การจะเลิกยาเสพติดไม่ใช่เรื่องง่าย หากใช้สารเสพติดมานานก็จะยิ่งมีอาการอยากยาและอาจท้อแท้ ล้มเลิกความตั้งใจได้ ฉะนั้นการรู้จักวิธีบำบัดยาเสพติดที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ขั้นตอนการเข้าบำบัดรักษา
หากคุณ หรือคนในครอบครัวต้องการบำบัดรักษายาเสพติดกับสถาบันต่างๆ สามารถลองทำตามวิธีดังต่อไปนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
1. ตกลงกับครอบครัว
การจะบำบัดให้หายจากยาเสพติดต้องอาศัยกำลังใจและการสนับสนุนจากครอบครัวอย่างสูง
เนื่องจากบางรายที่มีอาการติดยาในปริมาณมากจนมีอาการแทรกซ้อน อาจต้องรับการบำบัดที่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน ตั้งแต่ 4 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณา
2. เตรียมเอกสาร
ก่อนเข้ารับการบำบัดตามสถาบันต่างๆ ควรเตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม ได้แก่
- บัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- รูปถ่าย
- เอกสารยืนยันตัวตนทางราชการต่างๆ
3. ติดต่อสถาบันที่ต้องการบำบัด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ให้นำเอกสารยื่นต่อสถาบันที่ต้องการบำบัด หรืออาจใช้สิทธิ์ประกันสังคม สิทธิ์บัตรทอง ยื่นกับสถานพยาบาลที่เขียนไว้ในบัตรได้เลย
พร้อมแจ้งเจตจำนงในการเข้ารับบริการ ทางสถานพยาบาลจะทำการซักประวัติเบื้องต้น หรืออาจส่งตัวไปยังสถาบันบำบัดอื่น หากสถานพยาบาลในสิทธิประกันสังคมไม่มีบริการบำบัด
วิธีบำบัดยาเสพติดทางการแพทย์
การบำบัดยาเสพติดโดยหน่วยงานหรือองค์กรทางการแพทย์ จะมีด้วยกัน 4 ขั้นตอน ดังนี้
1. ขั้นตอนเตรียมการ (Pre-admission)
หลังจากยื่นเอกสารขอเข้ารับการบำบัด ทางสถาบันที่ให้บริการจะทำการซักประวัติและตรวจคัดกรองเบื้องต้น ดังนี้
- สอบถามความสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมว่า มีความขัดแย้งหรือไม่ สถานะของพ่อแม่เป็นอย่างไร กลุ่มเพื่อนในสังคมเป็นแบบไหน
- ประเมินปัญหาทางจิตเวชและบุคลิกภาพว่า มีอาการทางจิตประสาทหรือโรคแทรกซ้อนไหม มีบุคลิกภาพผิดปกติหรือไม่
- สอบถามแรงจูงใจในการเสพติดยา และแรงจูงใจในการบำบัดรักษา เช่น ถูกบังคับให้ใช้สารเสพติดหรือไม่ มีแนวความคิดอย่างไรในการเข้าบำบัดรักษา
- ตรวจสารเสพติดว่า เป็นสารประเภทไหน ความถี่และปริมาณในการเสพ
- ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ
- เอกซเรย์ และชั่งน้ำหนัก
หลังจากคัดกรองเบื้องต้นเสร็จแล้ว สถานพยาบาลจะประเมินผู้ป่วย และนัดหมายวันเริ่มทำการบำบัดอีกครั้งตามความเหมาะสม
2. ขั้นถอนพิษยา (Detoxification)
ในขั้นตอนนี้จะเน้นไปที่กายบำบัดรักษาอาการทางกาย เพราะยาเสพติดบางชนิดส่งผลต่อร่างกายด้วย เช่น สมอง ระบบประสาท
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โดยระยะเวลาในการถอนพิษยาจะอยู่ที่ 7-14 วันขึ้นอยู่กับผู้ป่วย เนื่องจากผู้ป่วยจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้ การบำบัดแบบผู้ป่วยนอก และการบำบัดแบบผู้ป่วยใน
การบำบัดแบบผู้ป่วยนอก
ผู้บำบัดไม่จำเป็นต้องค้างคืนที่โรงพยาบาล แต่จะต้องมาพบแพทย์หรือนักจิตบำบัดตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
