พอดีเดือนกรกฏาทานยาคุมแบบ21เม็ด ประจำเดือนมาวันที่26 แล้วเดือนสิงหาคมไม่ได้ทานยาคุม มีเพศสัมพันธ์วันที่13-15(ป้องกัน ใส่ ถุงยางอนามัย เช็คดูไม่รั่วไม่แตก) พอมาวันที่ 27 ซื้อยาเลื่อนประจำเดือนมากิน กิน ได้4เม็ดแล้วหยุดยา วันที่29ตอนเย็น จนวันนี้วันที่1ก.ย ประจำเดือนยังไม่มา ซื้อที่ตรวจมาตรวจครั้งแรกวันที่26 ขึ้น1ขีด และตรวจอีกครั้งวันที่ 31 ก็ขึ้น1ขีด 1.มีสิทธิ์ท้องไหมคะ 2.มี สาเหตุ ที่ ประจำเดือน ไม่มา ไหมคะ 3.หากประจำเดือนยังไม่มาสามารถทานยาคุมกำเนิดต่อเลยได้ไหมเพื่อให้ประจำเดือนมาในเดือนหน้า

ถ้าตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง 2ครั้ง อย่างถูกต้อง แล้วผลเป็นลบ โอกาสตั้งครรภ์น้อยครับ

ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอนั้นอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นได้หลายอย่างครับ เช่น

- มีปัญหาการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- รังไข่ผิดปกติ เช่น การมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่
- ฮอร์โมนในเลือดผิดปกติ
- ความเครียด/วิตกกังวล/อารมณ์แปรปรวน
- การออกกำลังกายที่หนักเกินไป
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
เป็นต้นครับ

แนะนำให้จดบันทึกรอบประจำเดือนให้ชัดเจน และไปพบแพทย์สูตินรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

การปฏิบัติตัว แนะนำให้ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร เพื่อลดน้ำหนัก หลีกเลี่ยงความเครียด และพักผ่อนให้เพียงพอครับ

ส่วนเรื่องยาคุมกำเนิด ถ้าตรวจการตั้งครรภ์อย่างถูกต้อง 2ครั้ง แล้วไม่พบ สามารถทานได้เลย หรืออาจจะให้รอประจำเดือนมาก่อนก็ได้ครับ โดยการทานยาคุมกำเนิด จะขึ้นกับ เวลาที่เริ่มใช้ และชนิดของยาคุมกำเนิดครับ

ถ้าแผงแรกที่เริ่มทาน
-ทานในช่วง5วันแรกของการมีประจำเดือน และยาที่ทานเป็นเม็ดยาฮอร์โมน(ส่วนใหญ่จะมีสี ที่ไม่ใช่สีขาว) จะคุมกำเนิดได้เลยครับ
-ทานในช่วงหลังจาก5วันแรกของการมีประจำเดือน มีผลคุมกำเนิดเมื่อทานเม็ดยาฮอร์โมน ติดต่อกันครบ 7 วันครับ

สวัสดีครับ
การตรวจการตั้งครรภ์ที่จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้นั้นจะต้องเป็นการตรวจเมื่อห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ จึงจะจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ ซึ่งในกรณีนี้หมอไม่แน่ใจว่าการตรวจการตั้งครรภ์ในวันที่ 31 สิงหาคมนั้นได้ตรวจโดยใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนหรือไม่ ถ้าหากใช่ผลตรวจก็น่าจะเชื่อถือได้ว่าไม่มีหารตั้งครรภ์จริงครับ

แต่ถ้าหากยังไม่ได้ใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจเลย หมอก็แนะนำว่าควรตรวจการตั้งครรภ์ใหม่โดยใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าอีกครั้งครับ

ถ้าหากตรวจการตั้งครรภ์อย่างอย่างถูกต้องแล้วประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด

แต่ในกรณีที่ตรวจการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็จะสามารถเริ่มรับประทานยาคุมได้เลยครับ แต่ในกรณีนี้ก็ควรรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนที่จะเริ่มมีเพศสัมพันธ์เพื่อให้ยาคุมออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างเต็มที่ก่อนครับ

สวัสดีครับ
หากทดสอบการตั้งครรภ์อย่างถูกวิธี ผลการทดสอบมีความน่าเชื่อถือสูงมากครับ
________________________
สาเหตุของการขาดประจำเดือน เป็นได้หลายสาเหตุครับ เช่น
- กำลังตั้งครรภ์อยู่ เป็นสาเหตุที่พบบ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์
- การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาต้านโรคซึมเศร้า ยาทางจิตเวช เป็นต้น
- ความเครียด, การออกกำลังกายที่หนักจนเกินไป, น้ำหนักตัวน้อยมาก (BMI < 18.5)
- การมีพังผืดในมดลูก (Asherman’s syndrome) มักจะสัมพันธ์กับประวัติที่เคยขูดมดลูกมาก่อน
- การมีระดับฮอร์โมนเพศชายที่สูงกว่าปกติ (Hyperandrogenism) มักสัมพันธ์กับการมีหน้ามัน สิวมาก มีขนขึ้นมากผิดปกติ เช่น โรค Polycystic ovarian syndrome (PCOS)
- การมีระดับฮอร์โมนเพศต่ำกว่าปกติ (Hypogonadism) เช่น รังไข่เสื่อม (Premature ovarian failure) ไม่มีการตกไข่ (Anovulation) เป็นต้น
- การเป็นโรคไทรอยด์
**สาเหตุต่างๆที่ได้กล่าวไปเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ซึ่งการวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ ดังนั้นถ้าสงสัยหรือกังวลแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจและให้การรักษาครับ**