หลายคนในที่นี้น่าจะเคยตื่นนอนมาพร้อมกับความรู้สึกอ่อนเพลีย ซึ่งแน่นอนว่ามันจะพาลทำให้คุณไม่อยากลุกออกจากเตียงเพื่อไปทำงาน ทั้งนี้อาการอ่อนเพลียในตอนเช้าสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตัวอย่างเช่น การมีไลฟ์สไตล์ที่หนักหน่วง ความเครียด ความวิตกกังวล การไม่ได้รับสารอาหารบางชนิด การใช้ชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ การนอนในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ฯลฯ อย่างไรก็ตาม วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำหลากเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเอาชนะปัญหาดังกล่าว และกลับมาสดชื่นพร้อมที่จะออกไปทำงานอีกครั้ง แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูพร้อมกันเลยค่ะ
1. ปรับปรุงคุณภาพการนอน
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การที่คุณจะตื่นมาพร้อมกับพลังงานที่เปี่ยมล้น อันดับแรกคือ คุณต้องมั่นใจว่าการนอนมีคุณภาพ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า อาการอ่อนเพลียในตอนเช้าอาจเกิดจากสิ่งแวดล้อมของสถานที่ๆ คุณนอน สำหรับวิธีที่ช่วยให้คุณนอนหลับได้สนิทมีดังนี้
- นอนในห้องที่เงียบ
- ไม่มีแสงสาดส่องเข้ามาในห้อง เพราะมันจะไปขัดขวางการผลิตเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการนอน
- ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่รอบตัว
- อุณหภูมิในห้องต้องมีความเหมาะสม
- ห้องสะอาดเรียบร้อย และไม่มีสิ่งของวางเกะกะใกล้กับบริเวณที่คุณนอน
- ห้องมีการระบายอากาศอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในระหว่างวัน
- อาบน้ำอุ่นก่อนเข้านอน
2. รับมือกับความเครียด
ความเครียดถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของสุขภาพ ซึ่งมันจะทำให้ร่างกายเสียสมดุล และเป็นต้นเหตุของการเกิดความผิดปกติต่างๆ ทั้งนี้หนึ่งในอาการพื้นฐานที่เกิดจากความเครียดก็คือ การเป็นโรคนอนไม่หลับ หรือต้องใช้เวลาในการนอนหลับมากขึ้น ซึ่งมันจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยในเช้าวันถัดมา และเหนื่อยตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ดี คุณควรหาวิธีจัดการกับความเครียด โดยพยายามจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ หาวิธีที่ทำให้ตัวเองผ่อนคลาย และทานอาหารให้เหมาะสม
3. ออกกำลังกายชนิดหนักปานกลาง
เราอาจมีปัญหากับการนอน ถ้าเราไม่ทำให้ร่างกายเหนื่อยในระหว่างวัน ซึ่งในที่นี้หมายถึงความเหนื่อยทางกายค่ะ ทั้งนี้คนส่วนมากมักจะเหนื่อยใจ และนั่นก็จะทำให้เกิดวิถีชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ หรือ Sedentary Lifestyles อย่างไรก็ดี การได้ออกกำลังกายระดับปานกลางอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง จะช่วยให้คุณนอนหลับได้สบายขึ้น และตื่นเช้ามาพร้อมกับความสดชื่น
4. ติดตามการทานอาหารเย็น
คุณไม่ควรทานอาหารเย็นหนักจนเกินไป เพื่อไม่ให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักขึ้นก่อนเข้านอน การทำเช่นนี้ยังช่วยให้ตับและถุงน้ำดีไม่ทำงานหนัก ปรับปรุงระดับพลังงาน และทำให้คุณรู้สึกดีเมื่อตื่นนอน แต่ถ้าเราทานอาหารมื้อเย็นแบบจัดเต็มมากเกินไป ร่างกายก็จะมุ่งเน้นการใช้พลังงานไปกับกระบวนการย่อยอาหารแทนที่จะช่วยให้เราฟื้นตัวจากความอ่อนล้าที่เกิดจากการทำกิจกรรมในระหว่างวัน
5. ทานอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพ
บางคนอาจรีบออกจากบ้านไปทำงานหลังจากดื่มกาแฟเพียงแค่แก้วเดียว แต่ความจริงแล้วร่างกายของเราจำเป็นต้องได้รับคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันชนิดดีเพื่อให้เริ่มต้นเช้าวันใหม่โดยมีพลังเต็มเปี่ยม ทั้งนี้อาหารที่คุณควรทานเป็นอาหารเช้ามีดังนี้
- ผักและผลไม้สด ไม่ว่าจะในรูปแบบสลัดหรือสมูทตี้
- ธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวโอ๊ต ขนมปังที่ทำจากแป้งไรย์ หรือแป้งสเปลท์
- ถั่วและเมล็ดพันธุ์ น้ำผัก
6. ทานอาหารเสริมถ้าจำเป็น
ในบางกรณี เราอาจจำเป็นต้องทานอาหารเสริมเพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงให้ร่างกาย ตัวอย่างของอาหารเสริม เช่น สไปรูริน่า โสมเกาหลี แมคนีเซียม น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ผงมาคา โปรไบโอติก ใบมะกอก ฯลฯ ทั้งนี้คุณสามารถทานเป็นครั้งคราว และสลับทานอาหารเสริมชนิดอื่นบ้างค่ะ
สำหรับใครที่รู้ตัวว่ามักมีอาการอ่อนเพลียในตอนเช้า การทำตามวิธีที่เราแนะนำข้างต้นเป็นประจำก็จะช่วยให้คุณกลับมามีพลัง และพร้อมที่จะออกไปเผชิญกับโลกภายนอกอีกครั้งค่ะ