กรณีนี้มักจะใช้กับผู้ป่วยที่เสพยาได้ไม่นาน และยังไม่มีอาการแทรกซ้อนทางร่างกายหรือจิตประสาทมากนัก โดยแพทย์จะให้ยาทดแทนชนิดอื่นที่ปลอดภัย เช่น เมธาโดน หรืออาจใช้ยาสมุนไพรช่วย
การบำบัดแบบผู้ป่วยใน
กรณีนี้จะใช้กับผู้ป่วยที่เสพยามานาน หรือผ่านการใช้ยาในปริมาณมากๆ จนมีอาการแทรกซ้อนทั้งทางกายและทางจิตประสาท จะต้องค้างคืนในสถานพยาบาลเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและรักษาอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ไปด้วย
3. ขั้นตอนการฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabilitation)
ขั้นตอนนี้จะเป็นการฟื้นฟูสภาพจิตใจ และอาจดำเนินไปพร้อมกับขั้นตอนการถอนยาซึ่งขึ้นอยู่กับแผนการรักษา
โดยปกติแล้วการฟื้นฟูสมรรถภาพจะใช้เวลาตั้งแต่ 1-10 สัปดาห์ ขึ้นอยู่ประเภทของผู้ป่วย โดยกิจกรรมที่ใช้ในการฟื้นฟูได้แก่ การทำกิจกรรมสันทนาการ การสอนอาชีพ การอบรมธรรมมะ การบำบัดร่วมกันแบบชุมชน
4. ขั้นตอนการดูแล (After-care)
คือ การติดตามอาการของผู้ป่วยที่ผ่านทั้ง 3 ขั้นตอนมาแล้ว และนัดเช็กอาการทุก 1-2 เดือนเป็นระยะเวลา 1 ปี
แต่ในกรณีผู้ป่วยในที่ต้องบำบัด ณ สถานพยาบาล อาจมีการให้อิสระมากขึ้น เช่น การเปิดให้มาเยี่ยมบ่อยขึ้น การโทรศัพท์หาทางบ้าน ส่วนการวัดผลในขั้นตอนการดูแลมีเกณฑ์ดังนี้
- มีอัตราการกลับไปเสพซ้ำหรือไม่
- อัตราการติดตามนัดบำบัดตรงตามกำหนดหรือไม่
ใครควรมารับการบำบัดรักษา
การเสพติดยาส่วนมากมักเริ่มจากการอยากรู้อยากลองในปริมาณเล็กน้อย จากนั้นจึงเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งติดยาในที่สุด
แต่ผู้ที่ติดยามักไม่ยอมรับว่า ตนเองติด ฉะนั้นหากไม่แน่ใจว่าตนเอง หรือคนใกล้ตัวติดยาหรือไม่ สามารถวัดได้จากอาการดังต่อไปนี้
- มักต้องการเสพในปริมาณที่มากขึ้น
- ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ว่าจะเสพเวลาไหน รู้สึกอยากเสพตลอดเวลา และหมกหมุ่นกับการหายามาเสพ
- การเสพยาเริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น สังคมรอบตัว การงาน ครอบครัว คนรัก
- สุขภาพร่างกายและจิตใจเริ่มมีความผิดปกติ เช่น เห็นภาพหลอน หูแว่ว ก้าวร้าว น้ำหนักลดลง
- พยายามเลิกแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ในบางกรณีติดสารเสพติดขั้นรุนแรงแล้วพยายามเลิกด้วยตนเอง อาจมีอาการขาดยารุนแรงจนเสียชีวิตได้
- เริ่มมีอาการขาดยา หรือถอนยาเมื่อไม่ได้เสพ
อาการถอนยา
อาการถอนยา (Drug withdrawal) หรือบางคนอาจเรียกว่า "อาการขาดยา" จะเกิดขึ้นหลังจากผู้ที่ติดยาเสพติดได้รับสารเสพติดน้อยลง หรืองดใช้สารเสพติด มักพบในผู้ที่หายามาเสพไม่ได้ พยายามจะเลิกยาเสพติด และอยู่ระหว่างเลิกยา
เนื่องจากสารเสพติดมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทและสมอง ทำให้สารเคมีในสมองผิดปกติ เมื่อขาดสารเสพติดโดยฉับพลัน ก็จะทำให้สารเคมีในสมองปรับตัวไม่ทัน
อาการถอนยาของยาแต่ละชนิดจะไม่เหมือนกันโดยขึ้นอยู่กับฤทธิ์ยาของยาต่อระบบประสาท หากใช้สารเสพติดในปริมาณมากก่อนจะเลิกยาเสพติดแบบหักดิบ ก็อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ในผู้ป่วยรายอื่นๆ ที่เกิดอาการถอนยาหรือขาดยา อาจมีอาการดังนี้
