July 10, 2019 06:46
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
จากที่หนูเล่ามา พี่จับประเด็นได้ดังนี้นะคะ
1.อารมณ์ของคุณแม่ ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจหนู
2.ความรู้สึกผิด ความเครียด ความเศร้า ความน้อยใจ ไม่สดชื่น ของหนูที่เป็นผลมาจากการจากไปของคุณพ่อ จากประสบการณ์วัยเด็ก จากการขาดความรักความเข้าใจจากแม่
ในกรณีเช่นนี้หากเราจะแก้ไขที่ตัวแม่ก้อาจจะยากสำหรับหนู พี่ขอแนะนำให้แก้ไขที่ตัวเอง ด้วยการปรับความคิดแง่บวก ให้มองปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา ทุกคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง แม่ก็ส่วนของแม่ น้องก็ส่วนของน้อง ตัวเราเองก็มีชีวิตของเรา วางเป้าหมายอนาคตให้ชัดเจน หากไม่มีใครช่วย หรือไม่สมหวังในสิ่งที่ตั้งใจเราก็ต้องฮึดสู้ พร้อมฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ท้อได้แต่อย่าถอย หมั่นเข้าวัดทำบุญ หาที่ปรึกษาพูดคุยเพื่อระบายความรู้สึกคับข้องใจออกมา หากหนูเก็บความรู้สึกแย่ๆไว้นานๆ วันนึงมันจะระเบิดออกมาและนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตได้ค่ะ
หรือถ้าหากหนูยังพอพูดคุยกับแม่ได้บ้าง หนูลองขอเวลาพูดคุยบอกความรู้สึกที่อัดอั้นให้ท่านได้เข้าใจ และขอให้ปรับตัวเข้าหากันใหม่ ซึ่งอาจต้องสะท้อนให้แม่ได้รู้ถึงผลกระทบจากสภาพอารมณ์ที่ไม่คงที่ของแม่ แล้วแนะนำให้ท่านพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการแก้ไขนะคะ
ส่วนเรื่องที่รู้สึกผิดกับอดีตในวัยเด็ก ประเด็นนี้ขอให้บอกตัวเองว่า ตอนนั้นเรายังเป็นเด้ก มันเกิดจากความไม่ตั้งใจ ให้อภัยตัวเอง แล้วทำในสิ่งที่ดีต่อไปค่ะ
สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้คือ พี่เป็นห่วงเรื่องของอารมร์เศร้าของหนู ซึ่งอยากให้หนูลองสำรวจอาการ ด้วยตัวเองดังนี้นะคะ
โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป ก็อาจเข้าข่ายโรคซึมเศร้าได้ค่ะ
หากมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้าควรพบจิตแพทย์ทันที ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การรับรู้ ความคิด การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม หากเจอปัญหาหรือมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมความคิดอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจทำให้ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ
ในระหว่างทำการรักษา ควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นเลย นี้อาจจะไม่ใช่ภาระของเราที่จะต้องแก้ไขเรื่องของครอบครัวนะครับ อยากให้โฟกัสในสิ่งที่ตนเองทำได้ เช่น การตั้งใจเรียนหนังสือ การค้นหาอนาคตของตนเอง เพราะคิดว่าในไม่กี่ปีข้างหน้า หากสามารถสอบติดมหาวิทยาลัยได้ ก็จะเริ่มมีชีวิตเป็นของตนเองมากขึ้น เรื่องครอบครัวบางเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดไปแล้ว สิ่งสำคัญก็คือการยอมรับและก้าวเดินต่อไปในแบบที่มันเป็น
เรื่องของน้องชายที่กำลังไปจะเชียงราย ไม่แปลกเลยที่เราจะรู้สึกว่าไม่อยากให้เขาไป เพราะเท่าที่อ่าน ก็รู้สึกว่าจะสนิทกับน้องมากกว่าแม่ และรู้สึกด้วยว่าตนเองก็ห่างเหินกับแม่พอสมควร และการที่น้องไปก็ทำให้รู้สึกด้วยว่าตนเองก็อยากจะไปทางนั้นบ้าง ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นไปได้แค่ไหนที่จะไปทางเชียงรายบ้าง หากเป็นไปได้ที่แม่ฟ้าหลวงเองก็มีหอพักอยู่ หากสามารถสอบติดได้และคุณแม่ประกอบอาชีพอยู่แล้ว การย้ายไปเรียนอาจจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ที่เล่ามาก็เห็นได้นะครับว่ารู้สึกน้อยใจ เหงา และดูสับสนในบางเรื่อง แต่ผมเองก็เห็นถึงความรักที่มีให้กับน้องชาย และเห็นว่าคุณแม่เองก็พยายามทำงานเพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายที่สุด ผมคิดว่าการช่วยเหลืออาจจะไม่ใช่แค่เรื่องทำขนม แต่อาจจะลองทำงานบ้าน รับผิดชอบอะไรบางอย่างภายในบ้านมากขึ้น โดยที่การเรียนจะต้องมาก่อน ให้คุณแม่เห็นว่าเราเองก็โตขึ้นแล้ว และก็สามารภที่จะดูแลตนเองได้ ไม่ใช่เด็กๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
