คาเฟอีน เป็นสารเคมีประเภทหนึ่งที่มีในอาหาร และเครื่องดื่มบางอย่างเท่านั้น และด้วยฤทธิ์ในการช่วยกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวของคาเฟอีนนี่เองที่ทำให้หลายคนเสพติดความรู้สึกดังกล่าว จนจำเป็นต้องได้รับทุกวัน ไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่สามารถที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตามใช่ว่าคาเฟอีนจะให้ความสดชื่นกับเราอย่างเดียวเท่านั้น เพราะผลข้างเคียงของสารกระตุ้นอย่างคาเฟอีนก็มีไม่น้อยเหมือนกัน และในวันนี้เราจะมานำเสนอเรื่องราวของคาเฟอีนในมุมที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ให้ได้ทราบกัน
คาเฟอีนเป็นยาขับปัสสาวะอย่างอ่อน
ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเมื่อเราดื่มกาแฟ หรือชาที่มีคาเฟอีนเข้าไป แล้วจะรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากไม่ได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไป ก็ไม่ได้ทำให้เสี่ยงกับการที่ร่างกายของเราจะขาดน้ำได้ และสำหรับนักกีฬา หรือคนที่อาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่จะทำให้เกิดการเสียน้ำในร่างกายทางอื่นนอกจากปัสสาวะแล้ว แนะนำว่าให้งดคาเฟอีนในช่วงดังกล่าว เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดการสูญเสียน้ำมากเกินไปจะดีกว่า
ผลิตภัณฑ์สำหรับเข่าและกระดูก สูตรเฉพาะ รวมสารสกัดที่ผ่านงานวิจัย คอลลาเจน UC-II ขมิ้นชัน งาดำ และวิตามิน
ซื้อผ่าน HD ประหยัดกว่า / ราคาพิเศษสำหรับ นศ. / ผ่อน 0% / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คาเฟอีนเสี่ยงกับการสูญเสียแคลเซียม
การรับคาเฟอีนจะทำให้ร่างกายเสี่ยงกับการสูญเสียแคลเซียม สำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มนม แต่รักในการดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ ที่มีคาเฟอีน สิ่งที่คุณต้องรับรู้ก็คือ การได้รับคาเฟอีนติดต่อกันเป็นประจำ โดยเฉพาะในระยะเวลาที่นานๆ จะทำให้เกิดการสูญเสียแคลเซียมมากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งไปกว่านั้นคือ อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียมวลกระดูก ซึ่งนำไปสู่ภาวะกระดูกพรุนได้ในที่สุด
ปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสม
สำหรับคนแต่ละช่วงอายุ แต่ละวัยนั้นย่อมไม่เหมือนกัน ซึ่งจากข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญได้ทำการสรุปไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
- วัยผู้ใหญ่ ปริมาณของคาเฟอีนที่เหมาะสมในแต่ละวันคือ ไม่เกิน 200-300 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับความไวของร่างกายในการตอบสนองต่อคาเฟอีนด้วย
- วัยรุ่น การได้รับคาเฟอีนที่ 100 มิลลิกรัม ต่อคน ต่อวัน ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการกระตุ้นให้ระบบประสาทตื่นตัว
[caption id="" align="aligncenter" width="700"]
ผงกาแฟ[/caption]
สำหรับคนที่ติดคาเฟอีน เมื่อไม่ได้รับคาเฟอีนจากสิ่งที่เคยรับประทานอย่างเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม หรือ อาหาร อาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการหงุดหงิด เหนื่อยง่าย และรู้สึกง่วงมากกว่าปกติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถที่จะชดเชยได้ด้วยการพยายามพักผ่อนให้เพียงพอ และสร้างความกระฉับกระเฉงให้กับตนเองได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ อย่างเช่น การออกกำลังกาย เป็นต้น
ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริง กับการที่คาเฟอีนสามารถช่วยให้เราตื่นตัว เพื่อทำกิจกรรมต่างๆได้มากขึ้น แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การได้รับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายในบางครั้ง อาจจะทำให้ร่างกายของเราทำงานผิดปกติได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ต้องทานยา หรือวิตามินอื่น ๆ เป็นประจำด้วยแล้ว คาเฟอีนอาจจะทำปฏิกิริยากับสิ่งที่เราได้รับประทานเข้าไป จนทำให้หัวใจของเราทำงานมากกว่าปกติ ซึ่งไม่ส่งผลดีเป็นแน่ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจ และการไหลเวียนโลหิตเป็นหลัก