August 29, 2019 17:49
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ปกติท้องผูกคือถ่ายน้อยกว่าประมาณ3วันต่อสัปดาห์ครับ
ถ่ายเเล้วเป็นก้อนเเข็ง นั่งในห้องน้ำนานก็เบ่งไม่ออก
.............
สาเหตุมีเยอะครับ
เช่น
- พฤติกรรมการขับถ่าย เป็นคนกลั้นถ่ายบ่อยๆ ไม่ถ่ายเป็นเวลา จะทำให้อุจจาระเเข็งรวมถึงการบีบตัวของลำไส้เเย่ลง
- พฤติกรรมการกิน กินน้ำน้อย กินอาหารที่มีกากใยน้อย เช่น ไม่ค่อยกินผัก
- เกิดจากโรคบางชนิด เช่น ไทรอยด์ต่ำ(ท้องผูก อ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีเเรง น้ำหนักขึ้น) เบาหวาน เเคลเซียมในเลือดสูง โพเเทสเซียมต่า
- ยาบางชนิด เช่น ยาจิตเวช ยาลดความดันบางชนิด
- มีก้อนในลำไส้ ทำให้อุดตัน เเต่มักเกิดในคนอายุเยอะๆครับ
ควรหาเวลาพบเเพทย์ครับ เพื่อให้คัณหมอประเมินเบื้องต้น
เเละพิจารณาเรื่องยารักษาท้องผูก ซึ่งมีหลายชนิด เช่น ยากระตุ้นการบีบตัวลำไส้ ยาทำให้อุจจาระนิ่ม ยาเพิ่มมวลของอุจจาระ เป็นต้น ถ้าไม่ดีขึ้นคุณหมอจะพิจารณาเจาะเลือดหรือตรวจหาสาเหตุอื่นๆตามที่ได้อธิบายคนไข้ไปข้างบนครับ
................
ยาโดยทั่วไป ซื้อได้ตามร้านขายยาครับ เช่น Senokot , Mucillin ,MOM Lactulose ปรึกษาคุณเภสัชกรก่อนได้ครับ
.................
ระหว่างนี้ปรับพฤติกรรม พยายามนั่งเบ่งถ่ายเวลาเดิมทุกวันไม่ว่าจะปวดถ่ายหรือไม่ก็ตามครับ เช่น ตื่นเช้ามาไปนั่งส้วมก่อนเลย วันเเรกๆอาจไม่ปวด เเต่ทำทุกวันร่างกายจะชิน เเละปรับเวลาขับถ่ายได้ครับ
ดื่มน้ำวันละ6-8เเก้ว กินอาหารที่มีกากใย ผักผลไม้ครับผม
แต่ถ้าปวดท้องมาก ถ่ายไม่ออก สังเกตว่าไม่ผายลมเลย ต้องระวังภาวะลำไส้อุดตัน เเบบนี้ต้องพบเเพทย์ครับ
ส่วนมะเร็งลำไส้ ส่วนมหญ่อาการคือ ถ่ายปนเลือด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้องเสียสลับท้องผูกเป็นต้นครับ
ถ้ากังวลก็หาเวลาพบเเพทย์ครับ
ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีประวัติญาติเป็นมะเร็งลำไส้ อาการสบายดี ก็สามารถตรวจคัดกรอง เช่นตรวจอุจจาระ หรือพิจารณาส่องกล้องตรวจที่อายุ50ปีขึ้นไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
สาเหตุที่ทำให้ท้องผูกมีได้หลายสาเหตุ เช่น
1.พฤติกรรมการขับถ่ายที่ไม่เหมาะสม เช่น กลั้นอุจจาระเป็นประจำ
2.การใช้ยาบางชนิดที่ทำให้ขับถ่ายยาก เช่น ยาจิตเวช แคลเซียม เป็นต้น
3.ความเครียด ความกังวล จากการทำงาน การเรียน เป็นต้น
4.การขับถ่ายไม่ตรงเวลา
5.การทานน้ำน้อย
6.การไม่ออกกำลังกาย
7.ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ
8.ก้อนเนื้อในลำไส้
9.การบีบตัวทำงานของลำไส้ผิดปกติ
ฉะนั้นหากไม่ถ่ายหรือท้องผูกนานกว่า3วัน และมีอาการปวดท้อง แน่นท้องมาก ร่วมกับ มี
อาการอื่นๆเช่น น้ำหนักลดผิดปกติ มีเลือดปนอุจจาระ อุจจาระลำเล็กลง เป็นต้น
แนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์อายุรกรรมทางเดินอาหาร หรืออายุรกรรมทั่วไปเพื่อตรวจร่างกาย เอกซเรย์ หรืออัลตร้าซาวน์เพื่อหาสาเหตุหรือความผิดปกติในช่องท้องก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ อาจจะเป็นลำไส้แปรปรวนได้ครับ
แต่ก่อนการที่จะบอกว่าเป็น โรคลำไส้แปรปรวนชนิด ท้องผูก ควรได้รับการส่องกล้องดูลำไส้ภายในก่อนครับ ว่ามีความผิดปกติที่เกิดจากทางกายภาพของลำไส้หรือไม่ เช่น มีก้อน มีการตีบตัน มีกระเปราะลำไส้ เป็นต้นครับ
ถ้ายังไม่เคยส่องกล้องตรวจแนะนำให้ลองไปหาเวลาส่องกล้องตรวจลำไส้ก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
โดยปกติ คนเรา 2-3 วัน ถ่ายที ถือว่าไม่ผิดปกติครับ หากลักษณะอุจจาระ ไม่ได้แข็ง ก้อนใหญ่ จนบาดรูทวาร หรือมีอาการริดสีดวง ถ่ายลำบาก ร่วมด้วยครับ
