ต้องการเลิกรับประทานยาคุมค่ะ ถ้าเลิกทานจะท้องไหมค่ะ ทานมาได้ 2ปีแล้วค่ะ ไม่อยากทานต่อกลัวจะเป็นอันตราย ใช้คุมอย่างอื่นแทนเช่น ถุงยางอนามัย ตอนนี้ไม่มีเพศสัมพันธ์มา 1 เดือนแล้วค่ะ ทานแบบ 28เม็ด เม็ดที่21แล้วก้จะเหลือเม็ดแป้ง รอเม็นมาสามารถเลิกทานได้เลยใช่ไหมค่ะ แล้วจะท้องไหม เม็นจะมาไหมถ้าเลิกทาน มีผลข้างเคี่ยงอะไรไหม

สวัสดีค่ะ
สามารถเลิกทานยาคุมได้เลยค่ะ
โดยปกติ ประจำเดือนจะมา ช่วง 7เม็ดสุดท้าย ของแผงยาคุมค่ะ

ซึ่งถ้าหนุดทานยาคุม และประจำเดือนมาปกติ ก็สามารถมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ

การคุมกำเริดโดยใช้ถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาน98%ค่ะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากต้องการหยุดรับประทานยาคุมเมื่อรับประทานยาคุมหมดแผงแล้วก็สามารถหยุดรับประทานได้เลยครับ และถ้าหากหลังจากหยุดรับประทานยาคุมไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกหรือมีการเปลี่ยนไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นก็จะไม่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากขึ้นคร้บ เพราะการมีเพศสัมพันธ์ก่อนที่จะหยุดรับประทานยาคุมจะได้รับการป้องกันจากยาคุมไปแล้วครับ

หลังทานครบ21เม็ด กรณีทานยาแบบ28เม็ดประจำเดือนจะมาในช่วง7วันที่ทานเม็ดแป้งครับ แต่หลังจากครบ7วัน ถ้าไม่เริ่มทานยาคุมแผงใหม่ก้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ ยาคุมกำเนิดสามารถทานต่อได้ครับ หากไม่ได้ทานนานเกิน5-10ปี หากต้องการเปลี่ยนการคุมกำเนิดที่ ได้ระยะเวลานานกว่าอาจเลือกยาฉีดหรือยาฝังคุมกำเนิดแทนได้ครับ

สวัสดีครับ
สามารถเลิกทานยาคุมกำเนิดได้เลยครับ โดยหากไม่มีเพศสัมพันธ์ต่จากรอบประจำเดือนที่กำลังจะมาก็ไม่สามารถเกิดการตั้งครรภ์ได้ครับ แต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์ก็สามารถเลือกใช้การคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยได้ครับ โดยการใช้นั้นหากใช้อย่างถูกวิธีมีประสิทธิภาพ 98% ครับ

ถ้าผู้ถามใช้ยาคุมแผงนี้ถูกต้องก็มีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 0.3 - 9% ตามผลป้องกันปกติของยาคุมรายเดือนค่ะ และถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ก็ควรจะมีประจำเดือนมาในช่วงที่รับประทานเม็ดแป้งเหมือนเดิมนะคะ

เมื่อประจำเดือนมาแล้วก็หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้ว และหากไม่ต้องการจะคุมกำเนิดด้วยวิธีเดิมต่อก็ไม่จำเป็นจะต้องรับประทานเม็ดแป้งที่เหลือ และไม่จำเป็นจะต้องต่อยาคุมแผงใหม่แล้วค่ะ

การใช้ยาคุมรายเดือน หากใช้ถูกต้องและเหมาะสม จะมีผลยับยั้งการตกของไข่ค่ะ เมื่อไม่มีไข่ตก ต่อให้มีเพศสัมพันธ์หลั่งในและมีอสุจิเข้าไปในช่องคลอด ก็ไม่สามารถผสมกับไข่ได้ จึงไม่มีการตั้งครรภ์นั่นเองนะคะ

แต่เมื่อไม่ได้ต่อยาคุมแผงใหม่ ก็จะไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมที่เคยใช้อีกแล้ว จึงอาจมีไข่ตกได้ตามปกติค่ะ แต่ถ้าแฟนของผู้ถามใช้ถุงยางอนามัย ก็จะช่วยป้องกันอสุจิที่จะเข้าไปในช่องคลอด ดังนั้น ต่อให้มีไข่ตก แต่ถ้าไม่มีอสุจิเข้าไปผสม ก็ไม่เกิดการตั้งครรภ์เช่นกันค่ะ

