธีการ "ฮุบเหยื่อ" แล้วค่อยค่อยสลายแบคทีเรียหรือเชื้อโรคใดใดเหล่านั้นที่อาจล่วงล้ำเข้าสู่ร่างกายมนุษย์
Phago = กิน, ฮุบ
Cyto = cyte, เซลล์, จุลินทรีย์
Osis = กระบวนการ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ค่าปกติของ Neutrophil
- ให้ยึดถือตามค่าที่ระบุไว้ ในใบรายงานแสดงผลเลือด (ถ้ามี)
- ค่าปกติแสดงเปอร์เซ็นต์ของ WBC
PMN หรือ Neutrophil : 55-70%
- จำนวนปกติ
Neutrophil=3.6-11.5x103/ µ L
- อาจแสดงเป็นจำนวนหน่วยสมบูรณ์ก็ได้เรียกว่า absolute neutrophil count หรือ ANC
ค่าปกติ ANC = 2,500-8,000 cells/mm3
- ค่า ANC ในใบรายงานผลเลือดหากมิได้แสดงไว้ก็อาจคำนวณได้จากสูตร
ANC = WBC x (% Neutrophil + % Bands)
หมายเหตุ % Bands จะกล่าวถึงในหัวข้อต่อไป
ค่าผิดปกติที่ถือว่าวิกฤติ
- ผู้ป่วยรายใดก็ตามที่ปรากฏค่า ANC เท่ากับหรือต่ำกว่า 1,000 cell/mm กำลังสาม ให้ประเมินได้ว่ากำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่ายดังนั้นจะต้องรีบแยกตัวผู้ป่วยให้อยู่ในห้องปลอดเชื้อโดยลำพังทันที
- ค่าวิกฤตที่ควรจำก็คือ
ANC ≤ 1,000 cells/mm3
ค่าผิดปกติ
- ในทางน้อยมีศัพท์เรียกว่า neutropenia ซึ่งอาจแสดงผลว่า…
- ร่างกายอาจกำลังเริ่มเผชิญกับการติดเชื้อที่เสี่ยงต่อการนำไปสู่โรคสำคัญเช่น ไทฟอยด์ ตับอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ โรคหัด โรคคางทูม โรคหัดเยอรมัน (rubella) ฯลฯ
- อาจกำลังอดอาหาร (starvation) หรือขาดสารอาหารสำคัญบางตัวเช่น กรดฟอลิก หรือวิตามินบี 12
- อาจได้รับรังสีหรือยาที่เป็นพิษต่อเซลล์บางตัว เช่นการรักษามะเร็งด้วยเคโมหรือวิธีเคมีบำบัด อาจมีผลทำให้เซลล์ไขกระดูกทำงานได้ต่ำกว่าปกติ
- ในทางมาก มีศัพท์เรียกว่า neutrophilia ซึ่งอาจแสดงผลว่า...
- อาจกำลังเกิดจากโรคการติดเชื้อ เช่น โรคกระดูกอักเสบ (osteomyelitis) โรคหูอักเสบ (otitis media) โรคโกโนเรีย โรคงูสวัด โรคเยื่อบุหัวใจอักเสบ (endocarditis) โรคอีสุกอีใส ฯลฯ
- อาจกำลังเกิดโรคเซลล์หรือเนื้อเยื่อบางจุดขาดเช่นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (myocardial infarction) แผลไฟลวก แผลหิมะกัด โรคมะเร็ง ฯลฯ
- อาจกำลังเกิดโรคหรือสภาวะอันเนื่องจากการเผาผลาญอาหารบกพร่อง เช่น สภาวะความเป็นกรดจากเบาหวาน (diabetic acidosis)
- ร่างกายอาจกำลังเกิดความเครียดอย่างหนัก
- อาจกำลังเกิดสภาวะอักเสบจากโรคปวดข้อ โรคเกาต์เฉียบพลัน (acute gout) โรคกล้ามเนื้ออักเสบ (myositis) ฯลฯ
Band
วัตถุประสงค์
เพื่อทราบจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดวัยรุ่นหรือ neutrophil ที่ยังโตไม่เต็มที่ซึ่งเรียกว่า Band นั้นมีจำนวน เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของ WBC และ Band ของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดอื่นก็มีแต่มีปริมาณน้อยมาก
