เมื่อวิวัฒนาการทางการแพทย์ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ส่งผลให้การรักษาโรคต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งยังมีการค้นพบโรคใหม่ๆ จนกระทั่งโรคบางโรคเริ่มเป็นที่รู้จักกัน อย่างเช่นโรค MS (Multiple Sclerosis) ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังทางระบบประสาทที่นับวันจะเพิ่มจำนวนคนเป็นมากขึ้นทุกที
โรค MS (Multiple Sclerosis) เกิดจากสาเหตุอะไร
โรค MS (Multiple Sclerosis) คือโรคปลอกประสาทเสื่อม โดยภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ทำลายปลอกประสาทส่วนกลางจนอักเสบ อันได้แก่ สมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาทตา ทำให้มีผลกับการควบคุมการทรงตัว การมองเห็น กล้ามเนื้อ รวมทั้งอวัยวะต่างๆ อีกด้วย แต่จะมีความรุนแรงในผู้ป่วยแต่ละรายไม่เท่ากัน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สำหรับสาเหตุของการเกิดโรค MS ยังไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น พันธุกรรม การติดเชื้อไวรัส มีวิตามินดีในเลือดต่ำ การสูบบุหรี่ หรือมีภูมิคุ้มกันโรคผิดปกติ มักเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในช่วงระหว่างอายุ 20 – 40 ปี หากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษาก็อาจจะทุพพลภาพได้ โดยมีอาการดังนี้
- ทางด้านสายตาจะมองเห็นภาพซ้อน สูญเสียการมองเห็น และจะมีอาการกำเริบเมื่ออากาศร้อน
- รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง หรือเกิดอาการเหน็บชาตามอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น ใบหน้า แขน หรือขาเพียงด้านในด้านหนึ่ง
- ระบบขับถ่ายผิดปกติ ท้องผูก ปัสสาวะบ่อยหรือกลั้นปัสสาวะไม่ได้
- สูญเสียการทรงตัว เดินแล้วอาจจะล้ม การเคลื่อนไหวทำได้ไม่ดี
- กลืนอาหารลำบาก พูดไม่ชัด
- สมองทำงานได้ไม่ดี เช่น คิดช้า สมาธิสั้น ความจำลดลง หรือการเรียนรู้ช้า
- มีปัญหาทางด้านเพศสัมพันธ์ สมรรถภาพทางเพศแย่ลงทั้งชายและหญิง โดยผู้ชายอาจไม่หลั่งอสุจิหรือผู้หญิงมีน้ำหล่อลื่นน้อยลง
- อารมณ์แปรปรวนง่าย มีภาวะซึมเศร้า ร้องไห้ หัวเราะ หรือการตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
การรักษาโรค MS (Multiple Sclerosis)
ปัจจุบันโรค MS ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เราจะเน้นการฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยหรือรักษาไปตามอาการแบบประคอง โดยแพทย์มักจะให้ยาดังต่อไปนี้
- ยาลดการอักเสบ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการอักเสบตามอวัยวะต่างๆ
- ยาแก้ปวด ใช้บรรเทาอาการปวดที่ระบบประสาทส่วนกลาง
- ยาคลายกล้ามเนื้อ ใช้ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อได้ กล้ามเนื้อขาหด ต้านการบีบตัวของกล้ามเนื้อ
- ยารักษาตามอาการ เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้า ปัญหาขับถ่ายยาก หรือปัญหาหมดสมรรถภาพทางเพศ
- กายภาพบำบัด ด้วยการออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีการเคลื่อนไหวร่างกาย รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดแผลกดทับ
วิธีการดูแลตนเอง
- ไปพบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด และควรรับการตรวจกับแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- รับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ โดยเน้นอาหารที่มีใยอาหารมากๆ เพื่อป้องกันอาการท้องผูก
- ออกกำลังกายตามความเหมาะสมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและอวัยวะต่างๆ ทำงานได้ตามปกติ
- ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ไม่เครียด
- หลีกเลี่ยงจากสิ่งเร้าหรือสิ่งที่กระตุ้นให้โรคกำเริบ เช่น ไม่ควรอยู่ในที่มีแสงแดดแรง งดการสูบบุหรี่ และงดการดื่มสุรา
การใช้ยาและสมุนไพร
การใช้ยาประเภทต่างๆ ต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ เพราะโรค MS ยังคงเป็นโรคที่อยู่ในช่วงวิจัย ซึ่งยังไม่มีวิธีรักษาที่แน่นอนและหายขาดได้ ดังนั้นการใช้ยาสมุนไพรจึงไม่ควรหามารับประทานเอง แต่หากต้องการรักษาด้วยสมุนไพรก็ควรปรึกษาแพทย์และรักษาตามที่แพทย์สั่งจึงจะเหมาะสมกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้อาการที่เป็นอยู่นั้นแย่ลง
แม้ว่าสาเหตุและการรักษาโรคนี้ยังไม่สามารถทำได้อย่างชัดเจนและหายขาดได้ แต่การดูแลรักษาสุขภาพเบื้องต้นก็เป็นสิ่งที่ควรต้องคำนึงอันดับแรก และสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรค MS พบว่ากิจกรรมการเคลื่อนไหวทางกายที่ไม่มีการกระแทกแบบรุนแรง อย่างเช่นการเล่นโยคะท่าง่ายๆ จะช่วยให้ไม่เจ็บปวดเพราะโรคนี้มากนัก อีกทั้งการเดินในสระน้ำก็เป็นวิธีที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่อ่อนเพลียมาก อีกทั้งหากมีการวิจัยหรือวิวัฒนาการที่ก้าวหน้า ก็อาจทำให้พบวิธีที่สามารถรักษาโรคนี้ได้อย่างแน่นอน