ผมรู้สึกว่าผมไม่เป็นตัวของตัวเองเลยในบางทีมันเหมือนมีอีกคนนึงมาควบคุมเวลาผมโกรธ อย่างเฟสผมมี2เฟสนะครับเฟสหลักผมเวลาคุยในกลุ่มเเล้วเวลาอารมร้อนผมก็อยากเข้าไปในอีกเฟสละทักมาให้กำลังใจตัวเอง จากที่เฟสหลักคุยกับเพื่อนเเบบด่าเเรงๆอารมเสียเเต่พอเข้าอีกเฟสไปคุยเหมือนเปลี่ยนไปเป็นอีกคนเลยที่มีเเต่อารมดีไม่มีความคิดร้ายๆในหัวเลยพออารมดีผมก็กลับไปเข้าเฟสเดิมต่อจนคนรอบข้างไม่มีคนเข้าใจผมเลยชอบหาว่าบ้า เพราะผมอารมเปลี่ยนง่ายจากที่โกรธๆเพื่อนเพียงแค่ไม่ถึง1นาทีผมก็หายโกรธละส่วนความโกรธนั้นค่อยๆหายไปจนลืมละแต่เวลาโกรธผมไม่รู้นะว่าทำอะไรลงไปไม่รู้เลยว่าด่าอะไรลงไป พอเวลาด่าหัวใจผมจะเต้นรัวและเเรงมาก พอเป็นงั้นมือผมจะเข้าไปเปลี่ยนบัญชีละเข้าไปอีกเฟสเเทนละก็อารมหายโกรธเลยละก็ไปให้กำลังใจตัวเองต่างๆนาอย่างที่บอกเเหละครับเวลาโกรธเหมือนเป็นอีกคนละชอบเถียงกันในหัวสมองคือแบบผมไม่ได้คิดไปเองนะครับสำหรับหมอที่อ่านแต่ในสมองผมมันคิดแบบนั้นจริงๆ เวลาคุยกับแฟนก็จะคิดเรื่อง18+กับเเฟนนะครับแต่พอคิดปุ๊บเหมือนมีอีกคนมายับยั้งความคิด18+นั้นเลยคิดไปว่า ทำตัวให้เท่ไว้ ส่งแบบนั้นไปมันจะดีหรอ อย่าเลยมะนไมาดีต่างๆนาๆ เมื่อไหร่มี่ผมคิดเรื่องไม่ดี คือย้ำนะครับว่าผมไม่ได้บ้านะ หวังว่าหมอคงจะเข้าใจนะครับ มันย้อนเเย้งกันในหัวผมตลอดเเต่อีกความคิดนึงจะมาหลังจากที่อารมร้อนตลอด เวลาคิดดี ความคิดร้ายๆก็จะมาเหมือนกัน ผมจะทำยังไงดีครับ มันสับสนมากว่าตอนนี้จะทำยังไงดีความคิดมันวนๆอยู่ในหัวเนี่ยทำไงก็ไม่หายซักที ขอคำปรึกษาด้วยนะครับผมไม่รู้จะทำยังไงดีละ

สวัสดีครับ
จากอาการตามที่เล่ามานั้น การที่คุณมรการใช้เฟส 2 เฟสมาพูดคุยโต้ตอบกับตัวเองเพื่อให้กำลังใจตนเอง ปลอบตนเองจากเรื่องเครียดๆนั้นก็อาจเป็นการทำให้ตนเองผ่อนคลายในรูปแบบหนึ่งที่ไม่ได้มีผลกระทบรุนแรงกับใครครับ

เพียงแต่ว่าการผ่อนคลายความเครียดของตนเองนั้นยังสามารถทำได้ในอีกหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องทำตามวิธีที่เคยทำมาเสมอไป เช่น การออกกำลังกาย ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนัง เล่นดนตรี เขียนระบายความรู้สึกในไดอารี่ หาเพื่อนมาให้คำปรึกษา ฯลฯ ซึ่งหมอก็อยากให้คุณได้ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีการผ่อนคลายในรูปแบบเหล่านี้ดูบ้าง เพื่อให้ตัวคุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียดหรือารมณ์ที่ผิดปกติได้ดีขึ้นครับ

นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่หมอเป็นห่วงคืออาการมีความคิดเข้ามาตีกันอยู่ในหัว คิดเรื่อง 18+ กับแฟนซ้ำไปซ้ำมาและต้องคอยมาห้ามความคิดนี้ตลอดเวลานั้นอาจเป็นการมีความคิดความกังวลที่มากผิดปกติและอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำได้ครับ

ในกรณีนี้หมออยากให้คุณได้ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อช่วยตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือให้คุณสามารถจัดการกับอารมณ์ของตนเอง รับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น รวมถึงถ้าหากมีความผิดปกติ เช่น เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำด้วย ก็จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

การที่มีความคิดผิดปกติที่ไม่ต้องการเข้ามาในหัวอยู่ตลอดเวลา และไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ไม่สามารถห้ามความคิดนั้นได้อาจเป็นอาการผิดปกติในกลุ่มโรคย้ำคิดย้ำทำได้ตามที่หมออธิบายไปในคำตอบแรกครับ

ในกรณีนี้หมอจึงแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน ถ้าหากมีความผิดปกติจริงก็จะมีวิธีการรักษาที่สามารถช่วยให้อาการดีขึ้นได้ครับ

