กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
นพ.พิสุทธิ์ พงษ์ชัยกุล
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
นพ.พิสุทธิ์ พงษ์ชัยกุล

เข้าใจการทำงานของหัวใจ

เข้าใจการทำงานของหัวใจให้มากขึ้น และรู้จักความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับหัวใจ
เผยแพร่ครั้งแรก 3 พ.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 2023 ตรวจสอบความถูกต้อง 25 ส.ค. 2020 เวลาอ่านประมาณ 6 นาที
เข้าใจการทำงานของหัวใจ

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • หน้าที่สำคัญของหัวใจคือ สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกายในทุกๆ ครั้งที่หัวใจเต้น โดยเลือดที่สูบฉีดไปนั้นจะผ่านการฟอกโดยปอด อุดมไปด้วยออกซิเจน และสารอาหาร หลังจากนั้นก็จะนำคาร์บอนไดออกไซด์และของเสียที่ไม่จำเป็นออกไปนั่นเอง
  • หัวใจห้องทางขวาจะรับเลือดที่มีออกซิเจนต่ำจากการใช้งานของสมองและร่างกาย โดยหัวใจจะสูบฉีดเลือดเหล่านี้เข้าไปในปอดเพื่อเติมออกซิเจนใหม่ ก่อนส่งเลือดกลับเข้าไปในหัวใจห้องด้านซ้ายเพื่อเตรียมสูบฉีดกลับไปเลี้ยงสมองและร่างกายใหม่
  • วัฎจักรการเต้นของหัวใจ 1 ครั้ง หมายถึง การบีบรัดและคลายตัวของหัวใจเพื่อใช้ในการสูบฉีดเลือดในแต่ละครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความดันภายในเลือด หรือความดันโลหิตนั่นเอง
  • โดยทั่วไปหัวใจจะเต้นประมาณ 60-100 ครั้งต่อนาที จังหวะการเต้นจะขึ้นอยู่กับสัญญาณทางไฟฟ้าที่ส่งไปยังหัวใจ หากสัญญาณทางไฟฟ้าภายในหัวใจถูกขัดขวางอาจทำให้หัวใจเต้นเร็วเกินไป หรือช้าเกินไป หรือเต้นอย่างไม่สม่ำเสมอ จนทำให้เกิดภาวะหัวใจวาย ความดันโลหิตสูง  ปัญหาที่ลิ้นหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม  ภาวะหัวใจล้มเหลว
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพหัวใจ

หัวใจเป็นกล้ามเนื้อที่เป็นศูนย์กลางของระบบไหลเวียนเลือด มีตำแหน่งอยู่บริเวณตรงกลางหน้าอกค่อนไปทางซ้ายเล็กน้อย มีขนาดประมาณกำปั้น

หน้าที่สำคัญของหัวใจคือ สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงทัวร่างกายในทุกๆ ครั้งที่หัวใจเต้น โดยเลือดที่สูบฉีดไปนั้นจะผ่านการฟอกโดยปอด อุดมไปด้วยออกซิเจน และสารอาหาร หลังจากนั้นก็จะนำคาร์บอนไดออกไซด์และของเสียที่ไม่จำเป็นออกไปนั่นเอง

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจหัวใจและหลอดเลือดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 294 บาท ลดสูงสุด80%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

โครงสร้างของหัวใจ

โครงสร้างของหัวใจจะประกอบด้วย เยื่อหุ้มหัวใจ ห้องหัวใจ และลิ้นหัวใจ โดยมีรายละเอียดดังนี้

เนื้อเยื่อหัวใจ

หัวใจประกอบด้วยชั้นเนื้อเยื่อ 3 ชั้น โดยทั้ง 3 ชั้นจะถูกล้อมรอบด้วยถุงหุ้มหัวใจ (Pericardium) เป็นชั้นบางๆ ที่ปกป้องหัวใจอีกที โดยเนื้อเยื่อมีชื่อเรียกดังนี้

  • ชั้นอิพิคาร์เดียม (Epicardium) เป็นชั้นนอกสุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของถุงหุ้มหัวใจที่อยู่ติดกับหัวใจ
  • ชั้นไมโอคาร์เดียม (Myocardium) เป็นชั้นกลาง
  • ชั้นเอนโดคาร์เดียม (Endocardium) เป็นชั้นในสุด

ห้องหัวใจ

ภายในหัวใจจะแบ่งออกเป็น 4 ห้อง โดยแต่ละห้องจะถูกคั่นด้วยผนังกล้ามเนื้อที่เรียกว่า Septum ได้แก่

  • ห้องเล็กด้านบนฝั่งขวา (Right Atrium)
  • ห้องเล็กด้านบนฝั่งซ้าย (Left Atrium)
  • ห้องใหญ่ด้านล่างฝั่งขวา (Right Ventricle)
  • ห้องใหญ่ด้านล่างฝั่งซ้าย (Left Ventricle)

