ในฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 2001 องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ยอมรับให้ใช้ยา Paxil ในการรักษาโรควิตกกังวลได้
Paxil (Paroxetine) เป็นยาต้านโรคซึมเศร้าที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ Prozac และ Zoloft เช่นเดียวกับยาในกลุ่ม SSRI (selective serotonin reuptake inhibitors) ตัวอื่นๆ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
Paxil ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการรักษาโรคซึมเศร้าและถูกยอมรับให้ใช้ในการรักษาโรคกังวลต่อการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder:SAD)
ในปี ค.ศ. 1999 ยังมีการใช้ Paxil ในการรักษาโรคแพนิค (Panic disorder) โรคเครียดหลังเหตุการณ์ร้ายแรง (Post Traumatic Stress Disorder: PTSD) กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนชนิดรุนแรง (Premenstrual Dysphoric Disorder: PMDD) และกลุ่มอาการย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive-Compulsive Disorder: OCD)
Paxil ทำงานอย่างไร?
กลไกชัดเจนที่ทำให้มีผลต้านโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวลของยา เช่น paxil ยังไม่เป็นที่เข้าใจกันแน่ชัด ยาเหล่านี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม SSRIs เนื่องจากมีคุณสมบัติในการป้องกันการเก็บกลับสารสื่อประสาทเซโรโทนิน (serotonin) ในสมองและระบบประสาท
กระแสประสาทจะถูกส่งโดยทางเคมีระหว่างเซลล์ประสาทในระบบประสาท โดยสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน ถูกสร้างโดยเซลล์ประสาทเซลล์หนึ่งและเดินทางผ่านช่องว่างระหว่างเซลล์และไปสะสมอยู่ในเซลล์ประสาทเซลล์ที่สอง
มีการสร้างทฤษฎีว่าการเก็บเซโรโทนิน เอาไว้นอกเซลล์นานๆ ทำให้อาการซึมเศร้าดีขึ้นได้
โรควิตกกังวลคืออะไร?
โรควิตกกังวลไม่เหมือนกับโรคกลัว (phobia) ที่ผู้ป่วยมีอาการกลัววัตถุ หรือสถานการณ์บางอย่าง แต่โรควิตกกังวลจะทำให้เกิดอาการกังวลโดยทั่วๆ ไปที่ไม่สัมพันธ์กับสาเหตุใด ผู้ที่เป็นโรควิตกกังวลจะเกิดความกังวลและความเครียดที่เรื้อรังและมากเกินปกติ แม้ว่าดูเหมือนไม่มีอะไรกระตุ้นเลยก็ตาม
ปรึกษาสุขภาพจิต วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 882 บาท ลดสูงสุด 51%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ผู้ที่มีอาการเหล่านี้มักคาดว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรง กังวลเกินเหตุเรื่องสุขภาพ เงินทอง ครอบครัว หรืองาน เพียงแค่การคิดที่จะผ่านวันหนึ่งๆ ไปให้ได้ก็กระตุ้นให้เกิดความกังวลได้แล้ว
หลายคนเป็นโรควิตกกังวลรู้ว่าความกังวลของตนมากเกินควรต่อสถานการณ์นั้นๆ แต่ถึงรู้ก็ลดความกังวลไม่ได้อยู่ดี พวกเขาอาจรายงานว่า ไม่สามารถผ่อนคลายได้ และอาจมีปัญหาในการนอนหลับหรือหลับอย่างต่อเนื่อง
ความกังวลของพวกเขามักมีอาการทางกายร่วมด้วย โดยเฉพาะอาการมือสั่น กระตุก กล้ามเนื้อเกร็ง ปวดศีรษะ กระสับกระส่าย เหงื่อแตก หรือ hot flashes พวกเขาอาจรู้สึกวิงเวียน หายใจไม่ออก คลื่นไส้ หรือต้องไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ หรืออาจรู้สึกเหมือนมีก้อนจุกอยู่ในคอ
โรควิตกกังวลมักใช้การรักษาด้วยการรักษาแบบจิตบำบัด (psychotherapy) และ/หรือการใช้ยา อาจใช้เวลาซักพักเพื่อหาสิ่งที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ ดังนั้น ให้อดทนและคอยบอกแพทย์ว่าอะไรที่ได้ผลและไม่ได้ผลสำหรับคุณ
ผลข้างเคียงของ Paxil
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยของ paxil ได้แก่
- อาการตื่นเต้น
- ปัญหาในการนอน (ทั้งหลับมากไปและน้อยไป)
- กระสับกระส่าย
- อ่อนเพลีย
- ปากแห้ง
- คลื่นไส้
- ปวดศีรษะ
- เหงื่อแตก
- ท้องเสีย
- ปัญหาทางเพศ
โดยทั่วไปแล้ว ผลข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปได้เองในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์
ผลข้างเคียงที่พบได้น้อยมาก ได้แก่ อาการเลือดออก กัดฟัน และระดับโซเดียมในเลือดต่ำ
ผลข้างเคียงที่ร้ายแรง คือ อาการชัก และ serotonin syndrome ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมี serotonin ในร่างกายมากเกินไปและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้
ข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับ Paxil
- Paxil สามารถรับประทานพร้อมอาหาร หรือไม่ก็ได้ และสามารถรับประทานเวลาใดก็ได้
- หากคุณลืมรับประทานยาหนึ่งเม็ดให้รับประทานทันทีที่นึกได้ แม้ว่าอาจจะใกล้กับเวลาที่ต้องรับประทานยาอีกครั้งก็ตาม อย่ารับประทานเพิ่มทีเดียวเป็นเท่าตัวแทน
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอลล์และยาเสพติดในขณะที่รับประทาน Paxil เนื่องจากจะลดประโยชน์ของยา
- Paxil เป็นยาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพดี เมื่อรับประทานตามที่แพทย์สั่งและขณะนี้ยังไม่พบว่ามีความเสี่ยงจากการใช้ยาระยะยาว
- ตรวจสอบกับแพทย์ หรือเภสัชกรเรื่องปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น