สวัสดีครับ

จากที่เล่ามาสิ่งหนึ่งเลยที่มองเห็นจะเป็นเรื่องของการจัดการกับอารมณ์โกรธที่เกิดขึ้น ซึ่งมักจะทำให้คุณขาดสติและทำอะไรออกไปโดยที่ตนเองก็ไม่ได้ต้องการจะทำสิ่งนั่นนะครับ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ที่คุณจะสามารถรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อฝึกในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ตรงนี้ได้

ในส่วนของการเล่น Facebook 2 อันนั้น หากเป็นวิธ๊การที่ช่วยให้คุณสามารถสงบสติอารมณ์ลงได้ ผมก็คิดว่าคุณสามารถทำแบบนั้นต่อไปได้ เพียงแต่อยากให้คุณลองมองถึงกิจกรรมอื่นๆด้วยในการที่จะช่วยให้คุณมีการปรับเปลี่ยนอารมณ์ไปในทางที่ดีขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังอยากให้คุณลองมองดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากคนรอบข้างในเรื่องของการใช้ Facebook 2 อัน ที่อาจจะทำให้คนอื่นมีความคิดในด้านลบกับเราได้ ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องถามตนเองนะครับว่าคุณรับมือกับเรื่องแบบนั้นได้หรือไม่

เช่นเดียวกันกับการคิดเรื่องทางเพศกับแฟน ซึ่งอยากให้เข้าใจว่าการมีความต้องการทางเพศเป็นเรื่องที่ปกติที่คุณสามารถมีได้ แต่การแสดงออกไปก็เป็นสิ่งที่คุณอาจจะต้องเรียนรู้ในการพูดในลักษณะที่ให้เกีรยติฝ่ายตรงข้าม ลักษณะคำพูดหรือวิธีการในการสื่อสารก็ควรที่จะเป็นไปอย่างที่อีกฝ่ายหนึ่งรับได้ เพราะระดับการเปิดเผยหรือการพูดคุยในเรื่องเพศของแต่ละคนไม่เท่ากันนะครับ บางคนอาจจะสามารถพูดคุยได้อย่างเปิดเผย แต่บางคนอาจจะรู้สึกอึดอัดเมื่อจำเป็นจะต้องพูดเรื่องเพศกับคนอื่นๆ ซึ่งตรงนี้คุณอาจจะต้องลองเรียนรู้ว่าแฟนของคุณสามารถรับกับเรื่องการพูดคุยเรื่องเพศได้มากแค่ไหนนะครับ

สุดท้ายนี้นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญแล้ว คุณยังสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความเครียดลดลง และช่วยให้อารมณ์มีความมั่นคงขึ้นได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ก็เป็นการฝึกเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ

การควบคุมอารมณ์ไม่ได้ อารมณ์ขึ้นๆลงๆ ไม่คงที่ + การคิดซ้ำๆเรื่องเดิมๆ หยุดความคิดไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีเหตุผลที่จะคิด อาการดังกล่าวถือเป็นความผิดปกติของสภาวะทางจิตใจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของตัวคุณเองและคนรอบข้างได้

การสร้างเฟส 2 เฟส อาจเป็นพฤติกรรมที่ใช้ในการปกป้องตัวเองให้หลุดพ้นจากความรู้สึกผิดหรือความรู้สึกที่ไม่ดี ซึ่งการจัดการปัญหาดังกล่าวอาจเป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่ไม่ทำกัน และคุณจะถูกมองว่าเป็นคนผิดปกติได้ ในกรณีนี้แนะนำให้ลองหาวิธีจัดการอารมณ์โกรธ หรือวิธีควบคุมอารมณ์ที่เหมาะสม เช่น การสำรวจอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง โดยปกติคนที่มีอารมณ์โกรธ ระบบประสาทอัตโนมัติจะทำงานเร็วเกิดปกติ ทำให้เรารับรู้อาการหรือสัญญาณบางอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เช่น หน้าร้อนผ่าว มือกำหมัดแน่น หูอื้อ เป็นต้น เมื่อเริ่มรับรู้สัญญาณอารมณ์โกรธได้แล้วเราก็ต้องใช้ทักษะจัดการอารมณ์นั้น เช่น อาจจะออกไปจากสถานการณ์ตรงนั้นก่อน หรือ นับเลขในใจไปเรื่อยๆ หรือ การหายใจเข้าออกยาวๆ เป็นต้น เมื่ออารมณ์สงบลง เราก็ไม่แสดงอาการก้าวร้าวออกมาเป็นพฤติกรรม ไม่ทำให้เรารู้สึกผิด แถมทำให้เกิดความรู้สึกภูมิใจที่เราสามารถเอาชนะความโกรธได้ นอกจากนั้นควรฝึกเป็นคนอารมณ์เย็น ทำอะไรช้าๆ อะไรนิดอะไรหน่อยก็หัดช่างมันเสียบ้าง ปล่อยวางบ้าง ออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้เราปลดปล่อยแรงขับหรือความรู้สึกตึงเครียดภายในออกมา

แต่หากลองปรับอาการไม่ดีขึ้น ไม่สามารถจัดการอารมณ์และความคิดของตัวเองได้ ก็ต้องพบจิตแพทย์ ประเมินอาการ รับการรักษาด้วยยา ซึ่งยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมอารมณ์ ความคิดและพฤติกรรมต่างๆได้ดีขึ้น เหมาะสมมากขึ้นค่ะ