ลิ้นหัวใจ

หัวใจทั้ง 4 ห้อง จะมีลิ้นหัวใจทำหน้าที่เหมือนประตูเข้าออกทางเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับ ซึ่งแต่ละห้องจะมีลิ้นหัวใจดังต่อไปนี้

  • ลิ้นออร์ติก (Aortic valve) อยู่ทางซ้าย
  • ลิ้นไมตรัล (Mitral or bicuspid valve) อยู่ทางซ้าย
  • ลิ้นพัลโมนารี (Pulmonary or pulmonic valve) อยู่ทางขวา
  • ลิ้นไตรคัสปิด (Tricuspid valve) อยู่ทางขวา

อ่านเพิ่มเติม: ส่วนประกอบของหัวใจประกอบด้วยอะไรบ้าง

ระบบไหลเวียนเลือด

หัวใจจะทำหน้าที่สูบฉีดเลือดประมาณ 5 ลิตรไปทั่วร่างกายตลอดเวลา เรียกว่าการไหลเวียนโลหิต (Circulation) โดยหัวใจ เลือด และหลอดเลือดต่างๆ จะทำงานร่วมกันจนกลายเป็นระบบหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular System) นั่นเอง

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจหัวใจและหลอดเลือดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 294 บาท ลดสูงสุด80%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

หัวใจห้องทางขวาจะรับเลือดที่มีออกซิเจนต่ำ จากการใช้งานของสมองและร่างกาย โดยหัวใจจะสูบฉีดเลือดเหล่านี้เข้าไปในปอดเพื่อเติมออกซิเจนใหม่ ก่อนส่งเลือดกลับเข้าไปในหัวใจห้องด้านซ้ายเพื่อเตรียมสูบฉีดกลับไปเลี้ยงสมองและร่างกายใหม่

หลอดเลือด

เลือดจะถูกสูบฉีดไปทั่วร่างกาย ผ่านเส้นเลือดดังนี้

  • หลอดเลือดแดง (Arteries) ใช้สูบฉีดเลือดที่เต็มไปด้วยออกซิเจนจากหัวใจ ไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเส้นเลือดแดงจะมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ตามระยะห่างจากหัวใจ
  • หลอดเลือดฝอย (Capillaries) เป็นเครือข่ายหลอดเลือด ที่เชื่อมหลอดเลือดแดงที่มีขนาดเล็กที่สุดเข้ากับหลอดเลือดดำที่มีขนาดเล็กที่สุด มีหน้าที่ช่วยแลกเปลี่ยนน้ำ ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ สารอาหาร และของเสียอื่นๆ ระหว่างหลอดเลือดทั้งสองและเนื้อเยื่อโดยรอบ
  • หลอดเลือดดำ (Veins) ใช้สูบฉีดเลือดที่พร่องออกซิเจนกลับเข้าไปในหัวใจ และจะมีขนาดหลอดเลือดใหญ่ขึ้นเมื่ออยู่ใกล้หัวใจ

หลอดเลือดจะมีขยายใหญ่ หรือตีบแคบ ขึ้นอยู่กับว่าส่วนนั้น ๆ ของร่างกายต้องใช้เลือดมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะถูกควบคุมด้วยฮอร์โมน

อ่านเพิ่มเติม: ระบบไหลเวียนเลือดมีกระบวนการทำงานอย่างไร และมีวิธีดูแลอย่างไร

ระบบทางไฟฟ้ากับอัตราการเต้นของหัวใจ

เพื่อให้หัวใจเต้นอย่างสม่ำเสมอ หัวใจจึงต้องการสัญญาณไฟฟ้าที่ส่งไปยังกล้ามเนื้อหัวใจเพื่อกระตุ้นให้เกิดการบีบรัดและคลายตัว โดยระบบไฟฟ้าจะมีกระบวนการทำงานดังนี้

  • สัญญาณทางไฟฟ้าจะเริ่มขึ้นที่หัวใจห้องบนฝั่งขวาที่มีหน้าที่เหมือนเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจตามธรรมชาติ ซึ่งจะมีปุ่มไซโนเอเทรียล (Sino-Atrial) อยู่ ปล่อยสัญญาณไฟฟ้าให้กล้ามเนื้อห้อง Atrium ทั้งสอง ทำให้เกิดการบีบรัดตัว ส่งผลให้เลือดไหลผ่านลิ้นหัวใจเข้าไปในห้องหัวใจด้านล่าง (Ventricles)
  • หลังจากนั้นสัญญาณไฟฟ้าจาก SA node จะวิ่งมาถึงอีกกลุ่มเซลล์ชนิดพิเศษที่เรียกว่าปุ่มเอทริโอเวนทริคิวลาร์ (Atrio-Ventricular) จะส่งสัญญาณทางไฟฟ้าผ่านกล้ามเนื้อหัวใจ ด้วยระบบเส้นทางไฟฟ้าที่เรียกว่า "คอนดัคติ่งซิสเต็ม (Conducting System)" ไปกระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างทั้งสองฝั่ง
  • กล้ามเนื้อของห้องหัวใจด้านล่างจะบีบรัดตัวและทำให้เลือดสูบฉีดผ่านลิ้นพัลโมนารี และลิ้นออร์ติก เข้าไปยังหลอดเลือดแดงเส้นหลักกระจายเลือดไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกาย 
  • หลังจากนั้น ปุ่มไซโนเอเทรียลก็จะปล่อยสัญญาณทางไฟฟ้าอีกรอบเพื่อเริ่มวงจรการทำงานใหม่อีกครั้ง

