หลังจากดื่มนมวัว นมแพะ นมแกะ หรือรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของนม เช่น เค้ก ขนมปัง ไอศกรีม แล้วเกิดอาการท้องเสีย ท้องเฟ้อ หรือท้องอืด นั่นอาจเป็นสัญญาณของ ภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ (Lactose intolerance) ก็ได้
รู้จักกับภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ
ภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ หรือที่รู้จักกันในหลายๆ ชื่อ เช่น อาการแพ้แลคโตส แพ้น้ำตาลแลคโตส หรือภาวะไม่ทนน้ำตาลแลคโตส คือภาวะที่ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้อย่างสมบูรณ์
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปกติแล้ว ร่างกายของเราจะผลิตน้ำย่อยที่ชื่อว่า “แลคเตส (Lactase)” ออกมาบริเวณลำไส้เล็กสำหรับย่อยแลคโตสออกเป็นน้ำตาลที่มีโมเลกุลเล็กกว่า 2 ชนิด คือ กลูโคส และกาแลคโตส ทำให้ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่าย
แต่ในผู้ที่มีภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ ร่างกายจะผลิตแลคเตสได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้แลคโตสตกค้างไปยังลำไส้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดแก๊สต่างๆ ในร่างกายจนทำให้เกิดอาการผิดปกติตามมานั่นเอง
อาการของภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ
น้ำตาลแลคโตสเป็นน้ำตาลที่พบมากในนมวัว นมแพะ หรือนมแกะ หลังจากที่ผู้มีภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติดื่มนมเหล่านี้เข้าไป หรือรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ทำจานมเข้าไปภายใน 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง ก็จะทำให้เกิดอาการเหล่านี้ตามมา
- ท้องร่วง
- ท้องอืด
- ปวดเกร็งที่ท้อง
- ท้องเฟ้อจนต้องผายลมบ่อยๆ
- รู้สึกไม่สบายตัว หรือมีอาการป่วย
ระดับความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยข้อมูลจากสถาบัน National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases (NIDDK) ได้ระบุว่า คนส่วนมากสามารถรับประทานน้ำตาลแลคโตสในปริมาณเล็กน้อยได้โดยไม่เกิดปัญหาใดๆ
อย่างไรก็ตามก็มีผู้ป่วยบางรายที่มีอาการของภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติรุนแรง ทำให้ไม่สามารถดื่มนมได้เลย แม้จะเป็นนมที่ผสมอยู่ในชา หรือกาแฟก็ตาม
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้เมื่อเป็นภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ
คนส่วนมากเมื่อมีภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติมักหลีกเลี่ยงการดื่มนมไปเลย ซึ่งในนมนั้นอุดมไปด้วยวิตามิน แคลเซียม และเกลือแร่ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้อาจเกิดโรคขาดสารอาหารได้ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับกระดูก เช่น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- โรคกระดูกบาง เป็นลักษณะของกระดูกที่มีความหนาแน่นของมวลแร่ธาตุในกระดูกต่ำ หากไม่รักษาสามารถพัฒนาไปเป็นโรคกระดูกพรุนได้
- โรคกระดูกพรุน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกหักได้สูง
- ภาวะทุพโภชนาการ เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารที่ย่อยไปแล้วได้
สาเหตุของภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ
สาเหตุของภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ เกิดจากร่างกายไม่สามารถย่อยแลคโตสได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากร่างกายผลิตแลคเตสได้เพียงพอ โดยปัจจัยที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตแลคเตสได้เพียงพอมีดังนี้
- ภาวะพร่องแลคเตส เป็นภาวะที่พบมากในเด็ก มีสาเหตุมาจากความผิดปกติทางพันธุกรรม และผู้สูงวัย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่ออายุเพิ่มขึ้นร่างกายจะผลิตแลคเตสได้น้อยลง
- ภาวะขาดแลคเตสหลังเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อของลำไส้ ทำให้ผลิตได้แลคเตสน้อย แต่เมื่อรักษาการอักเสบ อาการต่างๆ ก็จะค่อยๆ ดีขึ้น และกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
