ตั้งแต่ภรรยาเริ่มตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมา ล้วนแต่ส่งผลกระทบถึงสามีหรือว่าที่คุณพ่อด้วยกันทั้งนั้น จากการวิจัยพบว่า ว่าที่คุณพ่อมักจะมีปัญหาในการปรับตัวในระหว่างที่ภรรยาตั้งท้องได้เช่นเดียวกับผู้ที่ตั้งครรภ์เอง และจะมีต่อเนื่องไปจนคลอด ดังนั้นว่าที่คุณพ่อจึงต้องทำความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงทั้งทางสรีระ จิตใจและอารมณ์ ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถปรับตัวเข้าหากันได้อย่างเป็นปกติสุข
1. กลัวการมีเพศสัมพันธ์
ถือว่าเป็นสุดยอดความกังวลใจของคุณพ่อมือใหม่มากที่สุดเมื่อภรรยาตัวเองเริ่มตั้งครรภ์ ความวิตกกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้อง ซึ่งเป็นความรู้สึก (ไปเอง) ของทั้งคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่หลายๆ คู่เลยทีเดียว รวมถึงความรู้สึกทางเพศของคุณพ่อมือใหม่หลายคนที่อาจจะเปลี่ยนไป เนื่องจากรูปร่างของภรรยามีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ความจริงแล้วการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ภรรยากำลังตั้งครรภ์นอกจากจะไม่เป็นอันตรายต่อลูกในท้องแล้ว ยังเป็นสิ่งที่กระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน และยังมีรายงานพบว่าความเคลื่อนไหวของมดลูกขณะมีเพศสัมพันธ์เป็นผลดีกับทารก ช่วยให้ทารกสงบอีกด้วย ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงท่าที่ใช้ด้วย ไม่ควรใช้ท่าที่ต้องมีการกดทับหรือกระแทกหน้าท้องหรือบริเวณท้องโดยตรง และควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งหากต้องการมีเพศสัมพันธ์หากมีประวัติ หรือ กำลังเกิดภาวะแท้งคุกคาม หรือ ภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
2. มีอารมณ์หงุดหงิดง่ายกว่าปกติ
มีรายงานหลายฉบับที่ยืนยันตรงกันว่า สามีจำนวนมากมีการเปลี่ยนแปลงร่างกายและจิตใจเช่นเดียวกับภรรยา เช่น เกิดอารมณ์ซึมเศร้า บางคู่อาจเกิดพร้อมๆ กัน แต่บางคู่อาจเกิดสลับกัน อาการซึมเศร้าหงุดหงิดเป็นภาวะปกติที่พบได้ในสามีที่ภรรยาของตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ทางแก้ไขคือเพียงทำความเข้าใจกับมัน และพยายามทำตัวให้สดชื่นกระฉับกระเฉงตลอดเวลา ก็จะช่วยลดปัญหาลงได้มาก นอกจากนี้ยังอาจพาภรรยาไปฝากครรภ์ หรือร่วมกิจกรรมสำหรับหญิงตั้งครรภ์พร้อมๆ กับภรรยา หรือทำความคุ้นเคยกับลูกในท้อง จัดหาสิ่งของเครื่องใช้ให้ทารก เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นและมีส่วนร่วมมากขึ้น
3. ต้องเจอภาวะอารมณ์ของภรรยาที่เปลี่ยนแปลงบ่อย
เนื่องจากฝ่ายภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ตลอดเวลา บางครั้งอาจจะเกิดอาการ "เหวี่ยง" มากไปหน่อยโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งโดยมากจะเป็นในช่วงระยะ 4 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และบางคนอาจเป็นมากช่วงใกล้คลอด ดังนั้นฝ่ายสามีจึงความทำความเข้าใจและคอยให้กำลังใจภรรยา ปลอบโยนอย่างจริงใจ ก็จะทำให้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. อาการแพ้ท้อง
มีรายงานพบว่าร้อยละ 11 - 65 ของสามีที่ภรรยากำลังตั้งครรภ์จะแพ้ท้องตามภรรยาไปด้วย โดยจะแสดงอาการต่างๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อาหารไม่ย่อย ท้องผูก เป็นตะคริว เวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม อ่อนเพลีย อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ซึ่งอาจจะเกิดจากความรู้สึกมีส่วนร่วมของสามีต่อภรรยาตัวเอง หรืออาจเกิดจากความเครียดที่ต้องเจอกับภาวะการเปลี่ยนแปลงต่างๆ หรืออาจเกิดจากความรู้สึกผิดที่ต้องให้ภรรยาพบกับความไม่สุขสบายต่างๆ ในการตั้งครรภ์อยู่เพียงคนเดียว อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม คุณสามีก็ควรเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และหาทางป้องกันเอาไว้แต่เนิ่นๆ
5. ปัญหาความวิตกกังวลต่างๆ
คุณพ่อมือใหม่มักจะเกิดความกังวลต่างๆ นานา เช่น กังวลว่าตัวเองจะเป็นพ่อที่ดีหรือไม่ แล้วจะเลี้ยงลูกอย่างไรดี ภรรยาจะมีสุขภาพแข็งแรงดีมั้ย ตอนคลอดลูกออกมาลูกจะออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ดีหรือไม่ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการเลี้ยงลูกให้มากพอ หรืออาจจะปรึกษาคุณหมอที่ไปฝากครรภ์และทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยคลายความกังวลไปได้