ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกิน หรือภาวะขาดไทรอยด์ (Underactive Thyroid Gland หรือ Hypothyroidism) คือภาวะที่ต่อมไทรอยด์ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนออกมาได้เพียงพอ ทำให้เกิดความเหน็ดเหนื่อย มีน้ำหนักเพิ่ม และรู้สึกซึมเศร้า
ผู้หญิงและผู้ชายสามารถประสบกับภาวะขาดไทรอยด์ได้ทั้งคู่ แต่มักจะพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และทารกประมาณ 1 ใน 3,500-4,000 คน จะเกิดมาพร้อมกับภาวะขาดไทรอยด์ (Congenital Hypothyroidism)
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
อาการของภาวะขาดไทรอยด์
อาการหลายอย่างของภาวะขาดไทรอยด์ จะเหมือนกับอาการของภาวะสุขภาพอื่นๆ จึงอาจทำให้ผู้ป่วยสับสนภาวะนี้กับโรคอื่นได้ เช่น เหน็ดเหนื่อย ท้องผูก ขี้หนาว ผิวแห้ง ผมและเล็บเปราะ มีการเคลื่อนไหวและความคิดที่ช้าลง ประจำเดือนมาไม่ปกติ และภาวะซึมเศร้า เป็นต้น
ผู้สูงอายุที่มีภาวะขาดไทรอยด์อาจมีปัญหาด้านความทรงจำกับมีภาวะซึมเศร้า ในเด็กเล็กอาจประสบกับปัญหาด้านการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ล่าช้า ส่วนในวัยรุ่นอาจมีการเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ที่ช้ากว่าปกกติ
หากไม่ได้มีการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก็อาจทำให้ภาวะขาดไทรอยด์มีความรุนแรงขึ้น และอาจเกิดอาการอื่นๆ เช่น เสียงแหบต่ำ ใบหน้าบวม คิ้วแหว่ง หัวใจเต้นช้าลง สูญเสียการได้ยิน และโลหิตจาง
ภาวะแทรกซ้อนจากภาวะขาดไทรอยด์
มีภาวะแทรกซ้อนมากมายที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่รีบทำการรักษาภาวะขาดไทรอยด์ เช่น
- ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ : การมีระดับฮอร์โมน Thyroxine ต่ำ สามารถทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งอาจทำให้ไขมันไปสะสมในหลอดเลือดแดงจนจำกัดการไหลเวียนของเลือด
- คอพอก (Goitre) : อาการบวมของต่อมไทรอยด์อย่างผิดปกติ จนทำให้เหมือนมีก้อนเนื้อโตขึ้นในลำคอ เกิดจากร่างกายพยายามกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ให้มากขึ้น ในขณะที่มีภาวะขาดไทรอยด์
- ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำรุนแรง : อาจนำไปสู่ภาวะ Myxoedema Coma ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตจากการหมดสติ หรือหายใจไม่ออก ผู้ที่มีภาวะนี้จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างฉุกเฉินในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
- ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ : หากมีภาวะขาดไทรอยด์ขณะที่ตั้งครรภ์ และไม่ได้ทำการรักษา จะมีความเสี่ยงต่อปัญหาต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ภาวะพิษแห่งครรภ์ระยะก่อนชัก : ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เกิดการสะสมของของเหลวในตัวมารดาและทำให้เกิดปัญหาการเติบโตของทารก
- ภาวะโลหิตจางในมารดา
- ภาวะขาดไทรอยด์ในทารก
- ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิดของทารก
- ปัญหาด้านพัฒนาการของร่างกายและสมองของทารก
- การคลอดบุตรก่อนกำเนิดหรือทารกมีน้ำหนักแรกเกิดน้อย
- การตายคลอดหรือแท้งบุตร
สาเหตุของภาวะขาดไทรอยด์
ภาวะขาดไทรอยด์จะเกิดขึ้นเมื่อต่อมไทรอยด์ไม่สามารถผลิตฮอร์โมน Thyroxine (T4) ออกมาได้เพียงพอ โดยสาเหตุหลักๆ มักเกิดขึ้นจากปัจจัยเหล่านี้
- ระบบภูมิคุ้มกัน : ภาวะขาดไทรอยด์มักเกิดขึ้นจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันเข้าโจมตีต่อมไทรอยด์แทน ทำให้การผลิตฮอร์โมน Thyroxine ถูกยับยั้งลง จนทำให้เกิดภาวะขาดไทรอยด์ขึ้น ภาวะเช่นนี้เรียกว่าโรคฮาชิโมโต (Hashimoto's Disease) ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าอะไรทำให้เกิดโรคนี้ขึ้น แต่ก็จัดว่าเป็นโรคที่สืบทอดให้ลูกหลานได้ และยังพบได้ทั่วไปในผู้ป่วยที่มีภาวะผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวานประเภท 1 (Type 1 Diabetes) และโรคด่างขาว (Vitiligo)