- เพ้อ คลุ้มคลั่ง จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
- กลัว คิดว่าใครจะมาทำร้าย
- มีอารมณ์โกรธ หงุดหงิดง่าย
- กระวนกระวาย กระสับกระส่าย หายใจเร็ว
- มีไข้ อาจมีอาการสั่นหรือชักได้
- คลื่นไส้ ปวดท้อง กินอาหารไม่ลง
- อุจจาระเป็นเลือด
- ปวดเมื่อยตามร่างกาย เป็นตะคริว
- นอนไม่หลับ ม่านตาขยาย
- มีน้ำมูกไหล ไอ จาม
ทั้งนี้อาการขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ยาและชนิดของสารเสพติด ผู้ป่วยอาจมีอาการหลายอย่างร่วมกัน ฉะนั้นควรปรึกษาสถานบำบัดที่ได้มาตรฐาน เพื่อการรักษาอาการติดยาอย่างถูกวิธี
อ่านเพิ่มเติม: โทษของยาเสพติด 10 ชนิด
จัดการอาการถอนยาด้วยตัวเอง
มีผู่ป่วยหลายคนที่เลือกจะบำบัดยาเสพติดด้วยตัวเอง เนื่องจากปริมาณสารที่ใช้ยังไม่มากและเสพได้ไม่นาน อาจเลือกใช้วิธีดังต่อไปนี้
- สวมหนังยางเข้ากับมือและดีดเมื่อมีอาการอยากยา เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ต้องกลับไปเสพยา เช่น กลุ่มเพื่อนฝูงที่ใช้สารเสพติด การดื่มสุรา
- หางานอดิเรกทำภายในบ้านของตัวเองแทนการคิดถึงสารเสพติด
- เมื่อรู้สึกกระวนกระวาย ให้หายใจเข้าลึกๆ นั่งสมาธิเพื่อคุมสติตัวเองให้อยู่
- หากพยายามเลิกยาด้วยตัวเองแล้วไม่สำเร็จ ให้เข้ารับการบำบัดกับสถานบำบัด หรือโรงพยาบาล เนื่องจากเมื่อกลับไปใช้สารเสพติดซ้ำ จะทำให้การบำบัดรักษาเป็นไปได้ยากขึ้น
สถานที่บำบัดยาเสพติด
สถานที่บำบัดรักษายาเสพติดมีมากมาย อาจติดต่อสถานที่ใกล้เคียงที่สะดวกที่สุด ดังนี้
สถานบำบัดที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่
- สถาบันธัญญารักษ์ สายด่วน 1165
- บ้านพิชิตใจ เขตประเวศ เบอร์โทรศัพท์ 02-329-1353
- โครงการ To Be Number One สายด่วน 1323
- ภูฟ้าเรสท์โฮม บ้านพักฟื้นสำหรับผู้ป่วยยาเสพติด เบอร์โทรศัพท์ 063-908-2999
- สำนักสงฆ์วัดถ้ำกระบอก เบอร์โทรศัพท์ 036-266-292
- เดอะ เคบิน เบอร์โทรศัพท์ 02-107-2545
- ศูนย์บำบัดยาเสพติดและฟื้นฟูสุขภาพจิต เดอะดอว์น เชียงใหม่ เบอร์โทรศัพท์ 02-171-2511
หากต้องการบำบัดรักษาในโรงพยาบาล สามารถเลือกพื้นที่ใกล้เคียง และติดต่อได้ ดังนี้
- โรงพยาบาลราชวิถี เบอร์โทรศัพท์ 02-246-0052 ต่อ 4302
- โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า เบอร์โทรศัพท์ 02-246-1400 ถึง 1428 ต่อ 3187
- โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์ 02-411-2419-1
- โรงพยาบาลนิติจิตเวช เบอร์โทรศัพท์ 02-441-9026-9
- โรงพยาบาลตากสิน เบอร์โทรศัพท์ 02-2863-1371 ถึง 02-437-0123 ต่อ 1153, 1248
คลินิกยาเสพติดในศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กทม. ได้แก่
- คลินิกยาเสพติด ลุมพินี เบอร์โทรศัพท์ 02-250-0286
- คลินิกยาเสพติด สี่พระยา เบอร์โทรศัพท์ 02-236-4174
- คลินิกยาเสพติด บางอ้อ เบอร์โทรศัพท์ 02-424-6933
- คลินิกยาเสพติด บางซื่อ เบอร์โทรศัพท์ 02-587-0873
- คลินิกยาเสพติด ดินแดน เบอร์โทรศัพท์ 02-245-0640
- คลินิกยาเสพติด วัดธาตุทอง เบอร์โทรศัพท์ 02-391-8539