เป็นกำลังใจให้นะครับ ในการที่จะออกแบบอนาคตของตนเอง และค่อยๆหาวิธีการในการทำให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เรื่องของครอบครัว อยากให้ค่อยๆเป็นค่อยๆไป และอย่างที่บอกว่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างอาจจะไม่ใช่ความรับผิดชอบของเราเพียงคนเดียว ดังนั้นอย่าแบกอะไรเหล่านั้นไว้กับตัวมากครับ ลองพูดคุยกับคุณแม่และน้องชายด้วย สุดท้ายนี้หากมีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็สอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าครอบครัวยังเป็นครอบครัวอยู่รึเปล่า น้องก็ทะเลาะกะแม่ทุกวัน คุยกันไม่เคยถูกคอ กลับจากรร.ก็ขึ้นห้องมาเล่นเกมส์กะเพื่อน ไม่ออกจากห้องเลย ลงมาแค่เฉพาะที่เวลาหิว แต่กลับไม่กินข้าวที่แม่ทำให้ อะไรๆก็ไปซื้อเซเว่นกิน ไม่ก็กินแต่ขนมกะน้ำอัดลม แม่ก็บ่น เรื่องนิดหน่อยก็บ่น แม่ทำขนมขายค่ะ รู้ว่าทำขนมมันเหนื่อย บางทีก็อยากช่วยนะ แต่พอจะช่วยล้ะก็บอกว่าไม่ต้องเด่ะทำเอง ก็เราไม่ชอบทำขนมและทำไม่เป็น แต่พอไม่ช่วยก็หาว่าไม่ช่วย ล้ะพาลไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ ปัจจุบันอยูากทม.ค่ะ คุณพ่อพึ่งเสียไป เราครอบครัวที่2 พ่อเลยนานๆทีจะมาหา แต่ตอนงานศพพ่อญาติๆฝั่งนั้นเขาก็ต้อนรับดีนะคะ แต่ก๋เหมือนกันจะชอบแค่น้องชายเรา เพราะหน้าตาเหมือนพ่อมาก น้องขอไปเรียนเชียงรายเขาก็ให้ไป น้องบอกว่าอาจะซื้อมอไซค์กะหมาให้เลี้ยงด้วย อันนี้เราก็ยินดีกะน้องนะคะ แต่มันน่าน้อยใจตรงที่พอเราจะขอไปเรียนแม่ฟ้าหลวง เขากลับาายเบี่ยงนั่นนี่ เพื่อไม่ให้เราไปทุกทีอ่ะค่ะ ปีหน้าน้องก็จะย้ายไปเรียนเชียงราย ชีวิตน้องกำลังดีขึ้น ดูน้องดีใจมาก เข้าไฮไลท์เลยนะคะ ลืมเล่าค่ะ ตอนเด็ก ด้วยความที่เป็นเด็ก หนูเลยเผลอเล่นกะน้องแรงมาก หนูว่าตอนเด็กๆ หนูซาดิสมากเลยค่ะ น้องมันชอบกวนตีน ตอนนั้นหนูโมโหอยู่ เลยเผลอบีบคอน้อง จนน้องสำลัก พอหนูเห็นฉากที่ในหนังโดนบีบคอ หนูร้องไห้ทุกครั้งเลยค่ะ หนูรู้สึกผิดมากจนถึงทุกวันนี้ แต่พึ่งมานึกได้ตอนน้องกำลังไปเรียนเชียงราย พอเราเริ่มๆโตกันแล้ว เราก็ไม่ได้ทะเลาะไรกันขนาดนั้นแล้วนะคะ หนูเป็นพี่ที่ดีของมัน แล้วเหมือนตั้งแต่พ่อเสียไป ทั้งบ้านก็มีแค่หนูที่คอยปลอบใจมัน มันหนูเป็นที่พึ่งคนเดียวของน้องอ่ะค่ะ หนูทราบว่าตอนนี้หนูโอเคกับน้องมากๆ แต่น้องไม่โอเคกับแม่เลย นี่หรอคะครอบครัว ทุกวันนี้ไม่รู้ว่าครอบครัวจะเป็นครอบครัวได้ยังไง ในเมื่อทุกคนเป็นแบบนี้ ไม่รู้จะทำยังไงให้น้องยังอยู่นี่ แล้วแม่ก็ไม่จู้จี้ขี้บ่น และฟังเรากะน้องบ้าง ไม่คิดว่าตัวเองถูกไปหมด พูดไรไม่เข้าหูเอะอะก็ฟาดก็ตี ตอนเด็กๆแม่น่ากลัวมากค่ะ เขาเอาทุกอย่างที่เป็นไม้ ฟาด ถ้าเราดื้อ เรากับน้องเคยคุยกันว่า ถึงแม่จะตีเรามันก็แค่ทำให้เราจำ แต่ไม่ได่ทำให้เรารักแม่เลย มันก็จริงอ่ะ เรากะน้องรู้สึกห่างเหินกะแม่มากเลยค่ะ แต่ก็มีแต่เราที่คุยกะแม่ได้ เสียใจมากค่ะ ถ้าพ่อยังอยู่ก็คงช่วยให้ทุกคนดีกัน ตั้งแต่พ่อเสียอะไรๆมันก็แย่ไปหมด ทุกคนไปคนละทาง ค่ะ เลยไม่รู้ควรแก้ไขตรงไหนดีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)