โดยปกติแล้ว คนส่วนมากมักปัสสาวะวันละ 6–8 ครั้งต่อวัน แต่หากคุณเข้าห้องน้ำบ่อยกว่านี้ หรือตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อเข้าห้องน้ำมากกว่า 2 ครั้ง นอกจากจะเป็นเพราะว่าคุณดื่มน้ำมาก หรือดื่มน้ำใกล้กับเวลาเข้านอนแล้ว มันอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าสุขภาพกำลังมีปัญหาได้
เราลองมาดูสาเหตุที่ทำให้มีอาการปัสสาวะบ่อย พร้อมกับวิธีแก้ไขกันดีกว่า
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะบ่อย
การปัสสาวะบ่อย สามารถบ่งบอกได้ถึงโรคระบบทางเดินปัสสาวะ หรือพฤติกรรมการดื่มน้ำมากเกินไป หากคุณมีอาการปัสสาวะบ่อยกับเป็นไข้ ต้องการไปห้องน้ำทันที รู้สึกปวดท้องน้อย หรือไม่สบายท้อง นั่นหมายถึงคุณอาจกำลังติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้คุณปัสสาวะบ่อย มีดังนี้
1. โรคเบาหวาน
การปัสสาวะบ่อย และมีปริมาณมากผิดปกติ มักเป็นอาการเบื้องต้นของโรคเบาหวานประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 เพราะร่างกายไม่สามารถควบคุมน้ำตาลกลูโคสในเลือดที่สูงได้ ร่างกายจึงพยายามกำจัดน้ำตาลกลูโคสส่วนเกินผ่านปัสสาวะ
2. ตั้งครรภ์
ในช่วงของการตั้งครรภ์ มดลูกของผู้หญิงจะขยายใหญ่ขึ้นจนไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ปัสสาวะบ่อยมากกว่าปกติ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ดังนั้น ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ก็ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมตัวเองถึงเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น แต่หากมีปัสสาวะบ่อยร่วมกับปวดหัวหน่าว หรือท้องน้อย อาจเป็นสัญญาณของกระเพาะปัสสาวะอักเสบติดเชื้อ ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
3. ต่อมลูกหมากมีปัญหา
ผู้ชายที่มีปัญหาต่อมลูกหมากใหญ่ขึ้นจะส่งผลต่อการปัสสาวะบ่อยด้วย เพราะต่อมลูกหมากไปกดทับท่อปัสสาวะ ซึ่งเป็นท่อลำเลียงปัสสาวะออกจากร่างกาย อีกทั้งยังไปกีดขวางการไหลของปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะเหลือค้างเยอะ จนรู้สึกปัสสาวะไม่สุด
ในบางครั้ง อาจมีขนาดใหญ่ไปเบียดกระเพาะปัสสาวะบางส่วนจนเกิดการระคายเคือง ทำให้กระเพาะปัสสาวะเริ่มบีบตัว แม้ว่าจะมีน้ำปัสสาวะเพียงเล็กน้อยก็ปวดปัสสาวะบ่อยได้ ส่งผลให้เข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นนั่นเอง
4. โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแบบไม่ติดเชื้อที่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด (Interstitial cystitis)
ผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแบบไม่ติดเชื้อที่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด หรือ Interstitial cystitis จะมีอาการปวดที่กระเพาะปัสสาวะและบริเวณกระดูกเชิงกราน และมีอาการปวดปัสสาวะบ่อย หรือปวดแบบฉับพลัน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
5. ยาบางชนิด
ยาบางชนิดสามารถทำให้ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติได้ เช่น ยาที่ใช้รักษาภาวะความดันโลหิตสูง ยาที่ช่วยกำจัดของเหลวส่วนเกินออกจากร่างกาย หรือยาขับปัสสาวะ
การเป็นโรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคทางระบบประสาทอื่นๆ สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้การทำงานมีปัญหา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การปัสสาวะบ่อย หรือต้องการปัสสาวะแบบฉับพลัน เพราะไม่สามารถอั้นได้
นอกจากสาเหตุดังกล่าวแล้ว อาจเป็นเพราะโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะทำงานผิดปกติ และการรักษาด้วยรังสี ซึ่งอาจเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
หรืออาจเป็นเพราะ คุณกำลังเผชิญกับโรคกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (Overactive bladder) ซึ่งผู้ป่วยจะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำทันที ทั้งๆ ที่กระเพาะปัสสาวะยังไม่เต็ม รวมถึงอาจลุกขึ้นมาปัสสาวะตอนกลางคืน 1 ครั้ง หรือมากกว่านี้
แนวทางการรักษาอาการปัสสาวะบ่อย
การรักษาภาวะปัสสาวะบ่อย จะรักษาที่สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เช่น ถ้าโรคเบาหวานเป็นต้นเหตุ การรักษาจะเกี่ยวข้องกับการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม
สำหรับการรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินนั้นจะเริ่มต้นด้วยการบำบัดพฤติกรรม เช่น
- ฝึกกลั้นปัสสาวะ ช่วยให้คุณกลั้นปัสสาวะได้นานขึ้น และทำให้ปัสสาวะน้อยลง
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะปัสสาวะ หรือมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เช่น คาเฟอีน แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศเป็นหลัก ช็อกโกแลต สารให้ความหวาน อาหารเผ็ด ฯลฯ
นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ให้มากขึ้น เพราะหากท้องผูก มันจะยิ่งทำให้อาการของโรคแย่ลง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยป้องกันไม่ให้ท้องผูก และไม่ให้ปัสสาวะเข้มข้นเกินไป รวมถึงหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำก่อนเข้านอน
- ฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (ขมิบก้น) สามารถช่วยทำให้กล้ามเนื้อรอบๆ กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะแข็งแรง ทำให้ช่วยควบคุมการปัสสาวะได้ โดยให้คุณทำ 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 5 นาทีต่อครั้ง
สำหรับกลุ่มยาที่ใช้รักษาภาวะปัสสาวะบ่อย เช่น
- ดาริเฟนาซิน (Darifenacin)
- เดสโมเพรสซิน
- อะซีเตท (Desmopressin acetate)
- อิมิพรามีน (Imipramine)
- มิราเบกรอน (Mirabegron)
- ออกซีบิวไทนิน (Oxybutynin)
- โซลิเฟนาซิน (Solifenacin)
หากการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ หรือการรับประทานยาไม่สามารถทำให้อาการดีขึ้น แพทย์ก็อาจใช้วิธีผ่าตัดเป็นวิธีถัดไป
หากคุณรู้ตัวว่า ปัสสาวะบ่อยจนผิดสังเกต อย่าลังเลที่จะไปพบแพทย์ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ปัสสาวะบ่อยอาจเป็นสัญญาณเตือนจากโรคร้ายได้
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android