นมแมว เป็นชื่อดอกไม้ มีชื่อชนิดในชื่อวิทยาศาสตร์คือ Siamensis บ่งบอกว่าเป็นพืชที่พบในสยามหรือปัจจุบันคือประเทศไทย คนโบราณนิยมสกัดเอาน้ำมันหอมระเหยจากนมแมวออกมาใช้เป็นเครื่องหอม เนื่องจากให้กลิ่นหอมแรง มีเสน่ห์เฉพาะตัว นอกจานี้ยังนิยมปลูกประดับตามบ้านเรือนมาช้านาน ส่วนใหญ่ปลูกเพื่อสูดดมกลิ่นหอมจากดอก ต้นนมแมวสามารถทั้งเป็นไม้ดอก ไม้ประดับ นำมาทำเครื่องหอม น้ำอบน้ำปรุง และมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย
ชื่อวิทยาศาสตร์ Rauwenhoffia siamensis Scheff, Melodorum siamense (Scheff.) Bân
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ชื่อสามัญ Rauwenhoffia siamensis
วงศ์ ANNONACEAE วงศ์เดียวกันกับกระดังงา ลำดวน จำปี จำปา
ถิ่นกำเนิดนมแมวพบเฉพาะในประเทศไทย บริเวณป่าเบญจพรรณ มีลักษณะเป็นไม้พุ่มรอเลื้อย แตกกิ่งก้านได้ง่าย ใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบรูปหอก ขอบใบเรียบ โคนใบมน ปลายใบแหลม ดอกเดี่ยวหรือออกเป็นกระจุก 2-4 ดอกตรงข้ามใบ ออกดอกตลอดทั้งปี มีกลิ่นหอมในช่วงเย็น ตอนรุ่งเช้ากลิ่นจะจางไปตามธรรมชาติ กลีบเลี้ยง 3 กลีบมีสีเขียว และกลีบดอก 6 กลีบเรียงเป็นสองวง สีเหลืองนวล กลีบหนา ผลเป็นผลกลุ่ม ออกเป็นพวงรูปรี เมื่อสุกสีเหลืองอมส้ม มีรสหวาน สามารถรับประทานได้
สรรพคุณทางยาของนมแมว
- ราก ตำรับยาพื้นบ้านอีสานใช้ตำผสมน้ำปูนใส ทาแก้พิษแมลงกัดต่อย และนำรากสด 10-15 กรัม ต้มน้ำดื่ม 1 แก้ว หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ยาแก้โรคผอมแห้งของสตรีที่คลอดบุตรแล้วไม่ได้อยู่ไฟ หรือผสมรากไส้ไก่ และรากหนามพรม ในอัตราส่วนของทั้งสาม อย่างละ 1 ส่วน ต้มน้ำดื่ม 1 แก้ว วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร เช้า เย็น แก้ริดสีดวงจมูก
- เนื้อไม้และราก อย่างละ 1 ส่วน ใช้ต้มกับน้ำแก้อาการไข้กลับ ไข้ซ้ำไข้หวัด ไข้ทับฤดูและไข้เพื่อเสมหะ (ไข้ปลายฝนต้นหนาว)
- ยอดใบอ่อน 5-7 ใบ ผสมกับน้ำปูนขาวและน้ำสะอาด จากนั้นขยี้ส่วนผสมทั้งหมดจนละเอียดเป็นฟองสีเหลือง นำมาทาบริเวณท้อง ช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ หรือตามความเชื่อโบราณใช้ทาบริเวณรอบเต้านมของแม่ เนื่องจากใบมีรสขม ช่วยทำให้เด็กหย่านมได้
- ผลนำมาตำผสมน้ำสะอาด ทาแก้เม็ดผื่นคันตามร่างกาย
- ตำรับยาพื้นบ้านในการใช้สมุนไพรรักษาโรคของชุมชนรอบพรุในนราธิวาส ใช้รากนมแมว รากเข้ตาย และรากน้ำนอง อย่างละ 1 กำมือ ต้มกับน้ำดื่ม มีสรรพคุณช่วยเพิ่มน้ำนม นอกจากนี้ใช้รากนมแมวต้มกับน้ำดื่ม เชื่อว่ารักษาอาการมดลูกอักเสบได้
ประโยชน์ของต้นนมแมว
- ต้นนมแมวนิยมปลูกไว้บริเวณบ้านเรือน สวนสาธารณะ เนื่องจากเป็นไม้พุ่มกะทัดรัด มีความแข็งแรงทนทาน ปลูกง่าย อายุยืน เพราะเป็นไม้ประจำถิ่นประเทศไทย จึงสามารถปรับตัวตามสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศได้ดี
- ดอกขนาดเล็ก กลีบดอกหนา ไม่ช้ำง่าย พกพาติดตัวผูกผมคล้ายดอกจำปี หรือจะเอาไปใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้า อบผ้าให้มีกลิ่นหอม
- ดอกนมแมวมีน้ำมันหอมระเหย นิยมใช้กลิ่นปรุงแต่งกลิ่นขนมไทยชนิดต่างๆ เพื่อให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น โดยเฉพาะขนมปุยฝ้าย ขนมสาลี่ และขนมที่ใส่น้ำเชื่อมหรือน้ำกะทิ เช่น ขนมขี้หนู ลอดช่อง ซ่าหริ่ม ทับทิมกรอบ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันมีการสังเคราะห์เลียนแบบขึ้น ประกอบด้วย Amyl Acetate มีกลิ่นหอมคล้ายดอกนมแมว ใช้ประโยชน์เป็นตัวปรุงกลิ่น ทำให้กลิ่นนมแมวสังเคราะห์นั้นค่อนข้างแรงกว่ากลิ่นตามธรรมชาติ คนสมัยนี้เมื่อได้กลิ่นจึงรู้สึกเหม็น ไม่อยากรับประทานขนมต่างๆ ที่มีส่วนผสมของกลิ่นสังเคราะห์ดังกล่าว
ข้อควรระวังและวิธีใช้นมแมวอย่างปลอดภัย
- ควรเริ่มรับประทานนมแมวจากขนาดน้อย หากไม่เกิดอาการอาการแพ้หรือผิดปกติจึงค่อยรับประทานตามขนาดที่กำหนด และควรระวังในผู้ที่อ่อนเพลียมาก เด็กอ่อน คนชรา ห้ามใช้ขนาดยามาก เพราะความต้านทานของร่างกายต่ำกว่าคนปกติ อาจเกิดพิษได้ง่าย
- หากเกิดอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นขึ้นตามตัว คลื่นไส้ ใจสั่น หรือรู้สึกคล้ายหัวใจจะหยุดเต้น ให้หยุดรับประทานยา และควรไปพบแพทย์ทันที
- สารสังเคราะห์นมแมวในปัจจุบันเป็นวัตถุแต่งกลิ่นรสเลียนแบบธรรมชาติ เป็นการสกัดกลิ่นรสจากพืชหรือวัตถุจากธรรมชาติโดยวิธีทางเคมี ผู้บริโภคควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีส่วนผสมของวัตถุแต่งกลิ่นรสเลียนแบบธรรมชาตินี้ อย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพและอาการแพ้ต่างๆ เช่น คลื่นไส้ เวียนศีรษะ ปวดท้อง ท้องร่วง เป็นต้น