อ่านเพิ่มเติม: อัตราการเต้นของหัวใจในผู้ใหญ่ อัตราการเต้นของหัวใจในเด็ก และอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจหัวใจและหลอดเลือดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 294 บาท ลดสูงสุด80%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ความดันโลหิต

ความดันโลหิต หมายถึง ความดันภายในหลอดเลือดแดง ซึ่งเกิดจากการบีบตัวของหัวใจ ขณะที่ปั๊มเลือดที่ผ่านการฟอกจากปอดไปเลี้ยงตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรือที่เรียกว่า “ระบบไหลเวียนเลือด” 

ดังนั้นความดันโลหิตจึงมีอยู่ตลอดเวลาเพราะหัวใจมีการไหลเวียนของเลือดอยู่ตลอดเวลานั้นเอง

วัฎจักรการเต้นของหัวใจกับความดันโลหิต

วัฎจักรการเต้นของหัวใจ 1 ครั้ง หมายถึง การบีบรัดและคลายตัวของหัวใจเพื่อใช้ในการสูบฉีดเลือดในแต่ละครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความดันภายในเลือด หรือความดันโลหิตนั่นเอง

โดยในขณะที่ร่างกายพักอยู่จะมีอัตราการเต้นหัวใจอยู่ที่ 60-100 ครั้งต่อนาที และจะเพิ่มขึ้นขณะที่คุณออกกำลังกาย เพื่อให้มีเลือดไหลเลี้ยงร่างกายได้เพียงพอ ซึ่งหัวใจทั้ง 4 ห้องจะต้องคอยสูบฉีดเลือดในจังหวะที่ถูกต้องและสม่ำเสมออยู่ตลอดเวลา

ระยะของวัฎจักรการเต้นหัวใจมีอยู่ 2 ระยะ คือ

  • ซิสโทล (Systole) เมื่อหัวใจบีบตัวและดันเลือดออกจากห้องหัวใจ
  • ไดแอสโทล (Diastole) ช่วงเวลาเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจคลายตัว และเลือดไหลเข้าห้องหัวใจเพื่อรอการบีบ

ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหัวใจ

ความผิดปกติของหัวใจในที่นี้ จะแบ่งออกเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในแต่ละส่วนที่เกี่ยวของกับหัวใจ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจ

บางคนอาจเกิดมาพร้อมกับหัวใจที่พัฒนาขึ้นอย่างไม่ถูกต้องตั้งแต่ตอนที่เป็นตัวอ่อนในครรภ์ (Congenital Heart Disease) หรือบางครั้งก็อาจจะเกิดความผิดปกติของหัวใจที่สืบทอดผ่านทางกรรมพันธุ์ เรียกความผิดปกติเหล่านี้ว่า "ความผิดปกติที่เกิดจากโครงสร้างของหัวใจ"

2. ความผิดปกติเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด

3. ความผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางไฟฟ้า

โดยทั่วไปแล้วหัวใจจะเต้นประมาณ 60-100 ครั้งต่อนาที โดยจังหวะการเต้นจะขึ้นอยู่กับสัญญาณทางไฟฟ้าที่ส่งไปยังหัวใจ

หากสัญญาณทางไฟฟ้าภายในหัวใจถูกขัดขวางอาจทำให้หัวใจเต้นเร็วเกินไป (Tachycardia) หรือช้าลงเกินไป (Bradycardia) หรือเต้นอย่างไม่สม่ำเสมอ จนทำให้เกิดภาวะดังต่อไปนี้

4. ความผิดปกติเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ

หัวใจจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ หากลิ้นหัวใจใช้การไม่ได้ โดยทั่วไปแล้วปัญหาที่พบเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ มีดังนี้

หัวใจเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่สำคัญและทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่หยุดพัก หมั่นดูแลรักษาสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง เพื่อให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพหัวใจ จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android

รวมบทความที่เกี่ยวข้องกับความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับหัวใจ


4 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
WebMD.com, How the Heart Works (https://www.webmd.com/heart-disease/guide/how-heart-works#1), 8 January 2020.
Buckberg GD, Nanda NC, Nguyen C, Kocica MJ. What Is the Heart? Anatomy, Function, Pathophysiology, and Misconceptions. J Cardiovasc Dev Dis. 2018 Jun 4;5(2):33. doi: 10.3390/jcdd5020033. PMID: 29867011; PMCID: PMC6023278.
BHF.org.uk, How your heart works (https://www.bhf.org.uk/informationsupport/how-a-healthy-heart-works), 8 January 2020.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป