สิวเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยที่สุด พบเห็นได้หลายลักษณะเช่น สิวหัวดำ สิวหัวขาว สิวผด สิวอักเสบ เป็นต้น บริเวณที่มักพบได้บ่อยคือใบหน้า คอ หน้าอกและหลัง ในวัยรุ่น ผู้หญิงอายุ 14-17 ปี ผู้ชายอายุ 16-17 ปี มักพบเป็นสิวมากกว่าวัยผู้ใหญ่ เนื่องมาจากฮอร์โมน แอนโดรเจนที่มีมากในช่วงวัยรุ่นกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติ
สิวแบ่งตามความรุนแรงได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่ระดับเล็กน้อย ปานกลางและมาก หากปล่อยปะละเลยการรักษา สิวไปแล้ว จะก่อให้เกิดแผลเป็นจากสิวตามมา ซึ่งทำให้เกิดความ ไม่มั่นใจในตนเองจากรูปลักษณ์ภายนอกได้
รักษาหลุมสิว ลดรอยสิว วันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 74%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ลักษณะของสิวมี 2 ลักษณะ คือ ชนิดไม่อักเสบ และชนิดอักเสบ ซึ่งชนิดไม่อักเสบที่มักพบได้มากที่สุดคือสิวอุดตัน (comedone) สิวอุดตันแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ สิวหัวขาว และสิวหัวดำ สิวหัวดำจะพบเซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันรูขุมขนอยู่ มองเห็นลักษณะเป็นสีดำได้ชัดเจน สำหรับสิวหัวขาวเกิดจากเซลล์ผิวหนังบางส่วนอุดตันรูขุมขนไว้ จะมองเห็นลักษณะภายนอก เป็นตุ่มสีขาวนูนขนาดเล็ก
สิวอักเสบคือสิวอุดตันที่เกิดการอักเสบขึ้นจากแบคทีเรียบนผิวหนังที่ชื่อ P.acnes ลักษณะของสิวอักเสบ จะพบเป็นตุ่มนูนแดงและมีอาการเจ็บร่วมด้วย การรักษาสิวอักเสบสามารถทำได้ด้วยการใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้แก่ clindamycin, erythromycin สำหรับสิวอักเสบที่มีขนาดใหญ่และนูนมากจะถูกเรียกว่าสิวหัวช้าง การรักษาสิวหัวช้าง แนะนำให้พบแพทย์เพื่อฉีดสารสเตียรอยด์เข้าไปลดอาการอักเสบ ได้ทันที เพื่อลดการเกิดรอยสิวตามมา แต่วิธีการป้องกันการเกิดสิวอักเสบที่ดีที่สุด คือการเริ่มป้องกันไม่ให้เกิดสิวอุดตันก่อนนั่นเอง
สิวอีกชนิดหนึ่งที่มักพบในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทยคือสิวผด (Acne Aestivalis) มักพบเป็นตุ่มใส และแดงขึ้นหลังโดนแดดจัด การรักษาไม่ต่างจากสิวอุดตันทั่วไปและแนะนำให้หลีกเลี่ยงแสงแดด พร้อมทาครีมกันแดดเพื่อลดปัจจัยเสี่ยง
เมื่อเป็นสิวเล็กน้อยถึงปานกลาง สามารถดีขึ้นได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับผู้เป็นสิว การรักษาสิวด้วยตนเองนั้นทำได้ไม่ยาก ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid และอ่อนโยนต่อผิว เพื่อช่วยลดการอุดตันของต่อมไขมัน อีกทั้งเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของ สารสกัดจากพืชบางชนิด ได้แก่ Aloe vera มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบของผิว Tea tree oil ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง และ Propolis มีฤทธิ์ทั้งสองอย่างดังที่กล่าวมาข้างต้น
การรักษาสิวเบื้องต้น (First line treatment)
แบ่งตามความรุนแรงของสิว ดังนี้
- สิวเล็กน้อย (mild
acne) ใช้เฉพาะยาทา ได้แก่
- Benzoyl peroxide 2.5% - 5%
- Topical retinoids 0.01%-0.1%
- Clindamycin 1% solution
- Erythromycin 2%-4% (solution หรือ gel)
- Salicylic acid
- Azelaic acid
- Sulfur, Resorcinol
ไม่ควรใช้ Clindamycin หรือ Erythromycin ทาอย่างเดียว เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อดื้อยาควรใช้รวมกับ Benzoyl peroxide - สิวปานกลาง (moderate acne) ใช้ยาทา (ดังกล่าวแล้วใน mild acne) ร่วมกับยารับประทานคือยาในกลุ่ม Tetracycline ในกรณีที่แพ้ยาในกลุ่ม Tetracycline ให้ใช้ Erythromycin
