คำถามที่ใช้ซักอาการ

เผยแพร่ครั้งแรก 19 ม.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
คำถามที่ใช้ซักอาการ

คำถามที่ใช้ซักอาการ เพื่อหาสาเหตุของความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ ในการจ่ายยาระบบทางเดินปัสสาวะ ควรใช้คำถามเบื้องต้น ดังนี้

1. ชักอาการปวด

อาการปวดที่เกิดขึ้นบริเวณทางเดินปัสสาวะสามารถนำมาคาดเดาได้ว่าน่าจะเกิดความผิดปกติประเภทใดกับระบบทางเดินปัสสาวะ โดยเราแบ่งอาการปวดที่เกิดกับระบบทางเดินปัสสาวะออกเป็น 4 แบบ ดังนี้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

1.1 ปวดมาก-เบา ปวดอย่างรุนแรงเป็นพักๆ ทางการแพทย์เรียกว่า “ปวดดิ้น” (Colicky pain)

อาการปวดลักษณะนี้เป็นอาการปวดจากการที่ระบบทางเดินปัสสาวะมีสิ่งอุดกั้นทำให้ท่อไตหรือท่อปัสสาวะเกิดการหดตัวอย่างแรง เพื่อพยายามกำจัดสิ่งอุดกั้นออกไป และเกิดอาการปวดแบบ “ปวดดิ้น”

1.2 อาการปวดกระจายตามแนวต่างๆ หาจุดปวดที่แน่นอนไม่ได้ ทางการแพทย์เรียกว่า "ปวดร้าว" (Referred pain)

เป็นลักษณะปวดอีกแบบหนึ่งที่มักมีสาเหตุมาจากเกิดการอุดกั้นตามทางเดินปัสสาวะเช่นกัน เป็นอาการปวดที่กระจายไปตามแนวเส้นประสาท ผู้ป่วยอาจปาดลงมาตามหน้าขา บริเวณช่วงเอว และช่วงหลัง

1.3 ปวดหน่วงๆ น้ำหนักเสมอกัน อาการปวดแบบนี้เรียกว่า "ปวดตื้อ" (Dull pain)

อาการปวดหน่วงๆ บริเวณท้องน้อย และปวดแต่ละครั้งเป็นเวลานาน มักมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการอักเสบติดเชื้อ จนมีการพองตัว ยืดตัวออกของกล้ามเนื้อเรียบบริเวณท่อไตหรือกรวยไต หรือแม้แต่มีการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

1.4 อาการปวดจี๊ดๆคล้ายมีของแทง

เป็นอาการที่มักมีสาเหตุจากการติดเชื้อจนมีหนองขังอยู่ตามบริเวณต่างๆ ของระบบทางเดินปัสสาวะ

2. ปริมาณของน้ำปัสสาวะและจำนวนครั้งที่ถ่าย

ปกติร่างกายจะขับน้ำปัสสาวะออกมาประมาณวันละ 1,200-1,500 ซีซี. แต่ถ้าเกิดความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะก็จะทำให้ปริมาณน้ำปัสสาวะต่อวัน และจำนวนครั้งที่ถ่ายปัสสาวะเปลี่ยนแปลงไป ดังนี้

ลักษณะของการถ่ายปัสสาวะ

สาเหตุ

ถ่ายปัสสาวะบ่อย

เกิดการอักเสบบริเวณกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ

ถ่ายปัสสาวะมีปริมาณมากกว่าวันละ 3,000 ซีซี.

อาจมากจากดื่มน้ำมาก เป็นโรคเบาหวานหรือเป็นโรคเบาจืด

ปัสสาวะลำบาก เวลาถ่ายปัสสาวะต้องออกแรงแบ่งมากกว่าปกติ กว่าจะถ่ายออกมาหมดต้องใช้เวลานาน

อาจมาจากต่อมลูกหมากโต ทำให้บีบรัดท่อปัสสาวะหรือมีก้อนนิ่วอุดตันบริเวณท่อไตกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะ

ปัสสาวะไม่ออก เกิดการคั่งของน้ำปัสสาวะในกระเพราะปัสสาวะ ทำให้ไม่สามารถถ่ายปัสสาวะได้

อาจมากจากเกิดการอุดกั้นที่ระบบทางเดินปัสสาวะเช่น มีนิ่วที่ท่อปัสสาวะ หรือท่อปัสสาวะตีบ การช็อกหรือร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำรุนแรง เช่น กรณีท้องเดินรุนแรง

ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ เช่น ถ่ายปัสสาวะน้อยกว่าวันละ 400 ซีซี

อาจมาจากการขาดน้ำ  ท้องเดิน ไข้สูงหรือมีการเสียเลือดมาก

3. สีของน้ำปัสสาวะ

สีของน้ำปัสสาวะสามารถบอกถึงสาเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินปัสสาวะได้เช่นกันลักษณะของน้ำปัสสาวะที่เราใช้ซักถามผู้ป่วย เพื่อค้นหาสาเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึ้นมีดังนี้

  • ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือดหรือมีสีชมพูจางๆ
  • ปัสสาวะออกมาเป็นสีแดงสด เป็นลมหรือสีแดงคล้ำ สาเหตุอาจเกิดจากการที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของอวัยวะถูกกระแทก เป็นเนื้องอกหรือมะเร็ง หรือมีนิ่ว เป็นต้น
  • ปัสสาวะขุ่นเหมือนมีก้อนไขมันลอย
  • มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อโรคแล้วเกิดการอักเสบเป็นหนองตามทางเดินปัสสาวะร่วมกับการมีเม็ดเลือดขาวปนออกมากับน้ำปัสสาวะ
  • ปัสสาวะขุ่นเป็นเม็ดทราย
  • มักมีสาเหตุมาจากการมีนิ่วหรือผลึกของ เกลือในปัสสาวะมาก

กรณีที่ผู้ป่วยไม่ทราบลักษณะของน้ำปัสสาวะว่าเป็นอย่างไรควรแนะนำให้ผู้ป่วยปัสสาวะใส่ภาชนะเพื่อดูลักษณะของน้ำปัสสาวะนั้น

4. อาการรร่วมอื่น ๆ

การหาสาเหตุความผิดปกติของโรคระบบทางเดินปัสสาวะนอกจากอาการปวดที่เกิดขึ้นปริมาณของน้ำปัสสาวะ ลักษณะการถ่ายและสีของน้ำปัสสาวะแล้ว ยังสันนิษฐานสาเหตุได้จากอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ตัวบวม อาจมาจากไตไม่สามารถขับโซเดียมออกจากร่างกายได้

มีไข้อาจมีการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น กรวยไต กระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น

คลื่นไส้อาเจียน อาจมาจากการมีนิ่วในไตและทำให้มีอาการปวดรุนแรง นอกจากนั้นอาจเกิดจากนิ่วที่อยู่ในระบบทางเดินปัสสาวะไปทำให้การทำงานของลำไส้ผิดปกติผู้ป่วยจึงรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน

ตารางสรุปโรคและแนวทางการรักษาโรคระบบทางเดินปัสสาวะ

คำถามที่ใช้เป็นแนวทางในซักแยกโรคและหาสาเหตุ

นิ่ว

ต่อมลูกหมากโต

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

กรวยไตอักเสบ

1. ตำแหน่งและอาการปวดที่เกิดขึ้นลักษณะอย่างไร

  • ปวดบั้นเอว หลังสีข้างหรือปวดร้าวไปตามขาหลัง หน้าขา หรือปลายท่อปัสสาวะ
 

อาจปวดหลังหรือบริเวณหัวเหน่าเล็กน้อยปวดแบบหน่วงๆ

ปวดหลัง บั้นเอว บริเวณข้างที่เป็น

2. ลักษณะของการถ่ายปัสสาวะเป็นอย่างไร?

ปัสสาวะได้ตามปกติ ยกเว้นถ้านิ่วก้อนโตแล้วเกิดการอุดตันตามทางเดินปัสสาวะจะทำให้เกิดอาการขัดเบา

ปัสสาวะลำบาก ต้องออกแรงเบ่งอยู่นานจึงปัสสาวะออก ลำปัสสาวะพุ่งอ่อนแรงหรือปัสสาวะออกเป็นหยด

ปวดแสบเวลาถ่ายและปวดมากขณะถ่ายปัสสาวะจะสุด

ปัสสาวะขัด

3. จำนวนครั้งของการถ่ายปัสสาวะมากน้อยเพียงไร?

ถ่ายปัสสาวะบ่อยและกะปริดกะปรอย (ออทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง)

ถ่ายปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวันและกลางคืน

ถ่ายปัสสาวะบ่อย

 

คำถามที่ใช้เป็นแนวทางในซักแยกโรคและหาสาเหตุ

นิ่ว

ต่อมลูกหมากโต

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

กรวยไตอักเสบ

4. สีของน้ำปัสสาวะเป็นอย่างไร?

บางรายอาจมีน้ำปัสสาวะเป็นเลือดหรือสีชมพูจาง ๆ ซึ่งเกิดจากก้อนนิ่วครูดตามผนังของเยื่อบุทางเดินปัสสาวะหรืออาจถ่ายปัสสาวะเป็นปกติแต่น้ำปัสสาวะขุ่นและมีก้อนนิ่วออกมา

 

น้ำปัสสาวะอาจขุ่นเป็นหนอง

น้ำปัสสาวะขุ่น เป็นหนอง และมักมีสีแดงจาง ๆ

5. อาการอื่น ๆ

  • อาจมีไข้ ถ้ามีการติดเชื้อร่วมด้วย
  • คลื่นไส้ อาเจียน

อาจมีไข้ ถ้ามีอาการติดเชื้อร่วมด้วย

 

6. การรักษา

  • ให้ยาแก้ปวดกลุ่มคลายการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบ เช่น ฟลาโวเซต
  • ดื่มน้ำวันละ 3-4 ลิตร
  • แนะวิธีปฏิบัติตัว
  • ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรส่ง รพ.

เช่นเดียวกับนิ่ว

  • ให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับยาแก้ปวดกลุ่มคลายการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบ เช่น ฟลาโวเซต
  • ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรส่ง รพ.
  • ถ้าปวดมากให้ยาแก้ปวดกลุ่มคลายการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบ เช่น ฟลาโวเซต
  • ให้ยาลดไข้
  • ให้ยาปฏิชีวนะ
  • แนะวิธีปฏิบัติตัว

1 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Questions To Ask About Prostate Cancer. American Cancer Society. (https://www.cancer.org/cancer/prostate-cancer/detection-diagnosis-staging/talking-with-doctor.html)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป