August 31, 2019 22:37
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ยานอนหลับนั้นเป็นยาที่แพทย์ต้องสั่งจ่ายครับ ซึ่งก็ควรไปพบแพทย์ที่คลินิกหรือที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจประเมินความเหมาะสมในการใช้ยานอนหลับก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานอนหลับครับ เนื่องจากมีผลข้างเคียงมาก และเป็นอันตรายหากใช้ผิดครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ผลข้างเคียงยังไงหรอครับ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ยานอนหลับ ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ครับ เพราะมีผลข้างเคียงได้มาก
นอกจากการใช้ยา สาเหตุของการนอนหลับเป็นได้จาก
- สิ่งแวดล้อม เช่น เปลี่ยนสถานที่พัก แสงสว่าง หรือเสียงดังเกินไป
- ทางด้านจิตใจ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า
- โรคทางกาย เช่น โรคหายใจอุดกั้น โรคน้ำท่วมปอด
- จากยา/สิ่งเสพติด ชา กาแฟ
เป็นต้นครับ
แนะนำให้ลองหลีกเลี่ยงชา/กาแฟ ถ้าอยากทาน ให้ทานมื้อเช้าหรือก่อนเที่ยงครับ ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมให้เหมาะกับการนอน และควรนอนให้เป็นเวลา ถ้านอนไม่หลับให้หากิจกรรมเบาๆ ผ่อนคลายทำครับ เช่น อ่านหนังสือ ฟังธรรมะ แล้วค่อยกลับไปนอนต่อ เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ผลข้างเคียงจากการใช้ยานอนหลับที่สำคัญคือถ้าหากใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้เกิดอาการง่วงซึมในระหว่างวันและมีปัญหาการติดยนอนหลับตามมาได้ครับ
การใช้ยานอนหลับจึงต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คือผมตอนนี้เหมือนมีอาการเเบบเหมือนบางทีต้องพยายามควบคุมอารมณ์ตนเองเป็นบางเวลาครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเเบบจู่ๆก็จะเริ่มเเบบอารมณ์เศร้าๆดาวน์ๆไปเเละอยากอยู่คนเดียวครับ
เริ่มเป็นอย่างนี้มาน่าจะเป็นปีนิดเเล้วครับ เเต่ตอนนี้ยังสามารถพยายามคุมอารมณ์ตัวเองได้เเต่บางทีก็จะเเบบต้องพยายามมากจนตอนนี้อยากใช้ยานอนหลับเวลาจะมีอาการเเบบนี้อ่ะครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากอาการมีลักษณะที่เป็นอารมณ์เศร้าดาวน์ลงไปมาเป็นปีแล้วก็อาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
ซึ่งถ้าหากสาเหตุเกิดจากการเป็นโรคซึมเศร้าจริงการรับประทานยานอนหลับเพียงอย่างเดียวก็จะไม่ได้ช่วยทำให้อาการดีขึ้นครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เเต่ตอนนี้ผมก็ยังคุมอาการได้อยู่น้ะครับ
ได้ 15 คะเเนนนี่ควรไปพบใช่มั้ยครับ
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
หากมีปัญหาที่กระทบต่อสุขภาพจิตต่างๆ คิดว่าไม่สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆเหล่านั้นได้ การพบจิตแพทย์เป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ตามสิทธิการรักษาครับ
สามารถเช็คสิทธิการรักษาได้จากเว็บไซต์ http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
________________________
อาการของโรคซึมเศร้า ได้แก่อาการต่างๆดังต่อไปนี้
1. มีการนอนหลับที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น นอนมากขึ้น หรือนอนไม่หลับ
2. ไม่สนใจในสิ่งที่เคยชอบหรือกิจกรรมที่เคยทำปกติ
3. รู้สึกว่าตนเองผิด ทำอะไรก็ผิดเสมอ
4. เคลื่อนไหวช้าลงหรือกระสับกระส่าย
5. ไม่มีสมาธิในการจดจ่อทำสิ่งต่างๆได้
6. มีความเจริญอาหารที่มากกว่าปกติ หรือเบื่ออาหารผิดปกติ
7. มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
8. อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ไม่มีเรี่ยวแรง
ถ้ามีอาการต่างๆดังต่อไปนี้หลายข้อต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่าสองสัปดาห์ควรไปพบจิตแพทย์ครับ หากสงสัยว่าตนเองเป็นโรคซึมเศร้าอาจหาแบบทดสอบคัดกรองโรคนี้ทำได้ทางอินเตอร์เน็ต หรืออาจโทรไปปรึกษาสายด่วนโรคซึมเศร้าได้ที่เบอร์ 1323 ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายครับ นอกจากนี้ยังสามารถไปพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาอาการต่างๆได้เสมอครับไม่จำเป็นต้องมีอาการหลายข้อหรือเป็นนานนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากทำแบบทดสอบแล้วได้ 15 คะแนนก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการก่อน เนื่องจากถ้าหากปล่อยไว้อาการก็มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นและรักษาได้ยากขึ้นได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
โอเคครับ ขอบคุณครับหมอ
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
แนะนำเพิ่มเติมเรื่องซึมเศร้าครับ
อยากให้หาเวลาออกกำลังกาย เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิค, ดูภาพยนตร์ตลกหรืออ่านหนังสือการ์ตูนตลก, ระบายผ่อนคลายความเครียดบ้าง เช่น ร้องไห้ ตะโกน เขียนระบายความรู้สึก, พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ จะทำให้ลดความเครียด ความกังวลได้ครับ และสุดท้ายคือ มองโลกในแง่ดี คิดว่าทุกปัญหามีทางแก้ครับ ส่วนโทรปรึกษาเบื้องต้นจะมีสายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 ได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ในกรณีที่มีอาการผิดปกติทางด้านอารมณ์ จิตใจ แนะนำพบแพทย์ ตรวจประเมินอาการก่อน แล้วรับการรักษาตามแนวทางที่เหมาะสมต่อไปนะคะ
ไม่แนะนำให้หาซื้อยามาทานเอง เพราะนอกจากจะได้รับผลข้างเคียงจากยาแล้ว อาจเป็นการรักษาที่ไม่ตรงจุด ทำให้อาการเรื้อรังรักษาได้ยากขึ้นค่ะ
การมีปัญหาการนอนหลับ อาจเกิดได้จากหลายปัจจัยนะคะ ได้แก่
1. จากสุขลักษณะการนอนที่ไม่เหมาะสม
2. ผลจากโรคทางกาย หรือจากการใช้ยาบางชนิด
3. จากความผิดปกติทางด้านจิตใจ ได้แก่ เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า โรคนอนไม่หลับ เป็นต้น
เบื้องต้น ลองปรับการนอนด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ
1. เข้านอน ตื่นนอนให้เป็นเวลา
2.ปรับบรรยากาศในห้องนอนให้เหมาะสม ปราศจากแสง เสียง รบกวน
3. งดสารกระตุ้น ชา กาแฟ บุหรี่ แอลกอฮอล์ หลังเที่ยงเป็นต้นไป
4. ก่อนนอนไม่ควรทำกิจกรรมที่กระตุ้นสมอง หรือ กระตุ้นอารมณ์ หรือ กิจกรรมที่ต้องใช้ความคิด เช่น เล่นเกม แชท ทำงาน เป็นต้น
5. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย หลับง่ายขึ้น
หากลองปรับแล้ว ยังคงมีปัญหาการนอน อย่างต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์ ควรพบแพทย์ตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด แล้วแก้ไขให้ตรงจุด
ซึ่งอาจพบจิตแพทย์ อาจต้องประเมินภาวะเครียด ซึมเศร้า เพิ่มเติม ด้วยนะคะ
หากพบว่าปัญหาการนอนไม่หลับ เกิดจากความผิดปกติทางด้านจิตใจ ก็ต้องักษาด้วยยา ควบคู่กับการปรับการนอนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ยานอนหลับสามารถซื้อได้ตามคลีนิคหรือต้องให้หมอจ่ายให้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)