อาการ “ท้องผูก” ถือเป็นอาการทั่วไปที่บ่งบอกได้ว่าระบบย่อยอาหารกำลังมีปัญหา ซึ่งเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกช่วงอายุ คนที่ท้องผูกจะถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือมีอุจจาระที่แห้ง แข็ง เล็ก หรือถ่ายลำบาก มีหลายคนที่จะประสบอาการท้องผูก ณ ช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต เช่น ขณะเดินทาง ช่วงที่เปลี่ยนกิจวัตร หรือช่วงที่ทานอาหารบางชนิดที่อาจทำให้ขับถ่ายยากในระยะสั้น ฯลฯ
โดยทั่วไปแล้ว อาการท้องผูกไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรง แต่มันสามารถทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัว เพราะมันอาจทำให้เราปวดท้อง ท้องอืด และคลื่นไส้ ในระยะสั้นอาการท้องผูกมักจะหายไปเองหลังจากที่เรากลับมามีกิจวัตรและทานอาหารเช่นเดิม ในบางกรณี อาการท้องผูกสามารถคงอยู่นานเป็นสัปดาห์หรือนานกว่านี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพระยะยาว เช่น ริดสีดวง รูทวารฉีกขาด อุจจาระตกค้างอยู่ในไส้ตรง ไส้ตรงปลิ้น ฯลฯ
สาเหตุที่ทำให้ท้องผูก
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ประกอบไปด้วย ตอนตั้งครรภ์ หรือหลังคลอดลูก
- ยาบางชนิด เช่น ยาเม็ด ยาลดกรด ยาแก้ปวด ยารักษาโรคซึมเศร้า และธาตุเหล็กอาหารเสริม
- ทานอาหารที่มีไฟเบอร์ไม่เพียงพอ
- ไม่ได้ออกกำลังกาย
- มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน ภาวะขาดไทรอยด์ ฯลฯ
- มีปัญหากับระบบย่อยอาหาร
- เพิ่งผ่าตัด
- กลั้นอุจจาระ
รักษาอาการท้องผูกด้วยน้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกอาจเป็นหนทางที่ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกที่ทั้งปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ไขมันในน้ำมันมะกอกสามารถช่วยให้ภายในอุจจาระเรียบขึ้น ทำให้อุจจาระเคลื่อนที่ได้ง่าย และช่วยให้อุจจาระกักเก็บน้ำได้มากขึ้น ส่งผลให้อุจจาระนุ่มลงนั่นเอง
ทั้งนี้การทานน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ ตอนที่ท้องว่างในตอนเช้าอาจช่วยบรรเทาอาการท้องผูกในผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีหลายคน แต่หากทานเกินกว่านี้ มันก็สามารถทำให้ท้องเสียและปวดท้องเกร็งได้ อย่างไรก็ตาม เด็กหรือทารกไม่ควรทานน้ำมันมะกอกเพื่อบรรเทาปัญหาท้องผูก แต่ The American Academy of Pediatrics แนะนำให้ทารกทานน้ำแอปเปิ้ล น้ำลูกแพร์ หรือลูกพรุนแทน ในขณะที่อาหารที่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก หรือเด็กที่แก่กว่านี้ คือ พรุน แอปริคอต และธัญพืชเต็มเมล็ด แต่หากการทานอาหารบางชนิดไม่ได้ช่วยให้อาการดีขึ้น คุณก็ควรพาลูกไปพบแพทย์
ประโยชน์อื่นๆ ของน้ำมันมะกอก
- มีสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็งบางชนิด โรคไขข้ออักเสบ โรคอัลไซเมอร์ หรือโรคพาร์กินสัน นอกจากนี้มันอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคซึมเศร้า
- The American Heart Association (AHA) แนะนำให้ทานน้ำมันมะกอกเพื่อให้มีสุขภาพดี เพราะมันมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ การเน้นทานอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน รวมถึงจำกัดการทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว หรือไขมันทรานส์ สามารถช่วยให้คอเลสเตอเรอลอยู่ในระดับที่เหมาะสม
- น้ำมันมะกอกมีวิตามินอี ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่หลายคนอาจไม่ได้รับจากอาหาร
น้ำมันชนิดอื่นๆ ที่ช่วยบรรเทาปัญหาท้องผูก
การใช้น้ำมันเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาท้องผูกไม่ใช่เทรนด์ใหม่ นอกจากน้ำมันมะกอกแล้ว น้ำมันละหุ่งก็ได้ถูกนำมาใช้เพื่อการนี้เช่นกัน ทั้งนี้น้ำมันละหุ่งมีผลต่อกล้ามเนื้อในลำไส้ ทำให้ลำไส้บีบตัวและเคลื่อนไหว นอกจากนี้น้ำมันมินิรอลก็สามารถทำให้อุจจาระนุ่มลงได้เช่นเดียวกับน้ำมันมะกอก มีงานวิจัยที่ถูกเผยแพร่ใน The Journal of Renal Nutrition ชี้ให้เห็นว่า น้ำมันมะกอกทำงานได้ดีเหมือนกับน้ำมันมินิรอลในผู้ป่วยที่มีอาการท้องผูก ซึ่งทานน้ำมันมะกอกวันละ 4 มิลลิลิตร
วิธีรักษาอื่นๆ
- หากอาการไม่รุนแรง การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เช่น ดื่มน้ำเพิ่มขึ้น ออกกำลังกาย และทานอาหารที่มีไฟเบอร์ก็พอจะช่วยบรรเทาอาการได้ แต่หากไม่ได้ผล การทานยาระบายที่ซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปก็อาจช่วยได้ แต่ทั้งนี้คุณควรจำกัดการทานยาระบายให้อยู่ในระดับปานกลาง เว้นเสียแต่ว่าแพทย์เป็นคนสั่ง
- ไฟเบอร์ในรูปแบบอาหารเสริม
- ทานผลิตภัณฑ์ช่วยให้อุจจาระนุ่มลง
- ใช้สารหล่อลื่นเพื่อช่วยให้อุจจาระไหลออกมาง่ายขึ้น
- ทานยากระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ แต่ควรใช้เมื่ออาการรุนแรง และอยู่ภายใต้คำแนะนำจากแพทย์
อย่างไรก็ตาม หากตอนนี้คุณกำลังเผชิญกับปัญหาท้องผูก การทานน้ำมันมะกอกก็อาจช่วยบรรเทาอาการได้ อีกทั้งยังมอบประโยชน์อื่นๆ ให้แก่ร่างกาย แต่หากคุณใช้ยาระบาย โดยเฉพาะเมื่อใช้เป็นเวลานาน คุณก็อาจต้องพึ่งมันเป็นประจำ โดยเฉพาะยาระบายที่มีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ แต่หากรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถถ่ายอุจจาระได้ถ้าไม่ได้ทานยาระบาย คุณก็ควรไปพบแพทย์
ที่มา: https://www.medicalnewstoday.c...313416.php?sr