- คลินิกยาเสพติด สาธุประดิษฐ์ เบอร์โทรศัพท์ 02-284-3244
- คลินิกยาเสพติด ซอยอ่อนนุช เบอร์โทรศัพท์ 02-321-2566
- คลินิกยาเสพติด บางขุนเทียน เบอร์โทรศัพท์ 02-468-2570
- คลินิกยาเสพติด สโมสรวัฒนธรรม เบอร์โทรศัพท์ 02-281-9730
- คลินิกยาเสพติด ลาดพร้าว เบอร์โทรศัพท์ 02-513-2509
- คลินิกยาเสพติด วงศ์สว่าง เบอร์โทรศัพท์ 02-585-1672
- คลินิกยาเสพติด ภาษีเจริญ เบอร์โทรศัพท์ 02-413-2535
- คลินิกยาเสพติด คลองเตย เบอร์โทรศัพท์ 02-249-1852
- คลินิกยาเสพติด วัดไผ่ตัน เบอร์โทรศัพท์ 02-270-1985
สถานบำบัดยาเสพติดส่วนภูมิภาค ได้แก่
- ศูนย์บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ประจำภาคเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เบอร์โทรศัพท์ (053) 297-976 ถึง 7
- ศูนย์บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เบอร์โทรศัพท์ (043) 245-366
- ศูนย์บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ประจำภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เบอร์โทรศัพท์ (094) 467-453, (074) 467-468
- ศูนย์บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เบอร์โทรศัพท์ (053) 612-607
- ศูนย์บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด จังหวัดปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เบอร์โทรศัพท์ (073) 333-291
- ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด คอมมูนิต้า อินคอน อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เบอร์โทรศัพท์ 02-2563-1006-7, 01-2132505
- ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด คอมมูนิต้า อินคอน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เบอร์โทรศัพท์ 10-937-1345
- ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด คอมมูนิต้า อินคอน อำเภอท่าแร่ จังหวัดสกลนคร เบอร์โทรศัพท์ 01-212-0804
- ศูนย์เกิดใหม่ อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เบอร์โทรศัพท์ (032) 261-038-40
- ศูนย์เกิดใหม่ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เบอร์โทรศัพท์ (038) 541-693
- บ้านสันติสุข อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี เบอร์โทรศัพท์ 01-218-1343
- บ้านตะวันใหม่ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เบอร์โทรศัพท์ 01-21-1573
- บ้านนิมิตใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เบอร์โทรศัพท์ (053) 277-049, (053) 282-495
หากคุณไม่กล้าไปพบหมอด้วยตัวเอง สามารถปรึกษาอาการ หรือถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลิกยาเสพติด หรือวิธีรักษาโรคอื่นๆ กับทีมแพทย์ HD โดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวได้ ที่นี่
ยาเสพติดเป็นยาอันตรายที่มีโทษตามกฎหมาย และโทษต่อสุขภาพ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต จึงไม่ควรยุ่งเกี่ยว ใช้ยา หรือทดลองใช้อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสารเสพติด เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android