กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
พญ.นันทิดา สาลักษณ
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
พญ.นันทิดา สาลักษณ

อาการคัน

อาการที่สร้างความทรมานให้ใครหลายๆ คน สามารถแก้ไข หรือรักษาให้หายได้ไม่ยาก เพียงรู้สาเหตุให้แน่ชัด
เผยแพร่ครั้งแรก 15 ส.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 2021 ตรวจสอบความถูกต้อง 9 ต.ค. 2020 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
อาการคัน

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • อาการคันมักเกิดจากภาวะความผิดปกติบางอย่างบนผิวหนัง สามารถเกิดขึ้นบนส่วนใดของร่างกายก็ได้ บางครั้งก็อาจมีผื่น จุด หรือตุ่มเกิดขึ้นบนตำแหน่งของร่างกายที่มีอาการคัน ทั้งนี้อาการคันเป็นได้ทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง
  • สาเหตุของอาการคันเกิดได้จากภาวะบางอย่างของผิวหนัง เช่น ลมพิษ ภูมิแพ้และปฏิกิริยาบนผิวหนัง ปรสิตและแมลง การติดเชื้อ และภาวะอื่นๆ เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานหนักเกินไป ร่างกายขาดธาตุเหล็ก
  • อาการคันยังอาจมีสาเหตุมาจากโรคมะเร็งบางชนิดได้ เช่น มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง 
  • การรักษาอาการคัน เช่น การอาบน้ำอุ่น หรือเย็นแทนน้ำร้อน ใช้โลชั่นเพื่อความชุ่มชื้นของผิวหนัง ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดอ่อน ใช้ครีมสเตียรอยด์ชนิดอ่อนกับบริเวณผิวหนังอักเสบเล็กน้อย ใช้ยาเม็ดต้านฮิสทามีน (Antihistamine)
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้ 

อาการคันเป็นอาการที่ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตัวและอาจมีความสัมพันธ์กับโรคบางอย่าง หรือเป็นผลจากการอักเสบของผิวหนังที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ 

อาการคันสามารถเกิดขึ้นบนส่วนใดของร่างกายก็ได้ โดยเป็นได้ทั้ง

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

  • อาการคันทั่วร่าง ซึ่งอาจมีความสัมพันธ์กับโรคภายในบางอย่าง
  • อาการคันเฉพาะจุด ซึ่งจะะบอกสาเหตุได้จากการตรวจผื่นร่วมด้วย

บางครั้งในอาการคันก็อาจมีผื่น จุด หรือตุ่มเกิดขึ้นที่ผิวหนังร่วมด้วย สำหรับอาการคันที่เกิดขึ้นบ่อยมักเป็นอาการคันแบบระยะสั้นและไม่รุนแรง แต่ปัญหานี้บางครั้งก็เป็นเรื้อรังไม่หายขาด อาจสร้างความรำคาญ และยังทำให้ดูเสียบุคลิกภาพด้วย

สาเหตุของอาการคัน

อาการคันมักเกิดจากภาวะความผิดปกติบางอย่างบนผิวหนัง แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่าได้ด้วย สาเหตุของอาการสามารถจำแนกออกได้ดังนี้

1. ภาวะทางผิวหนังที่ทำให้คันได้บ่อย

  • โรคผิวหนังอักเสบ ซึ่งทำให้ผิวหนังมีผื่นแดง ขุย และเกิดอาการคันได้
  • ลมพิษ (Urticaria) เป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่ตอบสนองต่อตัวกระตุ้นบางอย่างซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้และกลายเป็นผื่นแดง รวมทั้งรู้สึกคันบนร่างกาย 
  • หนังศีรษะอักเสบ เป็นการหลุดลอกของผิวหนังบนหนังศีรษะจนก่อให้เกิดอาการคันขึ้น มีสาเหตุจากความชื้น การอักเสบ และการติดเชื้อราบนหนังศีรษะ

2. ภูมิแพ้และปฏิกิริยาบนผิวหนัง

อาการคันยังสามารถเกิดขึ้นได้จากปฏิกิริยาภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นบนผิวหนังที่เกิดจากการสัมผัสจากภายนอก เช่น

