ชวนทำ 5 เครื่องดื่มสมูทตี้ช่วยเสริมสร้างความจำ

เผยแพร่ครั้งแรก 20 มี.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
ชวนทำ 5 เครื่องดื่มสมูทตี้ช่วยเสริมสร้างความจำ

ความจำถือเป็นความสามารถอย่างหนึ่งของสมองที่ช่วยให้มนุษย์เก็บข้อมูล และหวนระลึกถึงข้อมูลทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อย่างไรก็ตาม เมื่อเราอายุมากขึ้น กิจกรรมในสมองของเราก็จะเปลี่ยนไป ทำให้ความจำของเราค่อยๆ เลือนหาย และความสามารถในการจำก็จะถูกจำกัดอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่จะตามมาคือ คนจะเริ่มจดจำสิ่งต่างๆ ได้ยากขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากแนะนำ 5 สมูทตี้สูตรเด็ดที่สามารถช่วยปกป้องสมอง และเสริมสร้างความจำค่ะ มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. สมูทตี้ส้มเขียวหวาน

สมูทตี้แสนอร่อยแก้วนี้อัดแน่นไปด้วยสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ที่ช่วยลดภาวะออกซิไดซ์เกินสมดุล (Oxidative Stress) ในเซลล์สมอง อย่างไรก็ดี การดื่มสมูทตี้สูตรนี้เป็นประจำสามารถช่วยเสริมสร้างความจำ และลดความเสี่ยงที่คุณจะแก่ก่อนวัย

ส่วนผสม

  • ส้มเขียวหวาน 1 ลูก
  • น้ำส้มคั้นจากส้ม 5 ลูก
  • นม 1/2 ถ้วย (125 มิลลิลิตร)
  • อัลมอนด์สกัด 1/2 ช้อนชา (2 มิลลิลิตร)
  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (25 กรัม)

วิธีเตรียม

  • แกะเมล็ดส้มเขียวหวาน แล้วนำไปปั่นรวมกับน้ำส้ม นม และอัลมอนด์สกัด
  • เมื่อส่วนผสมกลายเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้คุณเติมน้ำผึ้งลงไป โดยให้ดื่มสมูทตี้แก้วนี้ในตอนเช้าอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์

2. สมูทตี้แอปเปิ้ล วอลนัท และแครอท

ส่วนผสมในสมูทตี้แก้วนี้มอบวิตามิน แร่ธาตุ และสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ให้ร่างกายหลายชนิด อีกทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานที่ได้จากธรรมชาติ ทำให้ความจำดีขึ้น และทำให้มีสมาธิเมื่อร่างกายอ่อนเพลีย นอกจากนี้มันยังช่วยต้านการอักเสบ ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดโรคที่เกี่ยวกับการเรียนรู้และความจำ

ส่วนผสม

  • แอปเปิ้ล 2 ลูก
  • แครอท 2 หัว
  • วอลนัท 4 เม็ด
  • น้ำ 1/2 ถ้วย (125 มิลลิลิตร)

วิธีเตรียม

  • ล้างแอปเปิ้ลและแครอท จากนั้นก็นำไปคั้นในเครื่องคั้นน้ำผลไม้ โดยไม่ต้องปอกเปลือก
  • นำน้ำที่ได้ไปปั่นรวมกับวอลนัทและน้ำเปล่า จากนั้นให้ดื่มทันทีเพื่อให้ได้รับสารอาหารเต็มที่ โดยให้ดื่มตอนท้องว่างอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง

3. สมูทตี้กล้วยและมะเขือเทศ

สมูทตี้แก้วนี้มีสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ และกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยปกป้องเซลล์สมอง อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับความจำ รวมถึงยังช่วยต่อสู้กับความอ่อนล้าของร่างกาย และคงไว้ซึ่งการทำงานของร่างกายและจิตใจที่ดี ส่วนผสม

  • กล้วยสุก 1 ผล
  • มะพร้าวขูด 1/4 ลูก
  • อัลมอนด์ 5 เม็ด
  • นมขาดมันเนย 1 ถ้วย (200 มิลลิลิตร)

วิธีเตรียม

  • นำวัตถุดิบทุกชนิดไปปั่นรวมกันจนได้เนื้อที่เนียนละเอียด
  • ดื่มสมูทตี้ตอนเช้า และดื่ม 3 ครั้งต่อสัปดาห์

4. สมูทตี้สตรอว์เบอร์รีและข้าวโอ๊ต

ใครที่กำลังรู้สึกเหนื่อยใจ และมีปัญหากับความจำ เราขอแนะนำสมูทตี้แก้วนี้เลยค่ะ เพราะมันอุดมไปด้วยวิตามินบี ซึ่งมีส่วนช่วยในการรับมือกับอาการดังกล่าว นอกจากนี้ด้วยความที่สมูทตี้สูตรนี้มีสารแอนตี้ออกซิเด้นท์สูง ทำให้มันช่วยปกป้องเซลล์สมอง และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกี่ยวกับการเรียนรู้หรือความจำ

ส่วนผสม

  • แฟล็กซ์บด 1 ช้อนโต๊ะ (10 กรัม)
  • ข้าวโอ๊ต 4 ช้อนโต๊ะ (40 กรัม)
  • กล้วย 1 ลูก
  • สตรอว์เบอร์รีสุก 5 ลูก
  • น้ำ 1 ถ้วย (200 มิลลิลิตร)

วิธีเตรียม

  • ล้างสตรอว์เบอร์รี และนำไปปั่นกับข้าวโอ๊ต กล้วย และแฟล็กซ์
  • เติมน้ำลงไป และปั่นโดยใช้ความเร็วสูงสุด
  • ปั่นจนได้เนื้อเนียนละเอียด และให้ดื่มตอนทานอาหารเช้าอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือดื่มเมื่อใดก็ตามที่คุณอยากเติมพลังให้ร่างกาย

5. สมูทตี้โยเกิร์ตและอัลมอนด์ 

สมูทตี้สูตรนี้เป็นแหล่งของสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ และกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่ล้วนแต่จำเป็นต่อการปกป้องสมองจากอนุมูลอิสระและการอักเสบ รวมถึงช่วยทำให้สุขภาพจิตดี และลดโอกาสที่จะสูญเสียความจำ ส่วนผสม

  • อัลมอนด์ 10 เม็ด
  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วย (100 กรัม)
  • กล้วย 1 ลูก
  • น้ำส้มคั้นจากส้ม 2 ลูก

วิธีเตรียม 

  • หั่นอัลมอนด์ และนำไปปั่นกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ กล้วย และน้ำส้มคั้น 
  • ปั่นส่วนผสมทุกอย่างจนกว่าจะเป็นเนื้อเดียวกัน และดื่มทันทีหลังทำเสร็จ โดยให้ดื่มก่อนทานอาหารเช้า และดื่ม 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

หากช่วงนี้คุณมักมีอาการเหนื่อยล้าทางใจ หรือมีปัญหากับความจำ การทานสมูทตี้สูตรที่เรากล่าวไปข้างต้นสามารถมอบทั้งความสดชื่น และช่วยทำให้สมองแล่นกว่าเดิมค่ะ 

ที่มา : https://steptohealth.com/stren...


1 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
11 Best Foods to Boost Your Brain and Memory. Healthline. (https://www.healthline.com/nutrition/11-brain-foods)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)