ทีมเภสัชกร HD
เขียนโดย
ทีมเภสัชกร HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

อาการคนท้อง 1 เดือน และอุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์

ในเดือนแรกตัวอ่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร คนท้อง 1 เดือนมีอาการอย่างไรบ้าง และอุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ
เผยแพร่ครั้งแรก 23 มี.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 10 พ.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
อาการคนท้อง 1 เดือน และอุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • อาการที่พบบ่อยในหญิงตั้งครรภ์ช่วง 1 เดือนแรก ได้แก่ ประจำเดือนสีจางลง หรือไม่มา คัดเต้านม ปานนมใหญ่ขึ้น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อารมณ์แปรปรวน ปัสสาวะบ่อย อยากอาหาร หรือเกลียดอาหารบางชนิด
  • คุณสามารถเช็กอาการตั้งครรภ์ได้ด้วยการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
  • อาการตกขาว เป็นอาการปกติที่พบได้ในช่วงตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น การติดเชื้อ
  • เมื่อคุณมั่นใจว่า ตั้งครรภ์ จะต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และไปฝากครรภ์ (ดูแพ็กเกจฝากครรภ์ และคลอดบุตร ได้ที่นี่)

พัฒนาการของทารกในครรภ์ช่วง 1 เดือนแรก

ช่วง 1 เดือนแรก ตัวอ่อนทารกในครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลง โดยแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง ดังนี้

  1. ช่วงสองสัปดาห์แรก เป็นช่วงที่ยังไม่เกิดการปฏิสนธิระหว่างไข่กับสเปิร์ม และยังไม่เกิดตัวอ่อนขึ้น โดยปกติการปฏิสนธิจนเกิดตัวอ่อน จะเริ่มขึ้นหลังจากประจำเดือนครั้งสุดท้ายมาประมาณ 2 สัปดาห์ แต่การนับกำหนดคลอด จะนับรวมสองสัปดาห์แรกนี้เข้าไปด้วย ทำให้การนับวันกำหนดคลอด จะเริ่มนับตั้งแต่วันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย และนับไปอีก 40 สัปดาห์ ก็จะเป็นวันกำหนดคลอดโดยประมาณ
  2. ช่วงสัปดาห์ที่สาม สเปิร์มและไข่จะเกิดการปฏิสนธิขึ้นบริเวณท่อนำไข่ เกิดการรวมตัวเป็นเซลล์เดียว ซึ่งเรียกว่าเซลล์นี้ว่า ไซโกต (zygote) ซึ่งจะเคลื่อนที่ตามท่อนำไข่ไปยังมดลูก ในขณะนี้ก็จะเกิดการแบ่งเซลล์ของไซโกตเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ให้มากขึ้นไปพร้อมๆ กัน ระยะนี้มีชื่อว่า “บลาสโตไซต์ (blastocyte)” โดยชั้นในของบลาสโตไซต์จะพัฒนากลายเป็นตัวอ่อน ส่วนชั้นนอกจะพัฒนาไปเป็นรก ซึ่งหล่อเลี้ยงทารกไปตลอด 40 สัปดาห์จนกว่าจะคลอด
  3. ช่วงสัปดาห์ที่สี่ เป็นระยะฝังตัว บลาสโตไซต์จะฝังตัวลงบริเวณผนังมดลูก และหลังจากสัปดาห์ที่ 4 ไปแล้ว ระดับฮอร์โมนของมารดาจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยจะมีการสร้างฮอร์โมน human chorionic gonadotropin (hCG) ขึ้นจากรก ซึ่งการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนนี้ จะทำให้ประจำเดือนไม่มา ซึ่งเป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกว่ามีการตั้งครรภ์ และฮอร์โมนนี้เองที่เป็นฮอร์โมนที่ใช้ทดสอบว่าเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นหรือไม่

สังเกต อาการคนท้อง 1 เดือนได้จากอะไรบ้าง?