แม้ประสิทธิภาพในการป้องกันของถุงยางอนามัยจะต่ำกว่ายาคุมรายเดือน อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้ถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ

ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ถามก็ควรจะมีประจำเดือนมาค่ะ แต่จะมาตามรอบปกติเดิมหรือไม่ ก็ขึ้นกับฮอร์โมนตามธรรมชาติในร่างกายของผู้ถามเอง เนื่องจากไม่มีอิทธิพลของการใช้และหยุดใช้ฮอร์โมนจากยาคุมมาเป็นตัวกำหนดช่วงเวลาที่จะมีประจำเดือนอีกแล้วค่ะ

จากคำถามเพิ่มเติมในเวลา 22.51 น. ที่ว่า.. "หลังจากประจำเดือนมา 7 วัน ถ้าเกิดเราไม่เริ่มทานยาคุมกำเนิด จะมีโอกาสตั้งครรภ์หรือคะ แล้วเลิกกินได้ไหม"

ให้คำตอบแบบสั้น ๆ ได้ว่า...

หลังเลิกใช้ก็จะไม่มีผลป้องกันจากยาคุม ดังนั้น ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันใด ๆ ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากค่ะ

แต่ต่อให้ไม่มีผลป้องกันจากยาคุมแล้ว ถ้าใช้ถุงยางป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เมื่อใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ

ดังนั้น หากต้องการเลิกใช้ยาคุม แล้วเปลี่ยนไปใช้ถุงยางป้องกันแทน ก็สามารถทำได้ค่ะ
..
..
..
หรือหากต้องการคำอธิบายที่ละเอียดมากขึ้น แนะนำเช่นนี้ค่ะ...

เมื่อมีประจำเดือนมาแล้ว ก็หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วนะคะ

ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นในครั้งต่อ ๆ ไป จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากหรือน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นกับประสิทธิภาพของวิธีคุมกำเนิดที่ใช้ และขึ้นกับการใช้ว่าถูกต้องและเหมาะสมหรือไม่

เช่น ถ้าผู้ถามต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนด ยาก็จะไปยับยั้งไข่ที่กำลังจะตกในรอบเดือนถัดไป เมื่อไม่มีไข่ตก ต่อให้มีเพศสัมพันธ์หลั่งในและมีอสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้ แต่เมื่อไม่มีไข่ให้ผสมด้วย ก็ไม่เกิดการตั้งครรภ์ค่ะ

ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลป้องกันจากยาคุมรายเดือน ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 0.3% เท่านั้นนะคะ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่น้อยมากจนไม่น่าจะกังวล

แต่ถ้าผู้ถามไม่ได้ต่อยาคุมแผงใหม่แล้ว รอบเดือนถัดไปก็สามารถมีไข่ตกได้ตามปกติค่ะ ซึ่งถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ก็มีโอกาสที่อสุจิจะเข้าผสมกับไข่ และเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์มากนะคะ

อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ถามจะไม่ได้ใช้ยาคุมรายเดือนต่อและมีไข่ตกตามปกติ ก็ไม่มีปัญหาถ้าให้แฟนใช้ถุงยางป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะถ้าอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ไม่ได้ ก็ไม่เกิดการตั้งครรภ์นั่นเองค่ะ

โดยถ้าใช้ถุงยางถูกวิธี และตรวจสอบจนมั่นใจว่าไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งแม้จะเป็นความเสี่ยงที่สูงกว่ายาคุมรายเดือน แต่ก็ยังถือว่าเป็นความเสี่ยงที่น้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ และผู้ถามก็จะไม่ต้องทนกับผลข้างเคียงจากฮอร์โมนในยาคุมอีกด้วย

ดังนั้น ในกรณีที่ไม่ต้องการจะคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนต่อ ก็สามารถใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีป้องกันแทนได้ค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้ยาคุมรายเดือนต่อ ก็สามารถทำได้เช่นกันนะคะ แต่ในกรณีที่มีโรคประจำตัว, หรือถ้าจำเป็นจะต้องใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน เช่น ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป, หรือถ้ามีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป (หรือ 35 ปีขึ้นไปถ้าสูบบุหรี่ร่วมด้วย) ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง, ปลอดภัย และเหมาะสมกับผู้ถาม รวมถึงควรไปตรวจซ้ำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือตามที่คุณหมอนัดหมายด้วยค่ะ