- ภาวะขาดแลคเตสแต่กำเนิด เป็นภาวะที่พบได้น้อย เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม
- ภาวะขาดแลคเตสที่เกิดขึ้นในภายหลัง ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมักเกิดอาการแพ้แลคโตสชั่วคราว และมักจะมีอาการแพ้อีกครั้งเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ
เนื่องจากเป็นภาวะที่สามารถถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมได้ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะจึงมักพบในคนที่มีชาติพันธุ์เดียวกัน เช่น
- ชาวเอเชีย
- ชาวพื้นเมืองอเมริกัน
- ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา
โดยส่วนมากจะพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก เนื่องจากเมื่อโตขึ้นร่างกายจะผลิตแลคเตสได้น้อยลง
เมื่อไรที่ควรไปพบแพทย์
- ต้องการยืนยันว่า มีภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติหรือไม่ เพราะภาวะนี้มาอาการคล้ายกับอาการป่วยอื่นๆ อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
- ต้องการตรวจระดับความรุนแรงของภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ
- มีอาการแพ้ระดับรุนแรง เช่น หลังจากดื่มนมแล้วเกิดอาการแพ้ทันที หรือไม่ภายในไม่กี่ชั่วโมง เช่น เกิดลมพิษ ปากบวม ร่วมกับอาการแพ้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผื่นคัน หายใจมีเสียงวี๊ด หรือหมดสติ โดยให้ฉีดยาอีพิเนฟริน (Epinephrine) ทันที และส่งตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล
หากไปพบแพทย์เพื่อตรวจยืนยันว่า มีภาวะย่ยอน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ ให้คุณจดบันทึกเกี่ยวกับอาหารที่รับประทาน เครื่องดื่ม และลักษณะอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารต่างๆ เพื่อที่จะได้บอกแพทย์ได้
วิธีการวินิจฉัยภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ
ในเบื้องต้นแพทย์จะซักประวัติคุณ เช่น เคยมีอาการแพ้หรือไม่ หรือมีญาติที่มีประวัติของภาวะนี้หรือไม่ หลังจากนั้นจะทดสอบอาการแพ้โดยการให้คุณงดรับประทานอาหารที่มีแลคโตสเป็นเวลา 2 สัปดาห์
หากอาการผิดปกติหายไปก็อาจแสดงได้ว่า คุณมีภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
นอกจากการทดสอบดังกล่าวแล้ว ยังมีวิธีการทดสอบอื่นๆ ที่สามารถยืนยันผลของภาวะได้ เช่น ตรวจภูมิแพ้อาหาร ตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง หรือตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ที่เข้ารับการตรวจ
การรักษาภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติ
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติให้หายขาด แต่แพทย์อาจให้คุณลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้
- ลองใช้สารทดแทนแลคเตสเพื่อช่วยย่อยแลคโตส เช่น ดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของสารทดแทนแลคเตส
- หลีกเลี่ยงการรับประทานแลคโตส และหันไปดื่มนมอื่นๆ แทน เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ หรือนมรำข้าว
- จำกัดปริมาณในการรับประทานแลคโตส เพื่อไม่ให้อาการแพ้กำเริบ
น้ำตาลแลคโตสสามารถพบได้ในนม และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมต่างๆ หากคุณมีอาการของภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสผิดปกติก็ควรศึกษาส่วนประกอบของอาหารที่กำลังรับประทาน และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของแลคโตสเพื่อป้องกันอาการแพ้กำเริบ
หากคุณกลัวว่า จะขาดสารอาหาร คุณสามารถปรึกษานักโภชนาการ หรือแพทย์ที่ตรวจภาวะแพ้ เพื่อปรับเปลี่ยนอาหารที่รับประทาน เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
ดูแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้อาหาร และภูมิแพ้อาหารแฝง เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
เป็นคนท้องผูกบ่อยมาก ผลไม้ก็กินเป็นประจำ มีวิธีใหนช่วยลดอาการท้องผูกถาวรได้บ้างคะ