- การรักษาไทรอยด์ที่ผ่านมา : ภาวะขาดไทรอยด์สามารถเกิดขึ้นเป็นผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน จากการรักษาต่อมไทรอยด์ต่างๆ เช่น การผ่าตัดหรือการบำบัดด้วยการแผ่รังสีไอโอดีน ซึ่งการรักษาเหล่านี้มักนำมาใช้กับภาวะไทรอยด์มากเกิน หรือมะเร็งไทรอยด์
- การขาดไอโอดีน : ร่างกายจำเป็นต้องใช้ไอโอดีนในการผลิตฮอร์โมน Thyroxine เมื่อขาดไอโอดีน หรือได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้เกิดภาวะขาดไทรอยด์
- ความผิดปกติต่อมใต้สมอง : ต่อมใต้สมองจะมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ ดังนั้น เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นที่ต่อมใต้สมอง จึงอาจทำให้เกิดภาวะขาดไทรอยด์ขึ้นตามมา
- การใช้ยาบางประเภท เช่น
- ลิเทียม (Lithium) : ยาที่ใช้รักษาภาวะทางจิตอย่างภาวะซึมเศร้าและโรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder)
- Amiodarone : ยาที่ใช้รักษาภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ (Arrhythmias)
- Interferons : กลุ่มของยาที่ใช้รักษามะเร็งบางประเภทและโรคตับอักเสบ C
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การวินิจฉัยภาวะขาดไทรอยด์
คุณควรรีบไปพบแพทย์และเข้ารับการตรวจเลือดทันทีหากคุณมีอาการของภาวะขาดไทรอยด์ แม้จะมีอาการเบื้องต้นแค่ รู้สึกหนาวเย็น เหนื่อยง่าย น้ำหนักขึ้น หรือมีภาวะซึมเศร้า เพราะการเปลี่ยนแปลงลงของระดับฮอร์โมนที่ไทรอยด์ผลิตออกมาอย่าง As Triiodothyronine (T3) กับ Thyroxine (T4) จนต่ำ สามารถส่งผลต่อกระบวนการจัดการกับไขมันของร่างกายได้
และผลกระทบที่ตามมา คือทำให้เกิดภาวะคอเลสเตอรอลสูงและภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis) ที่เป็นอันตรายต่อหัวใจ และอาจทำให้เกิดอาการหัวใจอื่นๆ ตามมา เช่น เจ็บหน้าอกและหัวใจวาย เป็นต้น
หากแพทย์สงสัยว่าคุณอาจมีอาการของภาวะขาดไทรอยด์ ก็จะมีการทดสอบการทำงานของไทรอยด์ โดยการตรวจเลือดจะวัดระดับฮอร์โมน เพื่อวัดระดับ Thyroid-Stimulating Hormone (TSH) กับ Thyroxine (T4) ในเลือด
ระดับของ TSH ที่สูงและระดับ T4 ในเลือดที่ต่ำ อาจหมายความว่ามีภาวะขาดไทรอยด์ แต่หากผลการตรวจแสดงให้เห็นค่า TSH ที่เพิ่มขึ้น แต่มี T4 เป็นปกติ อาจหมายความว่ามีความเสี่ยงต่อภาวะขาดไทรอยด์ในอนาคต
การรักษาภาวะขาดไทรอยด์
การรักษาภาวะขาดไทรอยด์จะเกี่ยวข้องกับการรับประทานฮอร์โมนชนิดเม็ดที่เรียกว่า Levothyroxine ทุกวัน เนื่องจากยาตัวนี้จะไปเพิ่มระดับของ Thyroxine ขึ้น ซึ่งผู้ที่ภาวะขาดไทรอยด์จะต้องรับประทานยานี้ทุกวันไปตลอดชีวิต แต่ข้อดีคือผู้ป่วยจะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป
การใช้ยา Levothyroxine ที่ถูกต้อง คือควรใช้ยาตัวนี้วันละ 1 ครั้ง ภายในเวลาเดียวกันทุกวัน ส่วนวิธีการรับประทานยา Levothyroxine คือกลืนพร้อมน้ำในขณะที่ท้องว่าง และต้องเลี่ยงการรับประทานอาหารหลังจากรับประทานยา 30 นาที
หากลืมรับประทานยา ให้รีบรับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ ในกรณีที่ล่าช้ากว่าเวลาปกติประมาณ 30 นาที แต่ถ้าเกินกว่านั้นให้ข้ามการรับประทานยาในครั้งนั้นไปเลย และให้รับประทานยาครั้งต่อไปในเวลาเดิม ยาชนิดนี้มักจะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ เพราะเป็นยาเม็ดที่ใช้ชดเชยฮอร์โมนที่หายไปเท่านั้น แต่ถ้าใช้ในปริมาณมากเกินไป ก็อาจทำให้มีอาการเหงื่อออก เจ็บหน้าอก ปวดศีรษะ ท้องร่วง และอาเจียน