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการถ่ายยาก แน่นท้อง และไม่ค่อยทานผักผลไม้ อาจต้องปรับการทานอาหารให้มีกากใยเพิ่ทขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีของลำไส้ด้วยนะครับ
วิธีการแก้ไขท้องผูกเบื้องต้น คือ
1. ทานอาหารที่มีกากใยมากๆ ดื่มน้ำเยอะๆ
2. ยาระบาย เช่น MOM , fiber เช่น senokot ต่างๆ , lactulose ครับอาจต้องใช้เป็นประจำสัก 1-2 สัปดาห์เพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น
3.ช่วงที่อุจจาระแข็งมากๆช่วงแรก อาจใช้วิธีสวนทวารก่อนก็ได้ค่ะ เช่น ใช้ unison enema ครับ การสวนทต้องสวนอย่างระมัดระวัง ไม่รุนแรง และค่อยๆสวนออกมานะครับ ช่วงสวนเสร็จ อาจมีอาการปวดท้องเล็กน้อยครับ
**หากคนไข้สวน ทานยา ปรับพฤติกรรมแล้วไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ครับ
**หากคนไข้มีโรคประจำตัว /แพ้ยา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้งครับ
**หากอาการนี้เป็นรุนแรง เช่น ปวดท้องมาก มีไข้ อาเจียนเป็นสีเขียว หรือ อาเจียนมาก ไม่ถ่ายหรือไม่ผายลมเลย หรือ คนไข้เคยมีประวัติผ่าตัดมาก่อนหน้านี้ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่อันตรายอื่นๆ เช่น การติดเชื้อ โรคลำไส้อุดตัน เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
ลองเปลี่ยนเวลาขับถ่ายให้เป็นเวลา ออกกำลังกายเพื่อช่วยในเรื่องของการเคลื่อนที่ของกากอาหารในลำไส้ และทานผักผลไม้มากๆครับ หากผู้ถามสงสัย กังวลว่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ สามารถเข้าพบแพทย์เพื่อซักประวัติเพิ่มเติมได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ท้องผูกอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น การละเลย หรือยับยั้งความรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระ การกินอาหารที่มีกากใยน้อย การดื่มน้ำน้อย โรคของลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เช่น ริดสีดวง ฝีคัณฑสูตร โรคลำไส้อักเสบ เป็นต้น หรืออาจเกิดจากยา ที่พบบ่อยคือยาลดกรดที่มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียม ยาแก้ปวด แคลเซียม เป็นต้นครับ
เบื้องต้น แนะนำให้ฝึกให้มีนิสัยการขับถ่าย เช่น ขับถ่ายเป็นเวลา โดยเวลาที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายอุจจาระที่ดีควรจะเป็นหลังอาหาร(ดีที่สุดหลังอาหารเช้า) เพิ่มปริมาณเส้นใยในอาหาร ทานผักผลไม้มากๆ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
และแนะนำให้ไปพบแพทย์ หรือแพทย์อายุรกรรมทางเดินอาหาร จะได้ซักประวัติ ตรวจร่างกาย เพื่อวินิจฉัยแยกโรคครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การขับถ่าย 2-3 วันต่อครั้งนั้นอาจจะไม่เพียงพอที่จะใช้บอกได้ว่ามีปัญหาในการขับถ่ายหรือไม่ครับ เพราะถึงแม้จะกินผักอย่างเดียวโดยไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ถ้าหากอาหารที่รับประทานเข้าไปมีน้อยก็อาจจะยังไม่มีกากอาหารเพียงพอที่จะจับกันออกมาเป็นเนื้ออุจจาระครับ ในกรณีนี้จึงต้องมีการพิจารณาลักษณะของอุจจาระประกอบด้วยว่ามีลักษณะนิ่มหรือแข็ง และขับถ่ายออกมาได้ยากมากเพียงใด ถ้าหากอุจาดมีลักษณะเป็นเนื้อแข็งและถ่ายออกมาได้ยากจริงก็อาจจะเป็นปัญหาได้ครับ
ในกรณีที่มีปัญหาขับถ่ายอุจยากมานานแล้ว หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการโดยละเอียดเพิ่มเติมดูก่อน ถ้าหากพบความผิดปกติก็จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เป็นคนชอบทานผักค่ะ ทานบ่อย ไม่ทานเนื้อสัตว์ยิ่งเนื้อวัวไม่กินเลย แต่ขับถ่ายยาก 2-3 วันถึงจะถ่ายที เป็นมาเกือบปีแล้วค่ะ กลัวเป็นมะเร็งลำไส้ แบบนี้ควรซื้อยาไปทานมั้ยคะ หรือควรไปล้างลำไส้มั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)