HCTZ เป็นชื่อการค้าของยา ไฮโดรคลอโรไธอะไซด์ (hydrochlorothiazide) เป็นยากลุ่มยาขับปัสสาวะใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูงและอาการบวม เนื่องมาจากการสะสมของน้ำในร่างกาย ข้อล่งใช้อื่น ได้แก่ โรคเบาจืด (diabetes inspidus) ภาวะเลือดเป็นกรดจากหลอดไตฝอย (renal tubular acidosis) และสำหรับลดความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไต ในผู้ที่มีระดับแคลเซียมในปัสสาวะสูง สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ยากลุ่มนี้มักใช้เป็นยาทางเลือกกลุ่มแรกๆในการรักษา ยาไฮโดรคลอโรไธอะไซด์บริหารผ่านการรับประทาน และอาจใช้ร่วมกับยาลดความดันโลหิตอื่น ยานี้ถูกคิดค้นโดยบริษัทยาสองบริษัท ได้แก่ Merck และ Ciba ซึ่งต่อมาถูกวางจำหน่ายในท้องตลาดในปี ค.ศ. 1959 ยาไฮโดรคลอโรไธอะไซด์อยู่ในบัญชียาหลังขององค์การอนามัยโลก ในปีค.ศ. 2008 ได้ถูกจัดเป็นยาที่มีการใช้มากที่สุดในการลดระดับความดันโลหิตมากเป็นอันดับที่สองในสหรัฐอเมริกา
ตัวอย่างยี่ห้อของยา Hydrochlorothiazide ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย
HCTZ / Hydrochlorothiazide T.O. - ยาเม็ด ขนาด 25 มิลลิกรัม - ยาเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม | T.O. Chemicals |
Hydril-HCT - ยาเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม | Fehalab |
Hydrochlorothiazide GPO - ยาเม็ด ขนาด 25 มิลลิกรัม - ยาเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม | GPO |
Hydrozide Atlantic - ยาเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม | Atlantic Lab |
Dichlotride - ยาเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม | M and H Manufacturing |
Diuret-P - ยาเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม | P.P. Laboratories |
Diric - ยาเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม | Siam Medicare |
Dragotab - ยาเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม | บริษัทเภสัชกรรม เค.บี. จำกัด |
Hychlozide - ยาเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม | Pharmasan Labs |
Hydrochlorothiazide Union Drug - ยาเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม | Union Drugs |
Urazide - ยาเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม | Inpac Pharma |
โรค และอาการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยานี้บรรเทา
- ข้อบ่งใช้สำหรับความดันโลหิตสูง
- ข้อบ่งใช้สำหรับอาการบวมน้ำ
กลไกการออกฤทธิ์ของยา Hydrochlorothiazide
กลไกการออกฤทธิ์ของยาคือ ไฮโดรคลอโรไธอะไซด์ เป็นยากลุ่มยาขับปัสสาวะและยาลดความดันโลหิต ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการดูดกลับของโซเดียมที่บริเวณดิทัล ทูบูล (distal tubule) ซึ่งจะเพิ่มการขับออกของโซเดียม คลอไรด์ในปริมาณที่เท่ากัน และน้ำ ร่วมกับการขับโพแทสเซียมและไฮโดรเจนไอออน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ข้อบ่งใช้ของยา Hydrochlorothiazide
ข้อบ่งใช้สำหรับความดันโลหิตสูง ยาในรูปแบบยารับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาดเริ่มต้น 12.5 มิลลิกรัม อาจเพิ่มขนาดยาได้ถึง 25 ถึง 50 มิลลิกรัม วันละครั้งตามความจำเป็น ในการใช้ยาสามารถใช้เป็นทั้งยาเดียวหรือร่วมกับยารักษาความดันโลหิตสูงกลุ่มอื่น ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุน้อยกว่า 2 เดือน ขนาดยา 1 ถึง 3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้ยา 1 ถึง 2 ครั้ง ขนาดยาสูงสุด 37.5 มิลลิกรัมต่อวัน เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี ขนาดยา 1 ถึง 2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน แบ่งให้ยาหนึ่งถึงสองครั้ง ขนาดยาสูงสุด 37.5 มิลลิกรัมต่อวัน เด็กอายุ 2 ถึง 12 ปีขนาดยาหนึ่งถึง 2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน แบ่งให้ยา 1 ถึง 2 ครั้งขนาดยาสูงสุด 100 มิลลิกรัมต่อวัน ขนาดยาในผู้สูงอายุ 12.5 ถึง 25 มิลลิกรัม วันละครั้ง สามารถแบ่งให้ยาได้ตามความจำเป็น ครั้งละ 12.5 มิลลิกรัม ข้อบ่งใช้สำหรับอาการบวมน้ำ ยาในรูปแบบยารับประทานขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ 25 ถึง 100 มิลิกรัมต่อวัน แบ่งให้ยา 1 ถึง 2 ครั้ง หรือให้ยาสลับวันเว้นวัน หรือให้ยาสามถึงห้าวันต่อสัปดาห์ ขนาดการใช้ยาในเด็กน้อยกว่า 6 เดือน ขนาด 1 ถึง 3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน แบ่งให้ยา 1 ถึง 2 ครั้งขนาดยาสูงสุด 37.5 มิลลิกรัมต่อวัน อายุ 6 เดือนถึง 2 ปี ขนาด 1 ถึง 2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน แบ่งให้ยา 1 ถึง 2 ครั้งขนาดยาสูงสุด 37.5 มิลลิกรัมต่อวัน อายุมากกว่าสองปีถึง 12 ปีขนาดหนึ่งถึง 2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน แบ่งให้ยา 1 ถึง 2 ครั้ง ขนาดยาสูงสุด 100 มิลลิกรัมต่อวัน ขนาดการใช้ยาในผู้สูงอายุ ขนาด 12.5 ถึง 25 มิลลิกรัม วันละหนึ่งครั้ง อาจแบ่งให้ยาโดยให้ครั้งละ 12.5 มิลลิกรัม
ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Hydrochlorothiazide
หากลืมรับประทานยาตามเวลาปกติที่รับประทาน ถ้าปกติรับประทาน 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้จำนวน 1 เม็ดโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ดแทนเม็ดที่ลืมรับประทาน ในกรณีลืมรับประทานยาใกล้กับเวลารับประทานถัดไป ให้รับประทานยาในมื้อถัดไปในขนาด 1 เม็ด โดยข้ามยาในมื้อที่ลืมไปและไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ด
ข้อควรระวังของการใช้ยา Hydrochlorothiazide
- ไม่ใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่แพ้อนุพันธ์ของยากลุ่มซัลโฟนาไมด์ (sulfonamide)
- ไม่ใช่ยานี้ในผู้ป่วยปัสสาวะไม่ออก - ไม่ใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคไตรุนแรง
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีระดับอิเล็กทรอไลท์ผิดปกติ
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคเกาท์ โรคภูมิแพ้ โรคหืด โรคเบาหวาน โรคต่อมพาราไธรอยด์
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
- ยานี้อาจทำให้อาการของโรคเอส แอล อี กำเริบ
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคตับ
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคไตระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ระวังการใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Hydrochlorothiazide
ยานี้อาจก่อให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ ได้แก่ รบกวนสมดุลอิเล็กทรอไลท์ อ่อนเพลีย ความดันโลหิตต่ำ ตับอ่อนอักเสบ ดีซ่าน ท้องเสีย อาเจียน เกร็งท้อง ท้องผูก ระคายเคืองกระเพาะอาหาร คลื่นไส้ ไม่อยากอาหาร โลหิตจางชนิด aplastic เม็ดเลือดขาวต่ำ โลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงแตก อาการแพ้แบบ anaphylaxis เกร็ดเลือดขาวต่ำ กดระบบทางเดินหายใจ ไวต่อแสง เป็นไข้ ผื่นลมพิษ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง กรดยูริกในเลือดสูง กล้ามเนื้อกระตุก ส่งผลต่อการทำงานของไต ไตวาย ส่งผลต่อการมองเห็นทำให้มองเห็นภาพไม่ชัด
ข้อมูลการใช้ยา Hydrochlorothiazide ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
สำหรับการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ ตัวยาจัดอยู่ในกลุ่ม category B คือ ยาค่อนข้างมีความปลอดภัยในการใช้ยาในสตรีมีครรภ์
ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยา ประเทศไทย
ยาจัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น
ข้อมูลการเก็บรักษายา Hydrochlorothiazide
เก็บรักษาที่อุณหภูมิระหว่าง 15 ถึง 30 องศาเซลเซียส ป้องกันจากแสง ความชื้น และไม่แช่ยาในช่องแช่แข็ง
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลในการสั่งใช้ยา
แพทย์และเภสัชกรสามารถให้ข้อมูลการใช้ยาอย่างปลอดภัย ผู้ป่วยควรแจ้งข้อมูลเหล่านี้แก่แพทย์หรือเภสัชกรเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วยและลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการใช้ยา
- แจ้งข้อมูลการใช้ยารักษาโรคประจำตัว ยาที่เพิ่งรับประทานก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รับประทาน (รวมถึงวิตามิน และสมุนไพร) ในกรณีมียาประจำตัวจำนวนมาก ให้พกยาเพื่อให้แพทย์หรือเภสัชกรช่วยตรวจสอบก่อนสั่งจ่ายยาใหม่ ไม่ให้เกิดอันตรกิริยาระหว่างยาที่จะได้รับใหม่และยาที่เดิมที่ผู้ป่วยใช้อยู่
- แจ้งประวัติการแพ้ยา หรืออาการแพ้ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือแพ้อาหารชนิดใดอยู่ (เนื่องจากยาบางชนิดมีส่วนประกอบของไข่ขาว นม ยีสต์) อาการที่เกิดขึ้น เช่น อาการบวม เกิดผื่น หายใจลำบาก หรือให้นำบัตรแพ้ยา พกติดตัวและแสดงบัตรนี้แก่แพทย์และเภสัชกรก่อนเข้าใช้บริการสุขภาพทุกครั้ง
- แจ้งข้อมูลในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ หรือมีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยาบางชนิดส่งผลอันตรายต่อเด็กในครรภ์ หรือสามารถขับออกทางน้ำนมได้
- แจ้งข้อมูลที่จะส่งผลต่อการรับประทานยา เช่น มีปัญหาการกลืนลำบาก มีปัญหาด้านการมองเห็นหรืออ่านฉลากยา วิธีการรับประทานยา เพื่อแพทย์หรือเภสัชกรจะได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง