ทุกคนล้วนแต่ต้องเคยมีความเครียดด้วยกันทั้งนั้น แม้กระทั่งในหญิงตั้งครรภ์ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าความเครียดส่งผลเสียอย่างไรต่อการตั้งครรภ์ สูติแพทย์ได้พยายามศึกษาเกี่ยวกับผลของความเครียดที่เพิ่มขึ้นต่ออัตราการแท้ง การคลอดก่อนกำหนด หรือทำให้ทารกได้รับอันตรายมาหลายปี ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า ถึงแม้ว่าการทำงานของร่างกายที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดหรือเพิ่มความเครียดทางอารมณ์ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลเสียต่อผลของการตั้งครรภ์โดยรวม อย่างไรก็ตามข้อสรุปนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างต่อเนื่อง
ในปัจจุบัน มีข้อมูลที่แสดงว่าความเครียดสามารถทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนบางชนิดที่อาจส่งผลให้เกิดการแท้งหรือคลอดก่อนกำหนดได้ ยิ่งไปกว่านั้นผลกระทบทางอารมณ์ที่เกิดตามหลังความเครียดยังอาจทำให้เกิดโรคซึมเศร้าตั้งแต่ระดับน้อยจนถึงรุนแรงได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
วิธีต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีที่ผู้หญิงและแพทย์ที่ดูแลพบว่าสามารถช่วยลดความเครียดได้ดี
การควบคุมชีวิตของตนเอง
-
สังเกตการใช้ชีวิตของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นงานหรือกิจกรรมที่ทำ หน้าที่ความรับผิดชอบที่บ้าน หรือแม้กระทั่งหน้าที่อื่นๆ ที่คุณมีข้อผูกมัด รวมถึงเวลาที่คุณให้สำหรับตัวเอง เช่น การออกกำลังกาย การพักผ่อน หรือการเข้าสังคม ตารางปัจจุบันของคุณเป็นตารางที่สามารถทำได้จริง ใช้ได้จริง หรือเป็นที่น่าพอใจหรือไม่? หากไม่ คุณควรยอมรับความจริงว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตารางชีวิตนี้
-
ยอมรับความจริงว่า ถึงแม้คุณจะสามารถจัดการกับชีวิตที่วุ่นวายและมีความต้องการสูงได้ แต่คุณก็มักไม่สามารถทำได้เมื่อเริ่มตั้งครรภ์และต้องการพลังกายมากขึ้น ควรเตรียมพร้อมที่จะลดสิ่งที่ทำอยู่ เพื่อให้ตนเองได้มีเวลาผ่อนคลายและพักผ่อนมากขึ้น นอนมากขึ้น รับประทานอาหารที่เหมาะสม เข้าร่วมในการออกกำลังกายที่เหมาะสม ให้เวลากับตัวเองในการอ่านหนังสือ คิด และวางแผนหน้าที่และบทบาทของการเป็นแม่ในอนาคต
-
เตรียมตัวที่จะไม่สามารถควบคุมวิถีชีวิตแบบที่เคยทำได้ การตั้งครรภ์จะทำให้คุณไม่สามารถควบคุมอะไรได้หลายๆ อย่าง คุณอาจมีอาการแพ้ท้องในตอนเช้า รู้สึกอ่อนเพลีย หรืออาจมีภาวะแทรกซ้อนที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือนอนพัก สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้และคุณควรเตรียมตัวให้พร้อมที่จะยอมรับมัน
-
ทำใจให้พร้อมเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการจัดการกับการตั้งครรภ์ คุณเป็นคนที่ดีที่สุดในการกำหนดว่าต้องการอะไร สามารถทำงานหนักได้แค่ไหน ต้องรับประทานอะไร พักผ่อนอย่างไร อย่าถูกชักจูงจากข้อมูลหรือคำแนะนำที่มาจากคนรอบข้างที่มักจะตั้งใจดีแต่ไม่ถูกต้อง
-
ควรมีการติดต่อสื่อสารกับคนที่คุณรักได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะสามีของคุณ พวกเขาอาจไม่ได้รู้ทุกความต้องการของคุณ แต่คุณควรบอกสิ่งที่คุณรู้สึกและพวกเขาจะสามารถช่วยคุณได้อย่างไรบ้าง
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
กด -
ไม่ต้องทำตัวเป็นยอดมนุษย์ โดยเฉพาะเมื่อสภาพแวดล้อมในที่ทำงานคุณเป็นพวกชอบทำงานหนักๆ ควรปรึกษากับสามีและเจ้านายเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสามารถทำได้หรือไม่ทำ และปรับให้เหมาะสมกับความต้องการ
-
ทำการบ้าน เรียนรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งจากการอ่านหนังสือ พูดคุยกับเพื่อน เข้าชั้นเรียน หรือปรึกษาแพทย์หรือผดุงครรภ์ เพื่อเข้าใจทั้งชีววิทยาของการตั้งครรภ์และอารมณ์ที่ซ่อนอยู่
-
อนุญาตให้ตัวเองได้พักผ่อน ควรให้เวลาตัวเองได้ทำในสิ่งที่ทำแล้วรู้สึกดีและไม่ต้องรู้สึกผิดเกี่ยวกับมัน
-
เรียนรู้วิธีการผ่อนคลาย มีงานวิจัยที่พบว่าวิธีนี้สามารถช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ความเครียด ระดับฮอร์โมน และความเกร็งกล้ามเนื้อได้
-
พูดกับตัวเองและเขียนลงสมุด กระบวนการนี้จะช่วยจัดระเบียบความคิดและความรู้สึก และการเขียนลงสมุดจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ได้
-
ทดสอบว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาจากอะไร กระบวนการนี้เรียกว่าการจัดโครงสร้างความคิด คนเรามักชอบที่จะมีสมมติฐานที่แย่เกี่ยวกับตัวเองจากคำติชมของคนอื่น แต่หากคุณสามารถระบุความคิดซ้ำเหล่านี้ และเขียนลงสมุด คุณจะเริ่มมองเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่
-
ควรมองหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นการบำบัดโดยการพูด คุย การนั่งสมาธิ หรือหลายสิ่งรวมกัน ชีวิตเป็นสิ่งที่ซับซ้อนและยากต่อความเข้าใจ อย่างไรก็ตามมีวิธีที่สามารถประเมินความเครียดที่คุณกำลังใช้ชีวิตอยู่และปรับเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นเท่าที่จำเป็นเพื่อจัดการมัน การทำสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีการตั้งครรถ์ที่มีสุขภาพดีและเป็นคนที่มีความสุขมากขึ้น