- สิวรุนแรง (severe acne) ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง ในกรณีการรักษาที่ไม่ตอบสนองด้วยวิธีมาตรฐานใน 2-3 เดือน หรือเป็นสิวรุนแรง (severe acne ) ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง
การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง (Second line treatment)
- สิว (acne vulgaris) ที่ใช้ยาทาตามการรักษาสิวเบื้องต้น ติดต่อกัน 2-3 เดือนแล้วไม่ได้ผล ควรพิจารณาใช้ second line drugs เช่น Co-trimoxazole (Sulfamethoxazole trimethoprim), dapsone, amoxicillin, isotretinoin, hormone
- การรักษาเสริม (adjunctive therapy )
- Comedone extraction (กดสิว)
- Intralesional steroid (ฉีดสเตียรอยด์)
- Laser therapy and Light therapy (รักษาด้วยเลเซอร์)
- Cryotherapy (รักษาด้วยความเย็น)
ในผู้ที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่ายควรหลีกเลี่ยงการขัดถูผิวอย่างแรง เพราะจะยิ่งไปช่วยกระตุ้นการทำงานของ ต่อมไขมันให้ทำงานหนักยิ่งขึ้น หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน งดใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมเป็นน้ำมัน เพราะจะทำให้ผิวอุดตันได้ง่าย
รักษาหลุมสิว ลดรอยสิว วันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 74%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
นอกจากปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผิวหนังแล้ว ปัจจัยอื่นที่มีผลต่อร่างกายทั้งระบบก็เกี่ยวข้อง กับสิวด้วยเช่นกัน ชนิดของอาหารก็เป็นสาเหตุหนึ่งในนั้น อาหารยอดนิยมของชาติตะวันตก เช่น สเต็กเนื้อ แป้งขัดสี เฟรนช์ฟราย เนยและนมวัวก่อให้เกิดการกระตุ้นสิวมากยิ่งขึ้นได้ การเปลี่ยนมาเลือกรับประทานอาหารที่มีค่าดัชนี น้ำตาลต่ำ ทานผักผลไม้สด และเนื้อสัตว์ที่ไขมันน้อย จะช่วยควบคุมการเกิดสิวได้ดีกว่า
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลทำให้สิวแย่ลงมากคือความเครียด ความเครียดส่งผลให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลและแอนโดรเจน เพิ่มขึ้นผิดปกติในทุกเพศทุกวัย มีผลกระตุ้นการทำงานของรูขุมขนอย่างชัดเจน การสูบบุหรี่ก็เช่นกัน ผู้ที่สูบบุหรี่จะพบการอุดตันของผิวหนังได้มากกว่าผู้ที่ไม่สูบ
สิวเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่ไม่ก่อเกิดให้อันตรายแก่ชีวิต แต่สามารถทำให้สูญเสียความมั่นใจในบุคลิกภาพ และส่งผลกระทบไปถึงการดำรงชีวิตประจำวันได้ การรักษาสิวจึงมีความจำเป็นมากขึ้นเมื่อเทียบกับแนวความเชื่อดั้งเดิม ที่ควรปล่อยให้สิวหายไปเอง การรักษาสิวนอกจากการใช้ยาเพื่อปรับสภาพผิวให้ทำงานอย่างสมดุลขึ้นแล้ว ปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า รวมไปถึงการรักษาความสะอาดของผิวก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และต้องทำไปควบคู่กันเพื่อ ให้เห็นผลการรักษา ที่ชัดเจน ระยะเวลาในการรักษาสิวมักเริ่มเห็นผลภายใน 4-6 สัปดาห์ ดังนั้นผู้ที่เป็นสิวจึงควรรอจนกว่าอาการจะ ค่อยๆดีขึ้น ไม่ควรไปแกะเกาบริเวณที่เป็นสิว
แต่หากเป็นสิวระดับรุนแรงมาก พบสิวอักเสบและสิวหัวช้างจำนวนมาก ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษา ไม่ควรปล่อยสิวอักเสบรุนแรงให้หายเอง เพราะถึงแม้สิวจะสามารถ หายได้เองเมื่อระยะเวลาผ่านไป แต่รอยดำและหลุมสิวที่อาจเกิดขึ้นตามมานั้นรักษาได้ยากกว่ามาก