พ่อแม่มือใหม่เตรียมตัวอย่างไรกับลูกสาวคนแรก
หลังจากรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ เชื่อว่าในจิตใจของคุณแม่มือใหม่ (รวมถึงคุณพ่อมือใหม่ด้วย) ต่างก็ตื่นเต้นและดีใจ การเตรียมตัวให้พร้อมนั้นนอกจากจะต้องดูแลร่างกายของแม่ที่ตั้งครรภ์ให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนแล้ว การเตรียมตัวด้านจิตใจที่จะเลี้ยงลูกก็ต้องเริ่มต้นด้วยเช่นเดียวกัน และต้องทำไปพร้อมกันทั้งพ่อและแม่ การปฏิบัติต่อลูกที่ไม่เหมือนกันเพราะคิดว่าลูกเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิงจะส่งผลโดยตรงต่ออนาคตของลูก ดังนั้นการเตรียมตัวเตรียมใจของพ่อแม่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและต้องร่วมพูดคุยหาแนวทางที่เหมาะสม
ผลการวิจัยจากต่างประเทศได้ข้อมูลของทารกเพศหญิงที่น่าสนใจดังนี้
- การตั้งครรภ์ที่ทารกในครรภ์เป็นเพศหญิง แม่ที่ตั้งครรภ์จะมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดน้อยกว่าเพศชาย
- เมื่อคลอดลูกแล้ว ทารกเพศหญิงมักจะร้องงอแงน้อยกว่าทารกเพศชาย
- ทารกเพศหญิงในวัยแรกเกิดจะมีภาวะทางอารมณ์ที่ดีกว่า และมีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าทารกเพศชาย เพราะทารกเพศชายจะมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลและฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมากกว่า
- เด็กผู้หญิงจะมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญาเร็วกว่าเด็กผู้ชายเมื่อเทียบอายุเท่ากัน ดังนั้นหากได้ลูกผู้ชายแล้วรู้สึกว่าลูกของเรามีพัฒนาการช้ากว่าลูกสาวของครอบครัวอื่นก็อย่าเพิ่งตกใจไป
- โดยมากทารกเพศหญิงจะหัดพูดได้เร็วกว่าทารกเพศชาย
- ทารกเพศหญิงมักตั้งใจฟังคนพูด (ชอบมองคนพูดและทำหน้าตั้งใจฟัง) ได้นานกว่า และยิ้มแย้มมีความสุขง่ายกว่าเวลาพ่อแม่พูดคุยและหยอกล้อเล่นด้วย
การเตรียมตัวของพ่อแม่เมื่อรู้ว่าได้ลูกสาว
- แม่หลายคนเมื่อรู้ว่ากำลังจะได้ลูกสาว ก็คิดว่าลูกสาวเป็นเหมือนตัวแทนของตัวเอง จึงอยากให้ลูกชอบในสิ่งที่ตัวเองชอบด้วย ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องทั้งหมด เพราะความจริงแล้วเราไม่สามารถบังคับจิตใจของลูกได้ พ่อแม่จึงควรรักและยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น
- พ่อแม่หลายคนมักจะวาดหวังให้ภาพของลูกสาวในฝันเป็นเด็กที่น่ารัก เรียบร้อย อ่อนโยน เป็นกุลสตรี ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ผิด การคาดหวังว่าอยากให้ลูกเป็นอย่างไร ก็เท่ากับว่าพ่อแม่จะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อให้ลูกเดินไปในเส้นทางที่ตัวเองต้องการ แต่สิ่งที่ต้องคิดเผื่อไว้บ้างก็คือ วินาทีที่คลอดลูกออกมาแล้ว ลูกสาวในความฝันกับความเป็นตัวเองของลูกสาวโลกความจริงอาจจะไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
- ลูกสาวต้องการการสัมผัสที่มากกว่าลูกชาย ทั้งการกอดลูก ลูบ การอุ้ม การพูดคุย การสบตา ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทารกเพศชายก็ต้องการการสัมผัสเหล่านี้เช่นกัน แต่เนื่องจากความแตกต่างทางด้านสรีระ เพศหญิงจึงสามารถรับรู้ความรู้สึกผ่านการสัมผัสได้ดีกว่า พ่อแม่จึงควรเข้าใจในส่วนนี้ด้วย
- หน้าที่ของพ่อที่มีต่อลูกสาวนั้นสำคัญไม่แพ้แม่เลยทีเดียว เพราะทารกจะแยกแยะความแตกต่างระหว่างเพศของพ่อและแม่ได้จากการดูแล การสัมผัส และน้ำเสียงการพูดจาของพ่อ ฯลฯ ทำให้ลูกสาวรับรู้ได้ว่ายังมีบุคคลอีกแบบที่ไม่เหมือนแม่และตัวเอง (เพศตรงข้าม)
- เวลาเล่นกับลูก ด้วยสรีระธรรมชาติ พ่อมักจะเล่นกับลูกด้วยการเคลื่อนไหวไปมา มีการออกแรง ซึ่งเป็นที่ถูกใจสำหรับเด็กทารกแรกเกิดจนถึงช่วงปฐมวัย ลูกจะรู้สึกว่าเล่นกับพ่อแล้วสนุกกว่าตอนเล่นกับแม่ ดังนั้นคุณพ่อทั้งหลายอย่าลืมเล่นกับลูกบ่อยๆ
พ่อแม่ที่อยู่ใกล้ชิดกับลูกตลอดเวลา ได้โอบกอด สัมผัส บีบจับเนื้อตัวลูกด้วยความรัก ให้ลูกกินนมจากอกแม่ พูดคุยกับลูก ฯลฯ การกระทำเหล่านี้ลูกจะรับรู้ได้ถึงความผูกพันและความรักที่พ่อแม่มีต่อลูก ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนควรใส่ใจ (ไม่ว่าลูกจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม) อย่าได้โยนภาระการเลี้ยงลูกไปให้กับพี่เลี้ยง หรือปู่ย่าตายาย แม้ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันอาจบีบรัดให้พ่อแม่ต้องออกไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
สิ่งที่พ่อแม่ควรจะเข้าใจก่อนก็คือ ช่วงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกเราคือช่วงแรกเกิดจนถึง 3 ขวบ ลูกของเราเป็นเหมือนผ้าขาวที่เราสามารถแต้มสีสดใสอะไรลงไปก็ได้ อย่าได้โยนภาระให้คนอื่นมาแต้มสีลงไป เพราะเมื่อเวลาผ่านไป เราอาจจะต้องมาเสียใจว่าทำไมลูกเราถึงเป็นแบบนั้นแบบนี้
ประสบการณ์และความผูกพันในการเลี้ยงลูกด้วยตัวเองนั้นไม่สามารถหาสิ่งอื่นใดมาทดแทนกันได้ ถึงแม้จะมีลูกมาแล้วหลายคนก็ตาม การเลี้ยงลูกคนแรกกับลูกคนที่สอง สาม สี่ ประสบการณ์และความรู้สึกก็ไม่เหมือนกัน เพราะทุกๆ วินาทีที่ได้อยู่กับลูกล้วนมีความหมายต่อตัวคุณเองและยังมีความหมายสำคัญต่อลูกอีกด้วย