June 18, 2019 10:06
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้าสงสัยว่ามีภาวะนี้ ควรหาเวลาปรึกษาจิตเเพทย์ครับ หรือ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ครับ
กลุ่มโรคซึมเศร้า คือ มีอาการนอนไม่หลับ หมดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบหรือกิจกรรมที่เคยชอบ ไม่มีสมาธิ ไม่ค่อยมีเเรง เบื่ออาหาร มีความคิดที่จะทำร้ายตัวเอง
..............
หมอเเนะนำให้ไปพบจิตเเพทย์ครับ คนไข้บางกลุ่มจะอายที่ต้องไปพบจิตเเพทย์ เเต่จริงๆไม่ใช่เรื่องที่น่าอายเเต่อย่างใด (และ กรณีถ้าเป็นเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ อยากไปตรวจโดยไม่มีผู้ปกครองก็สามารถทำได้ครับ ถ้ามีอันตราย หรือจำเป็นต้องเเจ้งผู้ปกครอง คุณหมอจะเเจ้งคนไข้ก่อนครับ)
นอกจากคุณจะได้รับคำเเนะนำที่ดี คุณหมอจะประเมินว่าจำเป็นต้องได้รับการรักษา คือ ยาต้านซึมเศร้า ซึ่งเป็นยาปรับระดับสารสื่อประสาทในสมองครับ
ถ้าไปโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษา สามสิบบาท ประกันสังคม ก็เบิกได้ครับ ( เช็คสิทธิที่สายด่วน สปสช.1330 )
หรือ
http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
ถ้าเป็นข้าราชการก็เบิกได้ทุก โรงพยาบาลรัฐครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
จากอาการอาจบ่งถึงภาวะเครียด และหากเครียดสะสมนานๆก็จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า ได้ง่ายค่ะ
ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การรับรู้ ความคิด การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม หากเจอปัญหาหรือมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
อาการของโรคซึมเศร้า จะมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 7 ข้อ ต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะกว่าปกติ
6.ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิดง่าย
8.ขี้น้อยใจ รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง
หากมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้าควรพบจิตแพทย์ทันที ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมความคิดอารมณืและพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจทำให้ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ
ในระหว่างทำการรักษา ควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ตรงนี้ก็อยากจะเป็นกำลังใจให้คุณได้ผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปให้ได้นะครับ ผมคิดว่าในเรื่องที่เล่ามาจะมีรูปแบบความคิดที่ยังคงยึดติดอยู่กับเรื่องในอดีต และความเครียด ไม่อยากออกไปเจอผู้คนประมาณนี้นะครับ ซึ่งผมคิดว่าหากตอนนี้เริ่มสูญเสียการควบคุมในชีวิตไป ก็อยากให้ลองเข้าพบจิตแพทย์ดูเพื่อรับการประเมินและรับยามาทานต่อเนื่องที่อาจจะช่วยในการปรับความคิดและอารมณ์บางอย่างครับ นอกจากนั้นแล้วคุณอาจจะลองเข้าพบนักจิตวิทยาเพื่อช่วยในเรื่องการปรับพฤติกรรมและปรับความคิดบางอย่างได้นะครับ
ในช่วงที่ยังไม่ได้เข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ก็อยากให้คุณหันกลับมาดูแลสภาพจิตใจของตนเองนะครับ โดยคุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความรู้สึกด้านลบในตัวคุณลดน้อยลงได้บ้าง คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการฝึกเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ ในเรื่องของการทำร้ายตนเอง หากมีความคิดเหล่านี้เข้ามาเยอะๆ หรือคิดว่าตนเองจะทำร้ายผู้อื่น หรือฆ่าตัวตาย และคุณไม่สามารถที่จะพาตนเองไปยังโรงพยาบาลได้ สิ่งแรกที่คุณควรจะต้องทำก็คือโทรติดต่อหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยเหลือเนื่องจากคุณมีความคิดแบบนี้ หรือสามารถติดต่อไปที่สมาคมสะมาริตันส์ได้ที่เบอร์ 02-713-6793 เวลาทำการ 12:00-22:00 ซึ่งการบริการจะเป็นการให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ หรือสุดท้ายแล้วหากไม่สามารถติดต่อไปที่ทั้งสอง คุณสามารถติดต่อกู้ภัยฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้นำตัวเราไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ครับ หากมีคำถามอื่นๆ ก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะหมอ หนูอายุ 25 อยากปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากคุณหมอในอาการที่หนูเป็นตอนนี้หน่อยค่ะ เมื่อก่อนหนูเป็นคนที่สดใส ร่าเริง ตลก เฮฮามาก แต่ตอนนี้ หนูเป็นคนชอบเก็บตัว ไม่ชอบการออกไปไหนหรืออยู่ในที่ที่มีคนเยอะๆ ไม่ค่อยเข้าสังคม ชอบจมปลักอยู่กับเรื่องเก่าๆที่หนูเคยพบเจอมา บางครั้งก็เก็บมาคิดมากจนร้องไห้ แล้วทำร้ายตัวเองบ่อยครั้ง หนักสุดก็คิดฆ่าตัวตาย หนูไม่กล้าไว้ใจใคร ไม่กล้าที่จะเริ่มอะไรใหม่ๆ รู้สึกว่าทั้งโลกคือมีแค่หนูคนเดียว เวลาที่เจออะไรแย่ๆ ก็จะเก็บเอามาคิดซ้ำแล้วซ้ำอีก จนหนูเครียดแล้วปวดหัวหนัก ต้องไปฉีดยาที่โรงพยาบาลบ่อยๆ หนูควรทำยังไงค่ะหมอ เพื่อให้หายจากอาการแบบนี้สักที
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)