>คำถาม: อะไรคือความแตกต่างระหว่างความขี้อายและการเก็บตัว?
ลูกชายอายุ 8 ขวบของฉันมีเพื่อนน้อยและใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่คนเดียวในห้องของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะดูมีความสุขดีแต่ฉันก็ยังกังวลอยู่ โดยเฉพาะเมื่อคุณครูบอกฉันว่าเขาไม่ค่อยจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นได้ดีนัก เขาเป็นเด็กขี้อายและฉันพยายามจะช่วยเขาพัฒนาความสามารถในการเข้าสังคม แต่เพื่อนของฉันบอกว่าเขาเป็นเด็กเก็บตัว ความแตกต่างระหว่างเด็กขี้อายและเด็กเก็บตัวคืออะไร? นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวกันหรอกหรือ?
คำตอบ: ความขี้อายและการเก็บตัวไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
ถึงแม้ว่ามันอาจจะดูเหมือนกันก็ตาม คนที่มีลักษณะเก็บตัวจะชอบอยู่คนเดียวและจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อต้องใช้เวลาอยู่กับคนอื่นนานๆ แต่คนที่ขี้อายไม่ได้ต้องการจะอยู่คนเดียว แต่กลัวที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ลองพิจารณาเด็กสองคนในห้องเรียนดู คนหนึ่งเป็นเด็กเก็บตัวและอีกคนหนึ่งเป็นเด็กขี้อาย คุณครูกำลังจัดกิจกรรมสำหรับเด็กทุกคนในห้องอยู่ เด็กที่มีลักษณะเก็บตัวจะต้องการอยู่ที่โต๊ะของตัวเองและนั่งอ่านหนังสือเพราะเธอคิดว่าการอยู่กับเด็กคนอื่นๆ ทำให้เครียด เด็กขี้อายจะอยากเข้าไปร่วมกับเด็กคนอื่นๆ แต่จะยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะของเธอเองเพราะเธอกลัวที่จะไปเข้าร่วมกับพวกเขา
เด็กอาจได้รับความช่วยเหลือให้เอาชนะความอายได้ แต่ความเก็บตัวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของบุคคล เช่นเดียวกับสีผมหรือสีตา ในอีกความหมายหนึ่ง คือ ความขี้อายอาจรักษาได้แต่ลักษณะเก็บตัวนั้นไม่ คนที่มีลักษณะเก็บตัวทุกคนไม่ได้เป็นคนขี้อาย ในความเป็นจริงแล้ว บางคนมีทักษะทางสังคมดีเลิศด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมแล้ว คนเหล่านี้จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและต้องการเวลาเพื่อจะฟื้นฟูพลังงานอีกครั้ง
ในขณะที่การรักษาจะช่วยคนขี้อายได้ การพยายามเปลี่ยนคนที่มีลักษณะเก็บตัวให้กลายเป็นคนชอบเข้าสังคมจะทำให้เกิดความเครียดและทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการยอมรับตัวเองได้ คนที่มีลักษณะเก็บตัวจะเรียนรู้กลวิธีการรับมือที่จะช่วยให้พวกเข้าจัดการสถานการณ์ทางสังคมต่างๆ แต่พวกเขาก็จะยังคงมีลักษณะเก็บตัวอยู่เช่นเดิม หากคุณคิดว่าลูกของคุณอาจเป็นพวกเก็บตัว คุณอาจต้องการจะค้นหาเกี่ยวกับคุณลักษณะต่างๆ ของผู้ที่มีลักษณะเก็บตัว เพื่อดูว่าลูกของคุณมีคุณลักษณะต่างๆ มากแค่ไหน
คุณจะช่วยลูกของคุณที่เป็นเด็กเก็บตัวได้อย่างไร?
สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ตระหนักว่าลักษณะเก็บตัวไม่ใช่โรคที่ต้องการรักษา ดังนั้นลูกของคุณก็ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถทำบางสิ่งได้เพื่อให้แน่ใจว่าลูกของคุณมีความสุขดี สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณทำได้สำหรับลูกของคุณ คือ เข้าใจลักษณะเก็บตัวและยอมรับว่าสิ่งนี้เป็นลักษณะทางบุคลิกภาพที่เป็นปกติ ยอมรับว่าลูกของคุณอาจไม่ได้เป็นสาวสังคมอย่างเช่นที่คุณคาดหวังไว้และบ้านของคุณอาจไม่ได้เต็มไปด้วยเพื่อนๆ ของลูกอยู่บ่อยๆ ยอมรับว่าลูกของคุณสนุกสนานกับการใช้เวลาอยู่คนเดียวและอาจจะมีเพื่อนสนิทเพียงแค่ไม่กี่คน
หากคุณยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้ คุณก็จะกดดันให้ลูกของคุณเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมจนเกิดความเครียดน้อยลงด้วย คุณควรแน่ใจว่ามีเวลาเหลือสำหรับลูกของคุณเพื่อพักผ่อนหลังจากการเข้ากิจกรรมทางสังคม ตัวอย่างเช่น หากลูกของคุณเพิ่งไปงานสังสรรค์มา อย่าแปลกใจหากเธอต้องการเวลาอยู่คนเดียวซักพัก
การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นแค่การรับประทานอาหารกับครอบครัว อาจทำให้เกิดความเครียดต่อเด็กและทำให้เธออารมณ์ไม่ดี การเลี้ยงลูกที่เก็บตัวอาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะสำหรับพ่อแม่ที่มีลักษณะชอบเข้าสังคม แต่ก็เช่นเดียวกับเด็กอื่นๆ คือ สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือความรักและความเข้าใจนั่นเอง