  • แพ้เครื่องสำอาง เช่น น้ำหอม ยาย้อมผม สีแต่งเล็บ 
  • แพ้โลหะบางชนิด เช่น นิกเกิล (Nickel) โคบอลท์
  • แพ้วัสดุประเภทยาง 
  • เนื้อผ้า หรือเครื่องนุ่งห่มบางประเภท โดยเฉพาะผ้าที่มีสีย้อมและเรซิน (Resins) ประกอบอยู่
  • ต้นไม้บางชนิด เช่น ดอกทานตะวัน ดอกคำฝอย ดอกทิวลิป
  • ภูมิแพ้อาหาร หรือยาบางประเภท เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin) และกลุ่มยาประเภทที่เรียกว่า "โอปิออยด์" (Opioids)

3. ปรสิตและแมลง

  • หิด (Scabies mite) เป็นสัตว์ปรสิตที่ที่ทำให้เกิดอาการคันได้มากโดยเฉพาะเวลากลางคืน มักมีผื่นตามง่ามนิ้วมือ หรือบริเวณที่เป็นซอกต่างๆ เช่น สะดือ รักแร้ เป็นต้น เรียกว่า "โรคหิด" (Scabies) 
  • แมลงสัตว์กัดต่อย เช่น ยุง ทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้และคัน

4. การติดเชื้อ

การติดเชื้อโรคบางอย่าง จะมีสัญญาณเตือนในรูปแบบของอาการคันได้ด้วย เช่นโรคและอาการดังต่อไปนี้

  • โรคน้ำกัดเท้า (Athlete's foot) เป็นการติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียจากน้ำสกปรกที่ก่อให้เกิดอาการคันบริเวณนิ้วเท้า และง่ามเท้า
  • โรคกลาก (Ringworm) เป็นการติดเชื้อราที่ก่อให้เกิดผื่นรูปวงแหวนบนผิวหนัง หรืออาจก่อโรคที่หนังศีรษะ และก่อให้เกิดอาการคันหนังศีรษะ

5. ภาวะอื่นๆ

อาการคันอาจเป็นสัญญาณความผิดปกติของภาวะสุขภาพด้านอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่ออวัยวะภายในร่างกาย โดยอาจไม่มีอาการอื่นๆ ที่สังเกตได้อีก เช่น

  • การทำงานหนักมากเกินไปของต่อมไทรอยด์ 
  • ภาวะร่างกายขาดธาตุเหล็ก 
  • เซลล์เม็ดเลือดแดงมีความเข้มข้นสูง 
  • เป็นโรคเกี่ยวกับตับ 

นอกจากนี้อาการคันก็อาจมีสาเหตุมาจากโรคมะเร็งบางชนิดได้ เช่น มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

ปัจจุบันโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปากมดลูก สามารถตรวจคัดกรองเบื้องต้นได้แล้ว 

ดังนั้นหากสงสัยว่า ตนเองอาจมีความเสี่ยง หรือมีอาการผิดปกติเข้าข่ายโรคมะเร็ง การไปตรวจคัดกรองมะเร็งเบื้องต้นก็อาจเป็นทางเลือกที่ดี  

6. การตั้งครรภ์และวัยหมดประจำเดือน

อาการคันสามารถเกิดขึ้นได้จากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างการตั้งครรภ์ หรือหลังหมดประจำเดือน โดยอาการคันเรื้อรังของหญิงมีครรภ์จะหายไปเองหลังจากคลอด 

ส่วนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน อาการคันเป็นอาการทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ภายหลังช่วงหมดประจำเดือนแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น 

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์

อาการคันหลายกรณีจะดีขึ้นเองภายในเวลาไม่กี่วัน แต่ควรไปพบแพทย์หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้

  • รู้สึกคันรุนแรงขึ้น มีผื่นชัดเจน
  • มีอาการคันต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  • รู้สึกคันทั่วร่างกายอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพได้

การวินิจฉัยอาการ

แพทย์จะสอบถามอาการ รวมถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคัน ตัวอย่างเช่น มีการสัมผัสสารบางอย่างที่ทำให้มีอาการคันหรือไม่ หรือมีอาการคันแบบเป็นๆ หายๆ 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

หรือในบางกรณี แพทย์อาจมีการขูดตรวจผิวหนังเพื่อไปทดสอบหาสาเหตุต่อไป และหากมีความสงสัยโรคภายในบางอย่าง อาจมีการตรวจเลือด เพิ่มเติมต่อไป

