หลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้าเลือดออกเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือไม่

สวัสดีค่ะ กรณีที่มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ที่พบบ่อยได้แก่
- เนื้อเยื่อภายในช่องคลอดฉีกขาด จากการเสียดสีระหว่างมีเพศสัมพันธ์
- รอบเดือนที่ผิดปกติ
- ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก
- ปากมดลูกอักเสบ
- โรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งอาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ เป็นสัญญาณเตือนหนึ่งของมะเร็งปากมดลูก โดยส่วนใหญ่มักพบในผู้หญิงวัยกลางคนถึงสูงอายุ

การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันนั้นมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์อยู่แล้วค่ะ ไม่เกี่ยวกับการมีเลือดออก
แนะนำว่าหากมีเลือดออกบ่อยๆ และกังวลควรไปพบสูตินรีแพทย์แพทย์เพื่อรับการตรวจภายในค้นหาความผิดปกติ และคัดกรองมะเร็งปากมดลูกค่ะ

สวัสดีค่ะ อาการมีเลือดออก ขณะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ใช่อาการของการตั้งครรภฺนะคะ

ควาทเสี่ยงของการตั้งครรภ คือ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันค่ะ โดยหากคนไข้มีความเสี่ยงดังกล่าว แนะนำว่า คนไข้ควรตรวจการตั้งครรภ์คะ โดยสามารถตรวจได้เร็วที่สุดประมาณ 14 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์ค่ะ (ทางปัสสาวะ) แต่ถ้าไปตรวจเลือดที่ รพ เร็วที่สุด 10 วัน หลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ

สำหรับอาการเลือดออกระหว่าง หรือ หลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้าไม่ได้อยู่ในระหว่างการมีประจำเดือนของผู้หญิง เป็นอาการที่ไม่ปกติ และจะต้องหาสาเหตุค่ะ ซึ่งสาเหตุที่เป็นไปได้มีดังนี้ค่ะ
1.บาดแผลที่เกิดขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์ค่ะ อาจจะท่าท่า ความรุนแรง หรือช่วงที่ทำช่องคลอดแห้ง ก็อาจจะมีเลือดออกได้ เลือดที่ออก อาจจะเล็กน้อย เช่น บาดแผลภายนอก หรือถ้ารุนแรงไปจนถึงช่องคลอดหรือป่กมดลูกฉีกขาด ก็อาจจะมีเลือดออกได้มาก
2.การ ติดเชื้อ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจทำให้มีเลือดออก และตกขาวที่ผิดปกติได้ เช่น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เป็นต้น คนไข้อาจจะมีเลือดออก ร่วมกับมีตกขาวสีผิดปกติ เช่นทสีเขียว สีเหลือง หรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจมีอาการแสบ คันช่องคลอด บางคน อาจมีปวดท้องน้อยหรือมีไข้ร่วมด้วย
3. ติ่งเนื้อในช่องคลอด / ปากมดลูก ( polyp) เมื่อโดนกระทบกระแทก อาจมีเลือดออกได้ง่าย
4. เนื้องอก ทั้งเนื้องอกที่เป็นมะเร็วและไม่เป็นมะเร็งในช่องคลอด หรือ ปากมดลูก
5. เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ อาจทำให้มีเลือกออกขณะ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ บางคนอาจมีอาการปวดประจำเดือนมากกว่าปกติด้วยค่ะ
6. ช่องคลอดแห้ง / ช่องคลอดอักเสบ อาจเกิดจาก ความไม่พร้อม/น้ำหล่อลื่นน้อย หรือ ขาดฮอร์โมนเพศ เช่น หลังผ่าตัดรังไข่ ผู้หญิงอายุมาก เป็นต้น
ยังมีอีกหลายสาเหตุ ที่อาจพบได้ค่ะ ซึ่งต้องใช้การตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และอาจจะต้องมีการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมค่ะ จึงแนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ รพ นะคะ

สวัสดีครับ
การมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่าจะมีการตั้งครรภ์ครับ แต่การมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์อาจเกิดได้จากหลายสา เช่น
- เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาด ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
- เป็นการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือน
- มีการบาดเจ็บของปากมดลูกหรืออุ้งเชิงกราน ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้น ซึ่งเป็นภาวะปกติในผู้หญิงบางคน แต่ส่งผลให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย
- มีปากมดลูกหรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น หนองใน เริม ซิฟิลิส
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก

ในกรณีที่มีเลือดออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์อยู่บ่อยๆนั้นก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ

ส่วนอาการที่จะทำให้สงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ได้ ควรเป็นอาการขาดประจำเดือนครับ ถ้าหากมีอาการขาดประจำเดือนก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