อาการที่พบได้บ่อยของผู้ที่ตั้งครรภ์ 1 เดือน ได้แก่

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

  • ประจำเดือนสีจางลง จากการศึกษาหนึ่งพบว่า หญิงตั้งครรภ์ร้อยละ 25 มีประจำเดือนสีจางลง ซึ่งอาการนี้เกิดขึ้นได้หลังการฝังตัวของตัวอ่อน (ประมาณ 6-12 วัน หลังเกิดการปฏิสนธิ)
  • ประจำเดือนไม่มา หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามปกติเกิน 1 สัปดาห์ อาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่แน่นอนเสมอไป เพราะความเครียดก็อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติของรอบเดือนได้เช่นเดียวกัน
  • ความเปลี่ยนแปลงต่อเต้านมและหัวนม จากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ผลของการเปลี่ยนแปลงประการหนึ่ง คือ ร่างกายจะมีการเตรียมความพร้อมของเต้านมสำหรับการให้นมบุตร ระยะนี้มักพบอาการคัดเต้านม หัวนมมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือรู้สึกเจ็บบริเวณหัวนม
  • อ่อนเพลีย จากฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยรักษาครรภ์มารดาและกระตุ้นการเจริญของต่อมสร้างน้ำนมในเต้านม นอกจากนี้ ร่างกายยังต้องมีการสูบฉีดเลือดที่มากกว่าปกติเพื่อหล่อเลี้ยงสารอาหารไปยังตัวอ่อนด้วย จึงทำให้รู้สึกอ่อนเพลียได้ง่าย
  • ปวดศีรษะ ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดการปวดศีรษะได้
  • คลื่นไส้ อาเจียน เป็นอาการที่พบได้บ่อยในช่วงสัปดาห์ที่ 2-8 หลังจากการปฏิสนธิ และพบไปต่อเนื่องตลอดการตั้งครรภ์
  • อารมณ์แปรปรวน โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกๆ หลังการปฏิสนธิ เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลง
  • ปวดปัสสาวะบ่อย การปวดปัสสาวะบ่อยมักเกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมน hCG ที่ทำให้เลือดลำเลียงไปบริเวณเชิงกรานมากขึ้น และเมื่อครรภ์มีขนาดใหญ่ขึ้น ขนาดของครรภ์จะยิ่งกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยถี่มากขึ้น
  • อยากอาหาร หรือเกลียดอาหารบางอย่างกะทันหัน เนื่องจากประสาทรับรู้จะไวขึ้นกว่าปกติ

หากพบอาการเหล่านี้ ไม่ได้หมายความว่ามีการตั้งครรภ์อย่างชัดเจน เพราะถ้าหากเจ็บป่วย หรือมีความเครียดสูง ก็อาจแสดงอาการบางอย่างได้เช่นกัน และในทางกลับกันการตั้งครรภ์ก็อาจเกิดขึ้นโดยไม่มีอาการเหล่านี้ให้เห็นเลยก็เป็นได้ วิธีที่มีความแม่นยำที่สุด ก็คือการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์

อุปกรณ์ทดสอบอาการคนท้อง 1 เดือนอะไรบ้างที่หาซื้อได้เอง และเช็กได้ชัวร์

ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย มีทั้งหมด 3 รูปแบบ คือ

  1. แบบจุ่ม หลักการทำงานคือ จุ่มแผ่นทดสอบลงในถ้วยเก็บปัสสาวะ เป็นแบบที่มีราคาถูกที่สุด
  2. แบบหยด เปลี่ยนจากการจุ่มแผ่นทดสอบมาเป็นใช้หลอดหยดปัสสาวะลงบนแผ่นทดสอบ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาแผ่นทดสอบถูกปริมาณปัสสาวะมากเกินไปจนทำให้แผ่นทดสอบเสีย โดยแบบหยดจะมีราคาสูงกว่าแบบจุ่ม
  3. แบบปัสสาวะผ่าน ใช้วิธีปัสสาวะผ่านแท่งทดสอบ ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการเก็บปัสสาวะลงในถ้วย (อย่างในสองวิธีแรก) มีความสะดวกมากที่สุด แต่ก็มีราคาสูงที่สุดใน 3 รูปแบบ

ฮอร์โมน hCG จะเริ่มสร้างหลังจากการปฏิสนธิได้ประมาณ 9 วัน (หรือในช่วง 6-12 วัน) ดังนั้นจะตรวจพบฮอร์โมนนี้ได้ในเลือดประมาณ 9 วันหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ แต่ในช่วงวันแรกๆ อาจพบฮอร์โมนที่ขับออกทางปัสสาวะแบบเจือจาง 

