ปัญหาผิวจากแดด ฝุ่นควัน และมลภาวะ ทำให้ผิวเสีย มีริ้วรอย และแพ้ง่าย การขัดผิวเป็นวิธีการดูแลและฟื้นบำรุงผิว ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมกับเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวสามารถดูดซับสารอาหารจากธรรมชาติที่เรารับประทานหรือทาลงบนผิวได้ดียิ่งขึ้น
ข้อดีของการขัดผิวขาว
ข้อดีของการขัดผิวขาว นอกจากจะช่วยลดการอักเสบและการเกิดแบคทีเรียจากสิ่งสกปรกที่มาทำร้ายผิวแล้ว ยังช่วยผ่อนคลายจากสภาวะเครียดในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ เป็นการใช้เวลาในการดูแลตัวเอง และยังมีข้อดีอื่นๆ อีกดังต่อไปนี้
- ลดปัญหาผิว ทั้งสิวอุดตันอย่างสิวหัวดำและสิวหัวขาว
- ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวใหม่
- ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น เพราะสามารถดูดซับสารอาหารที่นำมาใช้ฟื้นบำรุงได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยผ่อนคลายความเครียด
- ได้ขับสารพิษ เพราะผิวเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของร่างกาย การขัดผิวจะช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ช่วยให้ต่อมน้ำเหลืองสามารถชะล้างของเสียออกไป ทำให้สุขภาพดี
5 เคล็ดลับขัดผิวขาวด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ
การขัดผิวมีประโยชน์มากมายดังที่กล่าวไปข้างต้น จึงมีผลิตภัณฑ์ขัดผิวขาวในท้องตลาดที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ขณะเดียวกันวัตถุดิบจากธรรมชาติก็มีสารอาหารมากมายที่มีสรรพคุณในการบำรุงผิวได้ดีด้วยเช่นกัน ทั้งยังหาซื้อได้ง่าย และบางครั้งก็มีอยู่แล้วในครัวเรือน ดังสูตรขัดผิวขาวด้วยวัตถุดิบใกล้ตัวที่อยากแนะนำต่อไปนี้
1. สูตรขัดผิวขาวสำหรับผิวหน้า
สูตรนี้ใช้ของราคาถูกและเตรียมง่าย โดยใช้น้ำตาล ซึ่งมีสารรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ช่วยกักเก็บน้ำให้ผิว เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย เหมาะสำหรับผิวที่มีริ้วรอย ทำให้ผิวหน้าสะอาดเกลี้ยงเกลา ปราศจากสารตกค้างและสิ่งสกปรกจากเครื่องสำอางและมลภาวะ อีกทั้งน้ำตาลยังเป็นแหล่งของกรดไกลโคลิก (Glycolic acid) ตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ส่วนประกอบและวิธีทำ น้ำตาลทรายขาว 1/4-1/2 ถ้วย น้ำมันมะพร้าว 1/2 ถ้วย คนให้เข้ากัน หลีกเลี่ยงความร้อน เพื่อไม่ให้น้ำตาลละลาย ทิ้งไว้ 2 นาที นำไปใช้ขัดผิวหน้าได้
2. สูตรขัดผิวขาว
เติมความเนียนนุ่ม สูตรนี้เป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวกาย สำหรับคนที่นั่งทำงานในห้องแอร์ทั้งวัน และช่วงฤดูหนาวที่ผิวต้องผจญกับอากาศแห้งเป็นเวลานาน โดยใช้โยเกิร์ตกับน้ำผึ้ง โยเกิร์ตมีกรดแลคติก (Lactic acid) ปริมาณมาก จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง วิธีนี้แม้เป็นคนมีผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ เนื่องจากโยเกิร์ตสามารถทำความสะอาดผิวอย่างนุ่มนวล ด้วยเนื้อสัมผัสที่เหมือนเนื้อครีมและค่อนข้างหนานุ่มจึงซึมซาบสู่ชั้นผิวได้อย่างดี และยิ่งผสานประโยชน์จากน้ำผึ้งที่มีทั้งสรรพคุณทางยาและมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวนุ่มและฉ่ำน้ำ นอกจากนี้ สารยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ (Antimicrobial agent) ในน้ำผึ้งยังใช้รักษารอยไหม้และรอยแผลขนาดเล็กได้อีกด้วย ส่วนประกอบและวิธีทำ โยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ คนส่วนผสมให้เข้ากัน นำไปใช้ขัดผิวได้
3. สูตรขัดผิวขาว
ฟื้นบำรุงผิวกาย สูตรนี้เหมาะกับการฟื้นบำรุงผิวกาย ลดรอยด่างดำ ความหมองคล้ำ รวมไปถึงรอยแดงจากมลภาวะที่มาทำร้ายผิว โดยข้าวโอ๊ต (Oat) อุดมด้วยธาตุสังกะสี (Zinc) ที่ช่วยลดการติดเชื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว รวมถึงกระบวนการผลิตไขมันในชั้นผิวที่รบกวนให้เกิดสิวด้วย สำหรับผิวแพ้ง่าย ข้าวโอ๊ตยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเพิ่มความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ เพราะมีค่า pH หรือค่าแสดงความเป็นกรด-ด่างที่มีความเป็นกลาง ลดการอักเสบซึ่งเป็นปัญหาส่วนใหญ่ที่พบในผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้ยังมีสารซาโปนิน (Saponins) ช่วยทำความสะอาดผิว ขจัดสิวหัวดำให้หลุดออก ส่วนประกอบและวิธีทำ น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย ข้าวโอ๊ต 1/2 ถ้วย น้ำมันธรรมชาติบริสุทธิ์ 1-3 หยด (น้ำมันลาเวนเดอร์ อัลมอนด์ ไซทรัส หรือเปเปอร์มินต์) ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ใส่ขวดแก้วหรือภาชนะปิดสนิท เก็บไว้ในที่แห้ง ใช้ได้นาน 3 สัปดาห์ เวลาใช้ ให้ใช้ครั้งละ 1 ใน 4 ส่วน
4. สูตรขัดผิวขาว ลดผิวแห้งกร้าน
สูตรนี้เหมาะกับบริเวณผิวที่แห้งกร้าน ทั้งตาตุ่ม หัวเข่า ข้อศอก หลังเท้า นิ้วเท้า และส้นเท้า โดยใช้กล้วย ซึ่งมีวิตามินเอ (Vitamin A) ช่วยบรรเทาความแห้งกร้านของผิว วิตามินซี (Vitamin C) จำเป็นต่อการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวหนังและมีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวเนียนขึ้น ที่สำคัญคือมีกรดอะมิโน (Amino acid) ช่วยฟื้นคืนความยืดหยุ่นให้เซลล์ผิว และการใช้เกลือโคเชอร์ (Kosher salt) ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายเกลือทะเล มีแร่ธาตุมากมายที่ช่วยบำรุงผิว เป็นการกระตุ้นประสาท ทำให้การไหลเวียนเลือดและความดันโลหิตดีขึ้น ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย และไม่มีสารเคมีตกค้าง (สามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป) ส่วนประกอบและวิธีทำ กากกาแฟ 1/4 ถ้วย เกลือโคเชอร์ 1/4 ถ้วย น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย กล้วย 1/2 ถ้วย ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน นวดเป็นวงกลมและทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ในบริเวณที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
5. สูตรขัดผิวขาว
เติมความชุ่มชื้น สูตรนี้เหมาะกับผิวกายที่ต้องการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เสริมการทำงานของคอลลาเจนในชั้นผิว โดยการใช้กากกาแฟเป็นวัตถุดิบหลัก นอกจากช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของคอลลาเจน ชะลอการเหี่ยวย่นของผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ส่วนประกอบและวิธีทำ กากกาแฟ 1/2 ถ้วย น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย น้ำผึ้งแท้ 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอมระเหยวนิลา 1 ช้อนโต๊ะ คนส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่ไว้ในใส่ขวดแก้วหรือภาชนะปิดสนิท สามารถใช้ได้นาน 1 เดือน เวลาใช้ ให้ใช้ครั้งละ 1 ใน 4 ส่วน
ขั้นตอนการขัดผิวขาวสำหรับผิวหน้าและผิวกาย
การขัดผิวขาวสำหรับผิวหน้าและผิวกายมีขั้นตอนที่ควรทราบ ดังต่อไปนี้
สำหรับผิวหน้า
มีขั้นตอนดังนี้
- เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง และล้างหน้าด้วยสบู่หรือเจลล้างหน้าและน้ำสะอาด
- นำส่วนผสมสำหรับขัดผิวหน้าที่เตรียมไว้มาทาทั่วใบหน้า
- ใช้นิ้วนวดเบาๆ เป็นวงกลม นวดไปเรื่อยๆ ใช้ประมาณเวลา 1-2 นาทีในแต่ละส่วนของผิวหน้า ควรเว้นส่วนที่เป็นผิวบอบบาง ทั้งบริเวณรอบดวงตา ขอบจมูก รอบริมฝีปาก ไม่ควรนวดขัด อาจเกิดผิวลอกและรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย
- เพื่อการผ่อนคลายและให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออก ควรทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
- สำหรับผิวหน้า ควรขัดผิวขาวอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือขึ้นอยู่กับสภาพผิว เช่น ถ้าเป็นผิวแห้ง ไม่ควรขัดผิวหน้าบ่อยเกินไป ส่วนผิวมัน ผิวธรรมดา และผิวผสม สามารถทำได้มากกว่า 1 ครั้ง
สำหรับผิวกาย
มีขั้นตอนดังนี้
- ชำระล้างร่างกายด้วยน้ำสะอาดและสบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกาย ใช้มือหรืออุปกรณ์ขัดผิว เช่น ใยบวบ ที่มีความนุ่มนวลต่อผิว ขัดผิวด้วยการวนเป็นวงกลมเพื่อเป็นการกระตุ้นผิว ก่อนรับสารอาหารจากส่วนผสมที่เตรียมไว้ ประมาณ 2-3 นาที
- ล้างตัวอีกครั้งเพื่อให้คราบไคลและสิ่งสกปรกหลุดออก
- ขณะผิวหมาด ให้เริ่มขัดผิวจากที่ปลายเท้าและไล่ขึ้นมาด้านบน โดยใช้การนวดอย่างนุ่มนวล วนเป็นวงกลม ใช้เวลาในการขัดผิวแต่ละส่วนประมาณ 1-2 นาที อาจใช้แปรงขัดผิวในส่วนของร่างกายที่เอื้อมไปไม่ถึง เช่น หลัง รวมไปถึงการให้ความสำคัญในจุดที่เป็นผิวหยาบกร้าน เช่น ข้อศอก หัวเข่า หลังคอ นิ้วเท้า บริเวณหลังเท้าและตาตุ่ม
- เมื่อขัดผิวทั่วทั้งตัวแล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ขึ้นอยู่กับสูตรขัดผิวแต่ละสูตร จากนั้นล้างตัวด้วยน้ำที่อุ่นพอสมควร ใช้บอดีออยล์หรือโลชันเพื่อเป็นการปกป้องผิวขั้นสุดท้าย
ข้อควรรู้ในการขัดผิวขาว
ก่อนขัดผิวขาว มีข้อควรรู้และข้อควรระวังดังต่อไปนี้
- เลือกสูตรขัดผิวให้เหมาะกับสภาพผิว ดังนี้
- ผิวแห้ง ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่ใช้สารเคมีหรือมีกรดไกลโคลิกที่ทำให้ผิวส่วนนอกลอกหลุดได้ง่าย นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงสารเคมีที่อาจผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ขัดผิวขาวในท้องตลาด เพราะสารเคมีทำให้ผิวเกิดรอยแดง ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนจะดีที่สุด
- ผิวมัน การสครับผิวช่วยลดการสร้างไขมันในชั้นผิว สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ง่าย นอกจากนี้ยังสร้างการไหลเวียนเลือดได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
- ผิวธรรมดาและผิวผสม สามารถใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่วางขายทั่วไปตามท้องตลาด เพียงแต่เลือกเนื้อสัมผัสที่พึงพอใจ หรือคุณประโยชน์ที่คาดหวัง อย่าลืมทดสอบก่อนใช้โดยทาบริเวณท้องแขนเพื่อดูว่าเราแพ้ผลิตภัณฑ์นั้นหรือไม่
- จำนวนครั้งในการขัดผิว ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคุณ โดยทั่วไป สามารถขัดผิวได้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าเป็นผิวมันอาจเพิ่มจำนวนครั้งได้ ส่วนผิวที่แพ้ง่ายควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อน
- ไม่ควรขัดผิวเมื่อมีปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวไหม้จากแสงแดด ผิวลอก ผิวมีรอยแดง อักเสบ หรือเกิดการแพ้ เพราะส่วนผสมจากการขัดผิวจะไปรบกวนผิวมากขึ้น อาจก่อให้เกิดการแพ้และเป็นอันตรายต่อผิว
- หลีกเลี่ยงการขัดผิวเมื่อต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับการรักษาโรคผิวหนังหรือผลิตภัณฑ์รักษาสิว รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) หรือวิตามินเอที่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพผิวได้ รวมถึงเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) ซึ่งเป็นยาทาสำหรับรักษาสิว เพราะยิ่งทำให้ผิวบางลง
- หลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังการขัดผิว หรือหากจำเป็นต้องเผชิญกับแสงแดดควรทาครีมที่เพิ่มความชุ่มชื้นและมีสารกันแดด เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดกับผิวที่จะตามมา เช่น ผิวแห้ง ผิวไหม้แดด หรือเกิดรอยแดง
- หลังการขัดผิว ควรดื่มน้ำมากๆ เพราะการขัดผิวเป็นการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและขจัดสารพิษออก รวมถึงสร้างเซลล์ผิวใหม่ การดื่มน้ำเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิวและร่างกาย หลังจากที่เราปรนนิบัติผิวซึ่งอาจมีการเสียเหงื่อและเซลล์ผิวเก่าหลุดลอก