ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามที่ทำให้เราไม่สามารถนอนหลับพักผ่อนได้เพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายมีอาการเหนื่อยล้า ไม่สดชื่น เครียด หงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น และไม่สามารถทำงานได้ยาวนาน จนทำให้เกิดการง่วงนอนขณะทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ จึงต้องมีการงีบระหว่างวันหรือที่เรียกกันว่า power nap เกิดขึ้น
เวลาที่เหมาะสมที่ควรงีบระหว่างวัน
- นอนหลับ 10 – 20 นาที จะช่วยเพิ่มพลังงานและคืนความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สมองโปร่ง เพราะอยู่ในช่วง non – rapid eye movement (NREM)
- นอนหลับ 30 นาที เป็นเวลานอนที่ไม่เป็นผลดีกับร่างกาย เพราะจะยังคงรู้สึกง่วง มึนงง เหมือนกับนอนไม่พอ และยังคงไม่พร้อมที่จะทำงาน ซึ่งกว่าอาการนี้จะหายไปก็ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีต่อมา
- นอนหลับ 60 นาที เป็นช่วงที่ดีต่อความจำ ซึ่งเรียกว่าอยู่ในช่วง Slow – wave sleep เป็นการหลับลึกที่ยังคงความง่วง แต่สมองสามารถเสริมความจำดีไว้ได้
- นอนหลับ 90 นาที เป็นการนอนที่ครบรอบ กล่าวคือ มีหลับลึกและไม่ลึกมากนัก อาจมีการฝันบ้าง ช่วยให้อารมณ์ดี มีความคิดสร้างสรรค์ และไม่งัวเงียเหมือนช่วง 30 – 60 นาที
จากผลวิจัยพบว่าการใช้เวลางีบระหว่างวันเกินกว่า 30 – 45 นาที หรือการงีบช่วง 11.00 น. นอกจากจะไม่ส่งผลดีกับร่างกายแล้ว ยังก่อให้เกิดผลเสียตามมาอย่างเช่นทำให้ช่วงกลางคืนนอนไม่หลับ และอาจมีปัญหาสุขภาพตามมาอีกด้วย
ตรวจการนอน Sleep Test วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,455 บาท ลดสูงสุด 50%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ดังนั้นการงีบระหว่างวันควรอยู่ในช่วงบ่าย 15.00 – 18.00 น. โดยใช้เวลาหลับแค่เพียง 10 นาทีเท่านั้น จะสามารถตื่นตัวพร้อมที่จะทำงานต่อไปได้อีก 3 ชั่วโมง และยังพบว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าการนอนหลับนาน 30 นาที – 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ประสิทธิภาพของร่างกายแต่ละคนก็มีผลถึงความต้องการการงีบระหว่างวัน บางคนไม่จำเป็น บางคนก็ต้องการเพียงเล็กน้อยหรือต้องการหลับไปนานๆ เลยก็มีเช่นกัน
ข้อดีของการงีบระหว่างวัน
- ก่อให้เกิดการตื่นตัวทั้งด้านสมองและร่างกายในการทำงาน มีความกระตือรือร้น อาการร่วงโรยต่างๆ จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ลดความเครียดหรือความหงุดหงิด เป็นการผ่อนคลายสมอง เพราะการหลับจะช่วยลดฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียดได้
- ทำให้สมองมีประสิทธิภาพในการจำได้อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้น
- การเรียนรู้สิ่งต่างๆ ทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า 40% การทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์จะทำได้ดีและมีความพร้อมมากขึ้น
- สุขภาพโดยรวมดีขึ้น เนื่องจากการงีบระหว่างวันจะทำให้ร่างกายปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย และซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ได้ดีขึ้น
สถานที่ที่เปิดสำหรับงีบระหว่างวัน
จากประโยชน์ของการงีบระหว่างวันที่มีประโยชน์กับร่างกายสูงนี้เอง จึงส่งผลให้มีนักธุรกิจเล็งเห็นโอกาสในการสร้างร้านหรือสถานที่ออกมารองรับผู้ที่ต้องการงีบระหว่างวัน ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงที่งีบหลับเท่านั้น แต่ยังมีการบริการไปถึงร้านอาหารอร่อยๆ ร้านที่นั่งทำงาน หรือร้านนวด เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายอีกด้วย
- Nap lap co-napping workspace จัดเป็นคาเฟ่งีบระหว่างวันที่ทำงานก็ดี หรืองีบหลับก็ได้ สะดวกด้วยร้านอาหารอร่อยๆ เช่น Jamie’s Burgers, Tasty Healthy หรือเฝออินทาวน์ ครบครันด้วยบริการฟิตเนสและมีห้องให้เช่า สำหรับ Naplap จะอยู่ที่ชั้น 3 – 4
- Nap sleep salons สำหรับผู้ที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการทำงาน ปวดศีรษะ หรือเมื่อยไหล่ จะมีบริการการนวดแถมได้มีเวลาพักงีบกว่า 1 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว โดยมีบริการ 2 สาขา คือ
- Nap Sleep @ Rama 9 Tel.095 – 2489350 ร้านอยู่หลังเซ็นทรัลพระราม 9 อาคารสยามคอนโดมิเนียม
- Nap Elite @ Sathon Tel. 062 – 6924493 ใกล้ๆ กับ BTS สถานีช่องนนทรี ซอยนราธิวาส 7
การรักษาสุขภาพไม่ให้มีอาการง่วงระหว่างวัน ควรนอนหลับช่วงกลางคืนให้เพียงพอคือ 7 – 10 ชั่วโมง นอนให้เร็วขึ้น รับประทานอาหารก่อนนอนที่ช่วยให้หลับง่าย หรือใช้วิธีจิบน้ำระหว่างวันเพื่อช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในร่างกายและสมอง หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นแป้งหนักๆ ในมื้อเที่ยง หากยังรู้สึกไม่หายง่วงก็ควรงีบระหว่างวันสักครู่ จะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานไม่ลดลงจนเกิดผลกระทบต่อหน้าที่การงานได้