การรับประทานยาลามิกทอล (Lamictal) ระหว่างตั้งครรภ์ปลอดภัยหรือไม่? แล้วการใช้ยานี้หรือยาทั่วไปที่ชื่อ ลาโมไตรจีน (Lamotrigine) ปลอดภัยระหว่างการให้นมบุตรหรือไม่? ยาลามิกทอลทำให้เกิดความผิดปกติแต่กำเนิดของทารกจริงหรือ? ถึงแม้ว่าปัจจุบันยังมีข้อมูลที่สามารถนำมาตอบคำถามเหล่านี้ได้ไม่เพียงพอ แต่นักวิจัยก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำแนวทางปฏิบัติออกมา
การรับประทานยาลามิกทอลขณะตั้งครรภ์
จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานว่าการรับประทานยาลามิกทอลขณะตั้งครรภ์เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติแต่กำเนิดของทารก มีข้อมูลบางส่วนที่แสดงว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปากแหว่งเพดานโหว่ แต่ข้อมูลอื่นๆ ไม่ได้มีข้อมูลในเรื่องนี้ องค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้กล่าวว่าควรใช้ยาลาโมไตรจีนขณะตั้งครรภ์หากได้รับประโยชน์จากยา ซึ่งก็คือสุขภาพจิตของมารดามากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับทารก
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ในงานวิจัยเมื่อปี ค.ศ. 2009 ของนายแพทย์ Ruta M. Nonacs ได้ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงหลายคนที่เป็นโรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder) อาจต้องการยาเพื่อควบคุมอารมณ์ระหว่างตั้งครรภ์ ยาตัวอื่นที่อาจใช้แทนยาลามิกทอล นั้นอาจทำให้เกิดความเสี่ยงมากกว่าเดิม เช่นยา Depakote สามารถทำให้เกิดความผิดปกติแต่กำเนิดได้สูงถึง 10% และอาจเป็นความผิดปกติที่รุนแรงได้; ยา Topamax อาจทำให้เกิดโรคปากแหว่งเพดานโหว่ได้; ยา Tegretol (Carbamazepine) ยา Trileptal (oxcarbazepine) และ ยา lithium ก็เป็นยาที่จัดว่าน่าจะส่งผลเสียต่อทารกมากกว่ายาลามิกทอล
ยาที่ช่วยควบคุมอารมณ์ (Mood Stabilizers) ที่มีความเสี่ยงต่อหญิงตั้งครรภ์เท่ากับยาลามิกทอล ประกอบด้วย
- Keppra (levetiracetam)
- Gabitril (tiagabine)
- Neurontin (gabapentin)
- Topamax (topiramate)
ยาลามิกทอลและยาอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงในระดับเท่ากันนั้นถูกจัดอยู่ใน Catageory C ขององค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายถึงมีการพบผลข้างเคียงต่อตัวอ่อนจากงานวิจัยในสัตว์ทดลอง ยังไม่มีหลักฐานและงานวิจัยที่มากพอที่ทำการศึกษาในมนุษย์จึงควรใช้ยากลุ่มนี้อย่างระมัดระวังในผู้หญิงตั้งครรภ์ แม้จะได้รับประโยชน์จากยากลุ่มนี้ก็ตาม ยาลามิกทอลนั้นมีการศึกษาในสัตว์ทดลองที่พบว่าไม่ได้ทำอันตรายต่อตัวอ่อนในสัตว์ทดลองมากนัก แต่ก็ยังต้องใช้ยาอย่างระมัดระวังตามการจัดกลุ่มยาที่อยู่ใน Category C
การใช้ยาลามิกทอลขณะให้นมบุตร
ยาลามิกทอลสามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมนได้ ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้จ่ายยาลามิกทอลหรือยาลาโมไตรจีนไม่ว่าในรูปแบบใดให้แก่หญิงที่กำลังให้นมบุตร อย่างไรก็ตามพบว่า ปัญหาที่เกิดในทารกที่ได้รับนมการมารดาที่กำลังรับประทานยาลามิกทอลนั้นพบได้น้อย หากคุณเลือกที่จะให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยาลามิกทอล จำเป็นจะต้องมีการดูผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นในทารกอย่างใกล้ชิด เช่น มีการหยุดกินนม มีผื่น ดูดนมน้อย หรือซึมลง ควรหยุดให้นมทารกหากพบว่ามีผื่นขึ้นจนกว่าจะสามารถหาสาเหตุได้ เนื่องจากว่ายาลามิกทอลมีความสัมพันธ์ต่อการเกิดผื่นชนิดรุนแรงได้ ดังนั้นหากทารกมีผื่นควรพาไปพบแพทย์ทันที