ในที่สุดฤดูผลไม้แสนอร่อยอย่าง ทุเรียน ก็มาถึง ถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงมาก นำโด่งไปถึงลูกละ 100-300 ก็เถอะ แต่ความชอบส่วนตัวมักไม่เข้าใครออกใคร แต่ทุเรียน ถึงจะอร่อยดีมีประโยชน์ แต่หากไม่รับประทานให้ถูกวิธีก็เป็นอันตรายต่อชีวิตได้เหมือนกัน ดังนั้นก่อนซื้อทุเรียนสักลูกขอให้อ่านข้อควรรู้เกี่ยวกับทุเรียนก่อน แล้วค่อยรับประทานก็จะดีนะ
- ทุเรียนใน 1 ผลที่ทั้งหวานทั้งมันประกอบด้วย
- กำมะถันอินทรีย์
- คาร์โบไฮเดรตได้แก่ซูโครสและฟรุกโตส
- แอนตี้ออกซิแดนท์
- วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินเอ, อี, ซี, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมงกานิส, เหล็ก, ทองแดงฯลฯ จึงนับว่าในทุเรียนมีประโยชน์ไม่ใช่น้อย - ทุเรียน นับว่าเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่สูง เนื่องจากทุเรียน 4-6 เม็ด ให้ปริมาณแคลอรี่ถึง 400 กิโลแคลอรี่ หรือเทียบได้กับน้ำอัดลม 2 กระป๋อง หรือเท่ากับข้าว 1 จานเต็มๆ ซึ่งหากรับประทานเพลินเกินไปก็อาจจะทำให้น้ำหนักขึ้นได้
- ทุเรียน มีปริมาณน้ำตาลสูงมาก ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหากเลี่ยงได้ก็ควรจะเลี่ยง
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เส้นเลือด และไขมันในเลือด ควรรับประทานทุเรียนให้น้อยที่สุด
- ทุเรียนให้พลังงานสูง หากมื้อใดที่รับประทานทุเรียน ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารอื่นๆ ที่ให้พลังงานสูง เช่น อาหารประเภททอด อาหารกะทิ อาหารหวานมัน เป็นต้น หรือถ้าเป็นไปได้ควรออกกำลังกายเพิ่มด้วย เพื่อที่จะได้เผาผลาญพลังงานที่อาจได้รับมากเกินไป
- การรับประทานทุเรียนร่วมกับดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ นับว่าเป็นสิ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้รู้สึกร้อนและไม่สบายตัว และยิ่งถ้ากินมากๆแล้วเมาหลับไป ร่างกายก็จะขาดน้ำอย่างรุนแรง จนเมื่อถึงจุดหนึ่งสมองจะเสียน้ำมาก ระดับเกลือแร่ในร่างกายจะผิดปกติ สมองอาจทำงานไม่ดี และนำไปสู่อาการ หน้าร้อนวูบวาบ สั่น ง่วง ซึม คลื่นไส้ อาเจียน หรือถึงกับหมดสติได้ หากนำส่งโรงพยาบาลไม่ทันอาจเสียชีวิตได้
- ไม่ควรรับประทานทุเรียนคู่กับลำไย เพราะลำไยมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง อีกทั้งยังให้พลังงานมาก ถ้ารับประทานมากเกินไปก็อาจทำให้ร้อนในได้
- ถ้าจะให้ดีต้องรับประทานทุเรียนคู่กับมังคุด เพราะมังคุดมีฤทธิ์เย็นจึงช่วยต้านกับทุเรียนร้อนได้ดี อีกทั้งในมังคุดมีเส้นใยอาหารสูง และมีสารต้านการอักเสบช่วยแก้ในเรื่องร้อนใน มีน้ำในปริมาณมาก การรับประทานทุเรียนกับมังคุดจึงเข้ากันอย่างดี ช่วยสุขภาพราวกับเป็นกิ่งทองใบหยกเลยจริงๆ
- สำหรับใครที่ญาติระอากับกลิ่นของทุเรียน หรือมีใครที่ไม่ชอบกลิ่นทุเรียนอยู่ใกล้ๆซึ่งในเรื่องกลิ่นนี้มาจากสารอินทรีย์กำมะถันในทุเรียน การแก้กลิ่นหลังกินทุเรียนอาจไม่ถึงขนาดทำให้ไร้กลิ่น แต่พอช่วยบรรเทาไปได้ โดยมีเทคนิค ให้กินฝรั่งห่ามๆ สัก 3-4 ชิ้น เคี้ยวใบสะระแหน่สด หรืออาจใช้สูตรโบราณให้ดื่มน้ำที่รินใส่เปลือกทุเรียน เป็นต้น
- ห้ามรับประทานทุเรียนจนหนักเกินไป เพราะเนื้อทุเรียนจะหมักทำให้เกิดแก๊สจนอึดอัดท้อง ทางที่ดีควรรับประทานแบบพอประมาณ แล้วดื่มน้ำตาม หรือจะรับประทานตอนท้องว่างก็ได้ ก็จะช่วยระบายและไล่เชื้อในลำไส้ด้วยฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์แบบธรรมชาติ
- ทุเรียนสามารถรับประทานเพื่อช่วยกระชากวัยได้ด้วย เนื่องจากในทุเรียนมีสารต้านสนิมแก่ที่สำคัญ เช่นโพลีฟีนอลส์ และฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่โดดเด่นจึงทำให้สุขภาพผิวพรรณดีขึ้น อีกทั้งยังมีเบต้าแคโรทีน, วิตามินอี และวิตามินซีด้วย จึงทำให้ผิวพรรณดีเข้าไปใหญ่
รู้แบบนี้แล้วก็รับประทานทุเรียนได้อย่างสบายใจได้เลย !! แต่อย่าลืมรับประทานแต่น้อย พร้อมกับออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าจะรับประทานทุเรียนได้อิ่มอร่อย ปลอดภัยต่อร่างกาย และไม่ต้องกังวลใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง