จากข่าววัยรุ่นที่ถูกบังคับให้กินน้ำจนกระทั่งเสียชีวิต แม้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ก็มีคนไม่น้อยสงสัยว่าทำไมจึงเสียชีวิตได้ทั้งที่ดื่มน้ำธรรมดาสามัญ
ร่างกายของคนเราออกแบบมาให้เก็บสารที่สำคัญ น้ำคือสิ่งที่จำเป็นและจากวิวัฒนาการมาคนเราต้องการน้ำและมักอยู่ในภาวะขาดมากกว่า ร่างกายจึงปรับตัวให้ดูดซึมน้ำได้ดี เมื่อดื่มน้ำเปล่าเข้าไป น้ำก็จะดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ทีนี้เมื่อร่างกายได้น้ำพอ ก็จะใช้กลไกนึงไปสั่งการสมองว่าตอนนี้ไม่หิวน้ำแล้ว จงหยุดดื่มน้ำ
ปัญหาคือ เมื่อไม่หยุดดื่ม ก็จะเกิดอันตรายได้
เพราะเมื่อน้ำเข้าไปในร่างกาย ก็จะทำให้เลือดเกิดการเจือจางซึ่งถ้าจางเกินไปก็อันตราย ร่างกายก็จะปรับตัวโดยการดึงน้ำเข้าเซลล์และพื้นที่ต่างๆ
- เข้าปอด เกิดน้ำท่วมปอด หายใจไม่ได้ เหมือนตกในภาวะจมน้ำ
- เข้าสมอง เกิดอาการมึนงงวิงเวียน อาเจียน (เป็นกลไกป้องกันตัวแบบนึง เพราะพออาเจียนก็กินน้ำเพิ่มไม่ได้)
ทีนี้ถ้ายังฝืนกินต่อหรือโดนจับกรอกกินต่อ สมองก็จะบวม ชัก เกร็ง และเสียชีวิต
ภาวะเหล่านี้ พบใน
- คนที่โดนบังคับให้ดื่มน้ำ
- คนที่เล่นกีฬาเป็นเวลานาน และดื่มน้ำเปล่ามากเกินไป
- คนที่ใช้ยาเสพติดบางชนิด หรือใช้ยาทางจิตประสาท ที่ทำให้เกิดความรู้สึกกระหายน้ำ
ปล. สำหรับคนที่ถามว่าแล้วดื่มน้ำแค่ไหนดี คงตอบสั้นๆไม่ลงรายละเอียดมากนักว่าดื่มแค่แก้กระหายหรือถ้าไม่กระหายเลยอาจจะดื่มราวๆ1.5-2.5ลิตรต่อวัน ถ้าอยู่ในที่อากาศร้อนมากๆก็เพิ่มส่วนตามความกระหายไม่มีตายตัว เพราะไตในคนปกติก็สามารถจัดการกับน้ำที่มากหรือน้อยเกินไปได้บ้าง
ปอ แต่ครั้งละ 5-6 ลิตร ไม่ควรนะครับ