September 14, 2019 13:57
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันไปก่อนที่จะเริ่มรับประทานยาคุมแบบรายเดือนนั้นจะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้สูงครับ เนื่องจากการรับประทานยาคุมแบบรายเดือนชนิดให้นมบุตรนั้นจะต้องเริ่มรับประทานยาติดต่อกันให้ได้อย่างน้อย 2 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ส่วนยาคุมรายเดือนสูตรให้นมบุตรนั้นถ้าหากจะเริ่มรับประทานยาเลยในตอนนี้ก็ควรรับประทานยาติดต่อกันให้ได้ 2 วันก่อนที่จะเริ่มมีเพศสัมพันธ์ในครั้งต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากมีประจำเดือนมาแล้วก็หมายถึงมีไข่ตกและพร้อมตั้งครรภ์ได้แล้วนะคะ การป้องกันด้วยวิธีหลั่งนอกไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ เพราะโดยทั่วไปถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% ซึ่งสูงกว่าการป้องกันด้วยวิธีมาตรฐานหลายเท่า
ดังนั้น แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้เพื่อลดความเสี่ยงนั้นให้น้อยลงนะคะ โดยรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียว (ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ดก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ดก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียว) ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลกระทบกับการให้นมบุตรค่ะ จึงไม่ต้องกังวล
จากนั้น ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ให้ใช้ถุงยางป้องกันทุกครั้ง ส่วนยาคุมรายเดือน แนะนำให้รอไปก่อนค่ะ ยังไม่ต้องใช้ จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน
ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนควรจะมาตามรอบปกติ โดยอาจมาห่างจากวันแรกที่มีประจำเดือนรอบก่อนประมาณ 24 - 35 วัน
ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินหรือไม่นะคะ รวมถึงผลข้างเคียงอื่น ๆ ของยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม ไม่สบายท้อง เพราะไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ พบหรือไม่พบก็ไม่สำคัญอะไรค่ะ
ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
แต่ถ้าประจำเดือนมาแล้ว (ต้องเป็นประจำเดือนจริง ๆ ไม่ใช่เลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยา) ก็ให้เริ่มรับประทานยาคุมรายเดือนได้เลย ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน และจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ
ยาคุมสูตรหญิงให้นมบุตรจะเป็นตัวยาฮอร์โมนเหมือนกันทั้ง 28 เม็ด จะรับประทานเม็ดใดก็มีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงไม่แตกต่างกันค่ะ แต่เพื่อให้ง่ายต่อการใช้และตรวจสอบ แนะนำให้แกะเม็ดยาให้ตรงกับวันที่ใช้จริงนะคะ เช่น ถ้าเริ่มรับประทานวันเสาร์ ก็แกะเม็ดยาวันเสาร์มาใช้ จากนั้นก็ใช้ต่อตามลำดับไปเรื่อย ๆ จนครบทั้ง 28 เม็ด แล้วต่อแผงใหม่ในวันถัดมาโดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาหรือหมดก่อนค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยาคุมสูตรหญิงให้นมบุตรมีระยะเวลาออกฤทธิ์สั้น จึงต้องรับประทานให้ตรงเวลาสม่ำเสมอนะคะ เพราะถ้าใช้ "เอ็กซ์ลูตอน" หรือ "เดลิต้อน" ช้ากว่าเวลาปกติเกิน 3 ชั่วโมง หรือถ้าใช้ "ซีราเซท" ช้ากว่าเวลาปกติเกิน 12 ชั่วโมง ก็จะไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอนนี้คลอดลูกได้1เดือน16วันไปตรวจหลังคลอดมาวันที่11กันยา หมอจัดยาคุมชนิดให้นมบุตรหมอบอกเริ่มทานได้เลยเพราะประจำเดือนมาแล้วมาวันที่1หมดวันที่7แต่ตอนนี้ยังไม่กินเลยและตอนเช้ามีอะไรกับแฟน หลั่งนอกนะคะ มีโอกาสจะท้องอีกไหม และถ้าเริ่มกินวันนี้กินเม็ดวันไหนคะเม็ดวันเสาร์หรือวันจันทร์เม็ดแรก
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)