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คำอธิบายอย่างสรุป
- นิวโตรฟิล ที่ยังไม่โตเต็มที่แต่ก็ได้โผล่พ้นจากไขกระดูกเข้ามาอยู่ในกระแสเลือดนี้ยังมีนิวเคลียส (เสมือนหัวใจของเซลล์) เป็นรูปแท่งงอ ๆ โดยเหตุนี้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเป็นอนุชนเช่นนี้จึงถูกเรียกว่า "Band cell" (band ในภาษาอังกฤษแปลว่า แท่ง) หรือ "stab cell" (stab ในภาษาเยอรมันก็แปลว่า แท่ง) ดังนั้น Band cell หรือ Stab cell จึงมีความหมายเดียวกันแต่บางทีก็มักเรียก band หรือ stab เฉย ๆ เท่านั้น
- Band cell นั้นมีความมุ่งหมายว่าเป็นนิวโตรฟิล ซึ่งอยู่พร้อมที่จะใช้งานได้เสมือนนักศึกษาวิชาทหารที่กำลังรับการฝึก (นศท.) อยู่นั้นย่อมพร้อมที่จะเข้าทำการสู้รบกับข้าศึกในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือยามจำเป็นได้เสมอ
- Band มีภาระหน้าที่สำคัญโดยสรุปว่าเป็น กำลังกองหนุนซึ่งจะต้องหนุนเนื่องเข้าทดแทนนิวโตรฟิล เก่าที่จะต้องสิ้นอายุขัยลงตามลำดับในช่วงเวลาอันสั้น (6-12 ชั่วโมงในกระแสเลือด) ดังนั้นการปรากฏระดับของ Band ในเลือดที่ขาดจำนวนจากเกณฑ์ปกติเมื่อใดจึงอาจเป็นตัวบ่งชี้หรือ indicator แสดงการลดลงของภูมิคุ้มกันในการต่อสู้โรคร้ายแรงในภายหลังเมื่อนั้น
ค่าปกติของ Band
- ให้ยึดถือตามข้าที่ระบุไว้ในใบรายงานแสดงผลเลือด (ถ้ามี)
- ถ้าปกติแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของ WBC
Band : 3 - 5 %
- จำนวนปกติ
0 - 0.03 x 103 cell/µL
ค่าผิดปกติ
- ในทางน้อย อาจแสดงผลว่า...
- หากพบค่า Band ต่ำประกอบกับ neutrophils ก็ต่ำด้วยย่อมมีผลให้หน่วยนับนิวโตรฟิล อย่างสมบูรณ์ (ANC) ลดลงต่ำไปด้วยแสดงว่าร่างกายกำลังเริ่มปราศจากภูมิต้านทานโรค
- ในทางมาก อาจแสดงผลว่า...
- ร่างกายกำลังถูกรุกรานจากเชื้อโรคอย่างรุนแรงจึงมีผลทำให้ต้องเพิ่มจำนวนทั้ง neutrophil และ Band ให้มากขึ้น
- อาจมีอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งกำลังเกิดการอักเสบอย่างร้ายแรงเช่นเคยมีกรณีผู้ป่วยรายหนึ่งมีอาการไส้ติ่งอักเสบชนิดเฉียบพลัน (acute appendicitis) ผลการตรวจเลือดหาจำนวนBand และ WBC แล้วพบว่า
WBC = 15,000 cell/mm3
Neutrophil = 65%
Band = 10%
- ทั้งนี้ในกรณีใดก็ตามที่ Band มีค่าเกินกว่า 10% ของneutrophil (ย้ำอีกครั้งไม่ใช่ของ WBC) แต่ค่า WBC ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือต่ำกว่าเกณฑ์ปกติอาจแสดงว่าไขกระดูกกำลังเริ่มจากท้อถอยต่อการสร้างเม็ดเลือดสำหรับสาเหตุแห่งการ "ท้อถอย" นั้นเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง