June 27, 2019 10:51
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ปกติจะมีประจำเดือนออกกระปริบกระปรอย มาติดๆกันหลายๆวัน เป็นผลข้างเคียงจากยาฝังคุมกำเนิดได้ครับ
อาจจะรำคาญเนื่องจากต้องใส่ผ้าอนามัย
เเต่ไม่ได้อันตราย ถ้าฝังไปนานๆหลายเดือน จะค่อยๆลดลงจนเลือดหายไปครับ
..........
ยกเว้น ถ้าเลือดออกมากชุ่มผ้าอนามัยหลายเเผ่น ปวดท้องน้อย มีหน้ามืดใจสั่น เเบบนี้ผิดปกติควรไปพบเเพทย์ครับ
............
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยในการฝังยา เช่น
............
- ประจำเดือนผิดปกติ ในช่วง 3 เดือนแรกประจำเดือนอาจมาไม่สม่ำเสมอ ส่วนใหญ่จะมาน้อยลงและห่างออกจนถึงอาจไม่มีรอบเดือนเลย บางคนรอบเดือนมามากขึ้น มาทุกวันหรือมีเลือดออกกะปริดกะปรอย ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง เเละไม่ได้อันตรายครับ แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นสามารถพิจารณารักษาโดยการให้เอสโตรเจนเสริมในช่วงสั้นๆ เช่น Diane35 กิน 7-10 วัน
............
- อารมณ์แปรปรวน อาจมีภาวะซึมเศร้าเกิดขึ้นได้ เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ค่อนข้างบ่อยกว่าเมื่อเทียบกับการคุมกำเนิดวิธีอื่น
- ภาวะแทรกซ้อนในตำแหน่งที่ฝังยา เช่น ติดเชื้อ, ระคายเคืองตรงตำแหน่งที่ฝังยา, หลอดยาหลุด หรือเคลื่อนออกจากตำแหน่งที่ฝัง, เกิดพังพืดยึดติด, หลอดยาขาดออกทำให้เอาออกยาก เป็นต้น
อาการอื่นๆ ที่พบได้น้อย เช่น ปวดศีรษะ, ปวดท้องน้อยและปวดประจำเดือน, เป็นสิว เป็นต้น
กรณีอยากเปลี่ยนเป็นกินยาคุม
เเนะนำเบื้องต้นดังนี้ครับ
ยาคุมกำเนิดรายเดือน รุ่นใหม่ๆ เช่น Yaz Yasmin Oilezz Govana meliane พวกนี้มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ สิวลดลงได้ครับ (อาการบวมก็ไม่มากเนื่องจาก เอสโตรเจนไม่ได้สูงงมาก)
ทั้งหมดเป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมครับ
แนะนำเริ่มกินในวันที่1-5นับจากประจำเดือนมาวันเเรก(เพราะชัวร์ว่าไม่ได้ท้องเเละยาออกฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ คุมกำเนิดได้เลย)
หรือกินช่วงไหนของเดือนก็ได้เเต่ต้องชัวร์ว่าไม่ท้อง เเละต้องกินไปอย่างน้อย7วันจึงจะมีฤทธิ์คุมกำเนิดครับ
.........
ถ้าเป็นแผง21เม็ดหลังกินหมดเเผง ให้เว้น 7 วัน เเล้วเริ่มเเผงใหม่ครับ เเต่ถ้าเป็น28เม็ดเมื่อหมดเเผงให้กินเเผงต่อไป ต่อไปเลยครับ
.........
ถ้ากรณี21เม็ด ช่วงที่เว้น7วันก่อนเริ่มยาแผงใหม่จะมีประจำเดือนมา
.........
ส่วนกรณี28เม็ด ช่วงที่กิน7เม็ดสุดท้าย(เม็ดเเป้ง) จะมีประจำเดือนมา ครับ
.........
ผลข้างเคียงคือ คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม บวม
ใช้นานๆระยะยาวอาจมีฝ้าได้
(เเนะนำให้กินก่อนนอน จะได้ไม่ลืมเเละลดผลข้างเคียงเรื่องคลื่นไส้อาเจียน)
.........
ควรหลีกเลี่ยงการกินยากรณีที่
- ให้นมลูกอยู่ เพราะยาทำให้น้ำนมไหลน้อยได้
- มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ เคยเป็นโรคหัวใจ โรคสมองขาดเลือด ลิ่มเลือดอุดตันที่ขา เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าผู้ถามมีเลือดออกมาทุกวันตลอด 4 ปี น่าจะเกิดปัญหาต่อสุขภาพจากการเสียเลือดมากแล้วนะคะ จึงเป็นไปได้ยากที่ผู้ถามจะยังไม่ได้พบแพทย์/สูตินรีแพทย์เพื่อรักษาความผิดปกติที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ถามมีเลือดออกมามากหรือนานผิดปกติ แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมก่อนว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาฝังคุมกำเนิดหรือไม่ เพื่อจะพิจารณาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมค่ะ
ในตอนนี้จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าควรจะถอดยาฝังคุมกำเนิดออกหรือไม่นะคะ
แต่ในกรณีที่จำเป็นและต้องเปลี่ยนเป็นยาคุมชนิดรับประทาน แม้ว่าการใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมจะไม่ทำให้เกิดปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน อย่างที่อาจพบในการใช้ยาฝังคุมกำเนิดซึ่งเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว (ก็คือไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนผสมอยู่)
แต่การใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมก็อาจจะทำให้ผู้ถามได้รับผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ค่ะ เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, บวมน้ำ หรือเป็นฝ้า และอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ จึงต้องให้คุณหมอประเมินก่อนว่าควรเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดหรือไม่ หรือควรเปลี่ยนไปใช้วิธีใดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
ผลข้างเคียงของยาใังคุมกำเนิดทำให้ประจำเดือนมากระปริบกระปรอยได้ครับ หากคนไข้ ต้องการเปลี่ยนเป็นยากินสามารถทำได้ครับ สามารถแจ้งที่ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน เพื่อขอทำการถอนเอายาฝังออก แล้วเปลี่ยนเป็นการคุมกำเนิดชนิดอื่น เช่น ยากินคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด เป็นต้น
ยาฝังคุมกำเนิดมีข้อดีตรงที่สามารถคุมกำเนิดได้ระยะเวลายาว และประสิทธิภาพถือว่าดีมาก ไม่ต้องคอยกินทุกวันเหมือนยากินคุมกำเนิด
ยากินคุมกำเนิด ส่วนใหญ่มักเป็นฮอร์โมนรวม ซึ่งต่างจากยาฝังที่เป็นฮอร์โมนเดี่ยว ฉะนั้นในบางยี่ห้อ ที่มีระดับฮอร์โมนต่างกัน อาจทำให้มีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบือดออกทางช่องคลอดได้เช่นกัน และต้องรับประทานเป็นเวลาทุกวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยลืมทานยา หากพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียดีแล้ว สามารถเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ถาเราฝังเข็มยาคุมกำเนิดแล้วประจำเดือนมาทุกวันประมาณ4ปีแล้วถือว่าผิดปกติไมค่ะ แล้วควรเอาออกไมค่ะ แล้วถ้าเปลื่ยนเป็นกินเเทนมันจะผลกระทบต่อร่างกายไมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)