โดนแฟนทำร้ายร่างกายมาค่ะ ครั้งแรกตบหน้า4-5 ที ไม่หนักมาก ครั้งที่2 หนักมากค่ะ ร้องขอความช่วยเหลือคนในคอนโดแล้ว แต่ไม่มีใครมาช่วยเลยค่ะ หลังจากนั้นแฟนทาง้อสารพัด ก็ดีกับแฟน แต่รู้สึกว่าจิตใจไม่ปกติค่ะ นึกถึงเรื่องนั้นทีไรจะร้องไห้ตลอด อยากออกไปจากที่นี่ กลัว หวาดระแวง ควรพบจิตแพทย์มั้ยคะ

การถูกทำร้ายร่างกาย อาจทำให้เป็นบาดแผลทางจิตใจได้ค่ะ ในช่วงแรกอาจทำให้รู้สึกโกรธ หวาดระแวง รู้สึกน้อยใจ ไม่มีความสุขได้ แต่ปกติคนเราจะปรับตัวกับปัยหาต่างๆได้ภายใน 2 สัปดาห์-1 เดือน หากนานเกิน 1 เดือนแล้วยังคงมีอาการหวาดระแวงกลัว เศร้า ไม่มีความสุข แบบนี้อาจบ่งถึงการมีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งสิ่งที่ควรระวังคือภาวะซึมเศร้าค่ะ

ในกรณีที่อยู่กับเขาแล้วรู้สึกเศร้า ไม่มีความสุข รู้สึกหวาดระแวงกลัว เบื้องต้นให้คิดไตร่ตรองให้ดี ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดเพราะอะไร แฟนเราเป็นคนอารมณ์ร้อนหรือไม่ เขาใช้สารเสพติดมั้ย เขาสามารถปรับปรุงตัวได้มั้ย ตัวเราบกพร่องตรงไหน
หาเวลาพูดคุยปรึกษากับแฟน บอกอาการที่เราเป็นอยู่ ช่วยกันหาทางแก้ไข ปรับตัวเข้าหากันใหม่

แต่หากนานเกิน 1 เดือน ยังคงรู้สึกไม่ดี เศร้า ร้องไห้บ่อยๆ อยากให้ลองสำรวจอาการซึมเศร้าเพิ่มเติม ดังนี้นะคะ

อาการของโรคซึมเศร้า จะมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 7 ข้อ ต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะกว่าปกติ
6.ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิดง่าย
8.ขี้น้อยใจ รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง

หากมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้าควรพบจิตแพทย์ทันที ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม

ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การรับรู้ ความคิด การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม หากเจอปัญหาหรือมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น

การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมความคิดอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจทำให้ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ

ในระหว่างทำการรักษา ควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นนะคะ

สวัสดีครับ

ความรู้สึกระแวงและกลัวตรงนี้เกิดขึ้นได้นะครับ เพราะจริงๆแล้วการทำร้ายร่างกายกันในบ้านเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้นไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนหรือเป็นคนที่ไม่รู้จักกันก็ตาม ซึ่งเรื่องตรงนี้ไม่แปลกครับที่จะรู้สึกว่าไม่ไว้ใจ และเมื่อนึกถึงเรื่องนั่นก็จะเกิดการร้องไห้ตลอด เพราะเราเกิดบาดแผลในจิตใจซึ่งเมื่อนึกถึงมันแล้วความรู้สึกในวันนั้นมันจะยังกลับมาอยู่

การที่คุณรู้สึกว่าอยากออกไปจากตรงนี้อาจจะเป็นเพราะว่าคุณไม่รู้สึกปลอดภัยที่จะอยู่กับผู้ชายอีก ซึ่งหากคุณต้องการที่จะยังคงความสัมพันธ์ไว้ ผมคิดว่าการแก้ปมจิตใจตรงนี้เป็นสิ่งที่จะต้องแก้ไขนะครับ มิฉะนั้นแล้วคุณจะยังมีความรู้สึกตรงนี้ติดตัวไปและมันจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ในอนาคตอย่างแน่นอน โดยปกติแล้ว อาการที่ว่ามามักจะหายไปเองตามระยะเวลา เมื่อระยะเวลาผ่านไปความรู้สึกที่มากับความทรงจำก็มักจะลดลง แต่ในกรณีของคุณนี้ความรู้สึกที่มากับความทรงจำนั่น เข้มข้น และรุนแรงจนทำให้เข้ามาขัดขวางการคิด การตัดสินใจ และการกระทำของเราในปัจจุบัน ดังนั้นนี้ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งนะครับที่ผมอยากจะสนับสนุนให้คุณได้เข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญอย่างจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อทำการพูดคุยในเรื่องนี้และให้คุณได้มีการดูแลทางด้านจิตใจด้วย