การรักษาอาการคัน

การรักษาอาการคันจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการ แต่ก็ยังมีหลายวิธีที่จะสามารถช่วยบรรเทาอาการและเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดจากการเกาได้ ดังนี้

1. การอาบน้ำ

  • ให้อาบน้ำอุ่น หรือเย็น แทนการอาบน้ำร้อน
  • ใช้เวลาอาบน้ำน้อยกว่า 20 นาที
  • พยายามลดจำนวนครั้งในการอาบน้ำให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการอาบน้ำบ่อยเกินไปจะทำให้ผิวหนังแห้ง และระคายเคืองได้
  • หลีกเลี่ยงการใช้สบู่หอม เจลอาบน้ำ หรือน้ำหอมดับกลิ่นกาย แต่ให้เปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีความหอมซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป หรือจะลองใช้เป็นสบู่สูตรอ่อนโยนต่อผิวก็ได้
  • ใช้โลชั่นเพื่อความชุ่มชื้นของผิวหนังหลังจากอาบน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง และควรหลีกเลี่ยงโลชั่นสูตรที่มีการใส่น้ำหอมลงไปด้วย

2. เครื่องนุ่งห่ม

  • หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำให้ผิวหนังระคายเคือง เช่น เสื้อขนแกะ หรือเสื้อที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ และเปลี่ยนเป็นสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม
  • หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัวจนเกินไป
  • ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดอ่อน เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อผิวหนัง
  • สวมเสื้อนอนที่เย็นสบาย เบา และหลวม

3. การใช้ยา

  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง เมื่อมีภาวะผิวแห้งและแตก เช่น เจลเพิ่มความชุ่มชื้น โลชั่น
  • ใช้ครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของเมนทอล (Menthol) หรือส่วนประกอบช่วยต้านอาการคันอย่างโครทามิตัน (Crotamiton)
  • ใช้ครีมสเตียรอยด์ชนิดอ่อนกับบริเวณผิวหนังอักเสบ แต่ควรอยู่ในความควบคุมของแพทย์
  • ยาเม็ดต้านฮิสทามีน (Antihistamine) สามารถช่วยควบคุมอาการคันที่เกิดจากปฏิกิริยาแพ้ได้ แต่ควรต้องตรวจสอบกับแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาตัวนี้ว่า เหมาะสมกับเราหรือไม่
  • ยาต้านฮิสทามีนบางประเภทอาจมีผลข้างเคียงทำให้ง่วงนอน ต้องระมัดระวังในการใช้ยาชนิดนี้หากต้องขับรถ หรือใช้งานเครื่องจักรหนักใดๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หรือเปลี่ยนไปใช้ยาชนิดที่ไม่ค่อยง่วงแทน
  • หากคุณมีอาการคันบริเวณที่มีขนปกคลุม เช่น หนังศีรษะ ควรใช้โลชั่น หรือน้ำมันที่ออกแบบมาเพื่อบรรเทาอาการคันกับบริเวณดังกล่าวโดยเฉพาะ

อาการคันเกิดได้จากหลายสาเหตุแต่หากเกิดขึ้นก็สามารถบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง หากอาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีแนวโน้มรุนแรงยิ่งขึ้นแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย 

หรือหากสงสัยว่า อาการค้นเกิดจากอาการภูมิแพ้ ลองหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นนั้นๆ ดูก่อน หากยังไม่พบ หรือไม่แน่ใจ ปัจจุบันโรงพยาบาลหลายแห่งก็มีบริการตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้แล้วเช่นกัน

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้ จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


9 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Sewon Kang, Masayuki Amagai, Anna L. Bruckner, Alexander H. Enk, David J. Margolis, Amy J. McMichael, Jeffrey S. Orringer, Fitzpatrick's Dermatology, 9th edition, McGraw-Hill Education, 2019.
MedicineNet, Itching: Symptoms, Signs, Causes & Treatment (https://www.medicinenet.com/itch/symptoms.htm), 13 May 2020.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
อาหารต้านเชื้อราแคนดิดา (Candida Diet)
อาหารต้านเชื้อราแคนดิดา (Candida Diet)

หากจำนวนเชื้อราแคนดิดาในร่างกายมีมากเกินไป อาจนำไปสู่การติดเชื้อที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

อ่านเพิ่ม