ซึ่งชุดทดสอบในปัจจุบันสามารถให้ผลการทดสอบที่แม่นยำได้ตั้งแต่การตรวจวันแรกของวันที่ขาดประจำเดือนตามปกติ

แต่อย่างไรก็ตาม ความคาดเคลื่อนของผลการทดสอบอาจเกิดขึ้นได้ เช่น การใช้ชุดทดสอบเร็วเกินไป ทำให้ยังไม่พบฮอร์โมน hCG

ปวดหลัง ตกขาว ประจำเดือนไม่มา ใช่สัญญาณอาการคนท้อง 1 เดือนหรือเปล่า?

โดยปกติแล้วอาการปวดหลังจะเกิดขึ้นหลังจากครรภ์มีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากมารดาจะต้องรับน้ำหนักครรภ์ที่เพิ่มขึ้น จึงไม่ใช่อาการในช่วง 1 เดือนแรกของการตั้งครรภ์

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

อาการตกขาว เป็นอาการที่พบได้ปกติในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน หนึ่งในนั้นคือฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณช่องคลอดมากขึ้น ตกขาวจึงสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้ แต่ก็ไม่ได้เป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ที่แน่นอน เพราะตกขาวอาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น เช่น การติดเชื้อ เป็นต้น

ประจำเดือนไม่มา ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่การตั้งครรภ์ เช่น ความเจ็บป่วย หรือความเครียด หรือความผิดปกติของมดลูก ดังนั้น วิธีที่มีความแม่นยำที่สุดที่จะบอกว่าตั้งครรภ์หรือไม่ คือการใช้ชุดตรวจสอบการตั้งครรภ์

หากต้องการตั้งครรภ์ ต้องดูแลตัวเองเบื้องต้นอย่างไร?

สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนมีบุตร แพทย์จะแนะนำให้รับประทานกรดโฟลิก (folic acid) ขนาด 400 ไมโครกรัม/วัน ในช่วงก่อนการเริ่มตั้งครรภ์ 2-3 เดือน และให้รับประทานกรดโฟลิกต่อเนื่องไปจนครบไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันภาวะหลอดประสาทไม่ปิด (neural tube defect (NTD)) ของทารกในครรภ์

เพราะฉะนั้น การปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนในการตั้งครรภ์ เป็นทางเลือกที่ดี และเหมาะสมที่สุด ที่จะช่วยให้ทารกในครรภ์สามารถคลอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แข็งแรง

ดูแพ็กเกจฝากครรภ์ และคลอดบุตร เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


4 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
National Institutes of Health, What are some common signs of pregnancy? In https://www.nichd.nih.gov/health/topics/pregnancy/conditioninfo/signs, 31 January 2017
National Health Service, How soon can I do a pregnancy test? In https://www.nhs.uk/common-health-questions/pregnancy/how-soon-can-i-do-a-pregnancy-test/, 24 September 2018.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
ทารกมีอัตราการเต้นของหัวใจช้า อันตรายหรือไม่
ทารกมีอัตราการเต้นของหัวใจช้า อันตรายหรือไม่

เรื่องง่ายๆ ที่คุณแม่ทุกคนต้องใส่ใจเพราะอัตราการเต้นของหัวใจสัมพันธ์กับความปลอดภัยของลูกน้อย

อ่านเพิ่ม
อะไรคือสัญญาณการฉีกขาดในภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก?
อะไรคือสัญญาณการฉีกขาดในภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก?

เรียนรู้สัญญาณการตั้งครรภ์นอกมดลูกก่อนที่มันจะฉีกขาด

อ่านเพิ่ม
ทำความเข้าใจกับภาวะตั้งครรภ์ที่ไข่ที่ปฏิสนธิไม่ฝังตัว (Chemical Pregnancy) ใช่หรือไม่ใช่?
ทำความเข้าใจกับภาวะตั้งครรภ์ที่ไข่ที่ปฏิสนธิไม่ฝังตัว (Chemical Pregnancy) ใช่หรือไม่ใช่?

การตั้งครรภ์ที่เร็วเกินไปที่จะยืนยันด้วยวิธีการทางชีวเคมี

อ่านเพิ่ม