อย่างที่ผมบอกไปนะครับว่าการทำร้ายร่างกายภายในบ้านเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนสมควรได้รับ การลองหามาตรการบางอย่างเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น และเพื่อทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยเป็นสิ่งที่จำเป็นก่อนที่จะพูดคุยในเรื่องอื่นๆ หากแฟนต้องการที่จะช่วยเหลือเยียวยาจิตใจของคุณตรงนี้ เขาเองก็ควรที่จะมีส่วนรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น และร่วมกันหาทางออกให้กับคุณด้วยนะครับ หากไม่ผ่านเรื่องนี้กันไปด้วยกันสองคนแล้ว ความผูกพันธ์และความเชื่อใจอาจจะอาศัยเวลามากขึ้นในการกลับมาครับ

ยังไงตรงนี้ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ และหากมีคำถามอื่นๆก็สามารถสอบถามเข้ามาได้ครับ

สวัสดีครับ

ความรู้สึกระแวงและกลัวตรงนี้เกิดขึ้นได้นะครับ เพราะจริงๆแล้วการทำร้ายร่างกายกันในบ้านเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้นไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนหรือเป็นคนที่ไม่รู้จักกันก็ตาม ซึ่งเรื่องตรงนี้ไม่แปลกครับที่จะรู้สึกว่าไม่ไว้ใจ และเมื่อนึกถึงเรื่องนั่นก็จะเกิดการร้องไห้ตลอด เพราะเราเกิดบาดแผลในจิตใจซึ่งเมื่อนึกถึงมันแล้วความรู้สึกในวันนั้นมันจะยังกลับมาอยู่

การที่คุณรู้สึกว่าอยากออกไปจากตรงนี้อาจจะเป็นเพราะว่าคุณไม่รู้สึกปลอดภัยที่จะอยู่กับผู้ชายอีก ซึ่งหากคุณต้องการที่จะยังคงความสัมพันธ์ไว้ ผมคิดว่าการแก้ปมจิตใจตรงนี้เป็นสิ่งที่จะต้องแก้ไขนะครับ มิฉะนั้นแล้วคุณจะยังมีความรู้สึกตรงนี้ติดตัวไปและมันจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ในอนาคตอย่างแน่นอน โดยปกติแล้ว อาการที่ว่ามามักจะหายไปเองตามระยะเวลา เมื่อระยะเวลาผ่านไปความรู้สึกที่มากับความทรงจำก็มักจะลดลง แต่ในกรณีของคุณนี้ความรู้สึกที่มากับความทรงจำนั่น เข้มข้น และรุนแรงจนทำให้เข้ามาขัดขวางการคิด การตัดสินใจ และการกระทำของเราในปัจจุบัน ดังนั้นนี้ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งนะครับที่ผมอยากจะสนับสนุนให้คุณได้เข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญอย่างจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อทำการพูดคุยในเรื่องนี้และให้คุณได้มีการดูแลทางด้านจิตใจด้วย

อย่างที่ผมบอกไปนะครับว่าการทำร้ายร่างกายภายในบ้านเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนสมควรได้รับ การลองหามาตรการบางอย่างเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น และเพื่อทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยเป็นสิ่งที่จำเป็นก่อนที่จะพูดคุยในเรื่องอื่นๆ หากแฟนต้องการที่จะช่วยเหลือเยียวยาจิตใจของคุณตรงนี้ เขาเองก็ควรที่จะมีส่วนรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น และร่วมกันหาทางออกให้กับคุณด้วยนะครับ หากไม่ผ่านเรื่องนี้กันไปด้วยกันสองคนแล้ว ความผูกพันธ์และความเชื่อใจอาจจะอาศัยเวลามากขึ้นในการกลับมาครับ

ยังไงตรงนี้ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ และหากมีคำถามอื่นๆก็สามารถสอบถามเข้ามาได้ครับ

สวัสดีครับ
การถูกทำร้ายร่างกายนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นครับ และเมื่อมีการถูกทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นก็ย่อมเป็นธรรมดาที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพจิตใจตามมาครับ โดยเฉพาะในกรณีของคุณนั้นที่ยังต้องอยู่อาศัยกับคนที่ทำร้ายร่างกายอยู่ก็ย่อมทำให้เกิดความกังวลหรือความกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดิมซ้ำได้

จากอาการที่คุณเล่ามานั้นหมอคิดว่ามีโอกาสที่จะมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจจนเกิดเป็นโรคบางอย่างได้แล้วครับ เช่น
- โรคซึมเศร้า
- สภาวะความเครียดหลังจากเผชิญเหตุการณ์ที่รันแรงต่อชีวิต (Post-traumatic stress disorder)
- โรควิตกกังวล

ดังนั้นในตอนนี้หมอแนะนำว่าควรลองไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะ ได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