ภาวะสะโพกฝืดแข็ง อาจเป็นภาวะที่คนทั่วไปไม่ค่อยคุ้นเคย แต่ภาวะนี้หากเป็นแล้ว จะทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงจนไม่สามารถทำกิจกรรมใดๆ ได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ข้อต่อสะโพกมีความสำคัญมากต่อการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น การลุกขึ้นยืน การเดิน การวิ่ง หรือการกระโดด แต่ถ้าหากเกิดภาวะสะโพกติดขัด หรือสะโพกฝืดแข็ง จะทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมเหล่านี้ได้ เนื่องจากการก้าวแต่ละก้าว หรือเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
อาการสะโพกฝืดแข็งอาจเกิดขึ้นได้ชั่วคราวแล้วหายไปเอง แต่ในบางกรณีก็อาจทำให้รู้สึกปวด หรือบาดเจ็บถาวรได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
อาการของสะโพกฝืดแข็ง
โดยทั่วไป อาการสะโพกฝืดแข็ง คือความรู้สึกที่ข้อต่อสะโพกไม่สามารถขยับได้สะดวกอย่างที่เคย และเมื่อขยับจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวด อาจรู้สึกว่าสะโพกมีเสียงคลิกหรือเสียงป็อบขณะเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวจะถูกจำกัดลง และไม่สามารถขยับร่างกายได้มากเช่นเคย
สาเหตุของสะโพกฝืดแข็ง
สะโพกฝืดแข็งอาจเป็นผลมาจากการบาดเจ็บเฉียบพลัน หรือเป็นส่วนหนึ่งของโรคเรื้อรังที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง เช่น สะโพกหักร้าว ข้อสะโพกเคลื่อน หรือข้อสะโพกแพลงที่เกิดขึ้นเมื่อเอ็นยืดสะโพกถูกยืดหรือฉีกขาด ในกรณีที่กระดูกสะโพกแตกหัก ถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์อย่างหนึ่งที่ควรไปพบแพทย์ทันที
ในบางกรณีอาจพบอาการสะโพกฝืดแข็งหลังจากการออกกำลังกายอย่างหนัก เนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าขา (Hip Flexor) ส่วนโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสะโพกฝืดแข็ง ได้แก่
- โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด (Ankylosing Spondylitis) : โรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดและตึงในกระดูกสันหลัง
- โรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุในเด็ก (Juvenile Idiopathic Arthritis: JIA)
- โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis: OA)
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis: RA)
- โรคเบอร์ไซติสบางประเภท (Bursitis) : การอักเสบของถุงน้ำรอบข้อต่อของคุณ เช่น ชนิด Inflammatory Bursitis และ Trochanteric Bursitis
- Legg-Calve-Perthes disease : โรคที่ทำให้เลือดไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงส่วนกระดูกต้นขาได้
- Lyme disease
- โรคเอ็นอักเสบ (Tendinitis)
- โรคหัวกระดูกสะโพกตาย (Avascular necrosis of hip)
เมื่อไรที่ควรไปพบแพทย์
ให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับอาการสะโพกฝืดแข็ง
- เป็นไข้ หนาวสั่น
- เวียนศีรษะ หน้ามืด
- มีอาการปวดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะที่ต้นขาด้านบนหรือขาหนีบ และอาการจะแย่ลงเมื่อพยายามยกขาขึ้นหรืออ้าขาออก
- มีผื่นที่ผิวหนัง
- อาการบวมแดงรอบสะโพกชัดเจน หรือข้อต่อสะโพกผิดรูปอย่างเห็นได้ชัด
การวินิจฉัยอาการสะโพกแข็ง
แพทย์จะทำการวินิจฉัยภาวะสะโพกแข็ง โดยซักประวัติทางการแพทย์ เช่น โรคประจำตัว การบาดเจ็บครั้งล่าสุด รายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวกับสะโพก จากนั้นจะทำการตรวจร่างกาย ด้วยการตรวจดูข้อต่อสะโพก สัมผัสข้อต่อเพื่อชี้จุดปวด ตรวจดูความผิดปกติขณะเคลื่อนไหว ก่อนจะส่งตัวไปถ่ายภาพรังสีเพื่อยืนยันผล
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การส่งถ่ายภาพรังสี อาจทำด้วยการถ่ายภาพรังสีเอกซเรย์ปกติ หรือทำการสแกนเอ็มอาร์ไอเพื่อระบุบริเวณที่อาจเกิดการแตกหักของกระดูกสะโพก หรือเพื่อตรวจหาว่ามีเอ็นหรือการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อตำแหน่งใดหรือไม่
การรักษาอาการสะโพกฝืดแข็ง
การรักษาสะโพกแข็ง ขึ้นอยู่กับภาวะที่เป็นสาเหตุ เช่น
- กระดูกสะโพกแตกหัก จะรักษาด้วยการผ่าตัด
- ข้อต่อสะโพกเคลื่อน ต้องจัดให้เข้าที่โดยอาจไม่ต้องเปิดแผล (Closed Reduction) หรือกรีดแผลบนผิวหนังเล็กน้อยเพื่อเคลื่อนข้อต่อให้กลับที่เดิม (Open Reduction)
- โรคข้ออักเสบของสะโพกยังไม่มีการรักษาใดที่ทำให้หายขาดได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว กลุ่มโรคดังกล่าวจะได้รับการรักษาด้วยยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ และการทำกายภาพบำบัด
- หากอาการรุนแรงมาก และไม่สามารถรักษาด้วยวิธีใดได้ แพทย์อาจแนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกทั้งหมด (Total Hip Arthroplasty)
การรักษาอาการสะโพกฝืดแข็งด้วยตัวเองที่บ้าง
หากอาการไม่รุนแรง สามารถดูแลตัวเองที่บ้านด้วยวิธีการดังนี้
- ประคบร้อน หรือประคบเย็นที่สะโพก บริเวณที่ปวดหรือฝืด ไม่ควรนำถุงน้ำร้อนหรือน้ำแข็งประคบโดยตรงเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวไหม้หรือน้ำแข็งกัด
- ลดการใช้งานข้อสะโพกที่ปวด และหมั่นยืดกล้ามเนื้อสะโพกเพื่อลดอาการตึง
- รับประทานยาต้านการอักเสบ เช่น ยานาพร็อกเซน หรือยาไอบูโพรเฟน ซึ่งออกฤทธิ์บรรเทาอาการปวดร่วมด้วย
การป้องกันอาการสะโพกฝืดแข็ง
ยังไม่มีวิธีใดที่สามารถป้องกันอาการสะโพกแข็งได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีวิธีง่ายๆ ที่สามารถปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะดังกล่าวได้ เช่น การรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม การวอร์มอัพ การยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย และการผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายอย่างเหมาะสม รวมถึงป้องกันการหกล้มภายในบ้าน ที่อาจทำให้กระดูกสะโพกหักได้
ที่มาของข้อมูล
Rachel Nall, What causes hip stiff? (https://www.healthline.com/symptom/hip-stiff), July 11, 2017.