เห็ดหลินจือ หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Ganoderma lucidum (Fr.) Karst เป็นเห็ดที่ปรากฏชื่ออยู่ในตำราสมุนไพรโบราณของจีนมานานหลายพันปี และได้รับยกย่องให้เป็นราชาแห่งสมุนไพรจีน เป็นเทพเจ้าแห่งชีวิตที่มีพลังมหัศจรรย์ เนื่องจากเห็ดหลินจือมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง บรรเทาอาการอ่อนเพลีย และใช้รักษาอาการเจ็บป่วยได้หลายอย่าง เห็ดหลินจือในธรรมชาติมีมากมายกว่าร้อยสายพันธุ์ แต่พบว่า "สายพันธุ์สีแดง" หรือ "เห็ดหลินจือแดง" มีสรรพคุณทางยาที่ดีที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด
ปัจจุบันผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ยืนยันอย่างชัดเจนว่า เห็ดหลินจือแดงอุดมด้วยสารสำคัญหลายชนิดที่มีฤทธิ์ทางยามากมาย ทั้งช่วยกระตุ้น ส่งเสริมการทำงานของระบบในร่างกาย ต่อต้าน ยับยั้งการก่อโรค หรือป้องกันโรค และรักษาโรคได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คราวนี้เรามารู้จักสรรพคุณของเห็ดหลินจือแดงแบบละเอียดกันดีกว่า
สรรพคุณทางยาของเห็ดหลินจือแดง
1. ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งมีบทบาทช่วยยับยั้งการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และรา ผลจากการกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวจะไปกระตุ้นให้เซลล์พิฆาตมะเร็ง (NK cell) ทำงานได้ดีขึ้นด้วย ส่งผลให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและเซลล์มะเร็งได้อย่างดี
2. ช่วยการทำงานของตับและยับยั้งเซลล์มะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงมีสารสำคัญหลายชนิด เช่น สารในกลุ่ม Triterpenoid ซึ่งมีส่วนช่วยร่างกายขับสารพิษจึงทำให้ตับทำงานได้ดีขึ้น จากการทดลองยังพบว่า สารดังกล่าวช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งตับอีกด้วย
3. รักษาอาการภูมิแพ้
สารประกอบสำคัญในเห็ดหลินจือแดงมีส่วนช่วยยับยั้งการหลั่งสารฮีสตามีน (Histamine) ของเซลล์ในร่างกาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการอักเสบจึงช่วยบรรเทาผดผื่นคันบนผิวหนัง รวมถึงอาการไอ จาม คัดจมูก ซึ่งเกิดจากภูมิแพ้ได้
4. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
สารต้านอนุมูลอิสระในเห็ดหลินจือแดงจะช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ไม่ให้ถูกทำลาย ยับยั้งการเกาะตัวของไขมันและลิ่มเลือดบนผนังหลอดเลือด อีกทั้งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจได้
5. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้อ่อนเยาว์
สารต้านอนุมูลอิสระในเห็ดหลินจือแดงจะช่วยปกป้องเซลล์ผิวหนังจากการถูกทำลายจึงช่วยให้ผิวคงความอ่อนเยาว์ และยับยั้งการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
6. บรรเทาอาการของโรคเบาหวาน
มีงานวิจัยที่พบว่า สารสกัดจากเห็ดหลินจือแดงสามารถลดน้ำตาลในเลือดของหนูทดลองที่เป็นเบาหวานได้จึงสันนิษฐานว่า เห็ดหลินจือแดงน่าจะช่วยกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนอินซูลินและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้เช่นกัน
7. ลดความดันโลหิต
มีการศึกษาที่พบว่า การให้สารสกัดเห็ดหลินจือแดงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือนในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง จะช่วยลดระดับความดันโลหิตลงได้ ทั้งยังอาจช่วยลดระดับไขมันในเลือดและลดการเกาะของไขมันในหลอดเลือดได้
8. ช่วยรักษาอาการอ่อนเพลียและซึมเศร้า
มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่รับประทานเห็ดหลินจือเป็นระยะเวลา 4-8 สัปดาห์ติดต่อกัน สามารถช่วยลดอาการอ่อนเพลีย อาการกระวนกระวาย และภาวะซึมเศร้าได้
เห็ดหลินจือแดง รับประทานในรูปแบบไหนดี
- รูปแบบโบราณ คือ การนำเห็ดหลินจือไปตากแห้ง จากนั้นนำมาต้มกับน้ำและดื่ม วิธีนี้อาจยุ่งยากแถมรสชาติยังอาจขมเฝื่อน ทำให้รับประทานได้ยาก
- รูปแบบแคปซูล โดยนำเห็ดหลินจือแห้งมาบดเป็นผง และนำมาบรรจุในแคปซูล วิธีนี้แม้จะทำให้รับประทานได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาคือ ดูดซึมยาก และหากไม่มีการควบคุมคุณภาพให้ดีก็อาจมีการปนเปื้อนได้
- รูปแบบแคปซูล หรือยาเม็ด จากสารสกัดเห็ดหลินจือแดง รูปแบบนี้จะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่จนได้สารสกัดที่มีความเข้มข้น และอุดมด้วยสารที่มีคุณประโยชน์ตามต้องการ ดูดซึมได้ง่าย
แม้จะมีสรรพคุณมากมายขนาดนี้ แต่บางครั้งก็พบผลข้างเคียงจากการรับประทานเห็ดหลินจือแดงได้เช่นกัน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เห็ดหลินจือแดง
การศึกษาเห็ดหลินจือแดงพบว่า ผลข้างเคียงส่วนใหญ่พบในผู้ที่รับประทานเห็ดหลินจือแดง 2 ครั้งต่อวัน เป็นระยะเวลา 4 เดือน จะมีอาการท้องไส้ปั่นป่วน เช่นเดียวกับผู้ที่เริ่มรับประทานเห็ดหลินจือแดงซึ่งอาจมีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแรง ไม่สดชื่น ง่วงซึม บางครั้งอาจมีอาการปวดตามข้อ ระบบขับถ่ายแปรปรวน และคันตามผิวหนังได้ สันนิษฐานว่า อาการดังกล่าวเกิดจากกระบวนการขับสารพิษออกจากร่างกายและจะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ หากใครทนผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ไหว หรือรู้สึกไม่สบายใจ อาจปรึกษาแพทย์ ลดปริมาณที่รับประทานลง หรือหยุดรับประทานสักพักก็ได้ อย่างไรก็ดี ยังไม่พบผลข้างเคียงที่เกิดกับตับและไต มีรายงานว่า หากเป็นผู้ที่รับประทานสารสกัดจากเห็ดหลินจือแดงอาจทำให้ตับถูกทำลายได้ แต่ยังไม่เป็นที่ยืนยันว่า มีสาเหตุจากเห็ดหลินจือแดง หรือมีสาเหตุจากส่วนผสมในกระบวนการสกัดที่เป็นพิษต่อตับ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันข้อมูลความปลอดภัยยังมีจำกัด ดังนั้นสตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร ผู้เป็นโรคเกี่ยวกับเลือด ผู้มีความดันโลหิตต่ำ และผู้ที่วางแผนจะเข้ารับการผ่าตัดในอนาคตอันใกล้ไม่ควรรับประทานเห็ดหลินจือแดง ส่วนผู้ที่รับประทานยาตามคำสั่งแพทย์อยู่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน