ปกติหนูจะมีประจำเดือนช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนค่ะ แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ย. ตอนมีอะไรกับแฟนถุงยางดันแตกหนูเลยกินยาคุมฉุกเฉินไปค่ะ (ปกติป้องกันตลอดนะคะ) หนูเลยตัดสินใจว่าถ้าประจำเดือนมารอบหน้าหนูจะไปฝังยาคุมค่ะ แต่ทีนี้จากปกติปจด.หนูจะมาช่วงสิ้นเดือน ดันเริ่มมาวันที่9 แทนค่ะ ดังนั้นหนูเลยไปฝังยาคุมมาเมื่อวันที่12 ค่ะ (ปกติปจด.มา 5-6 วันค่ะแต่จู่ๆรอบล่าสุดดันมา 3 วันเองค่ะ) คุณพยาบาลบอกว่า 7 วันแรกยังไม่ควรมีsex แต่ถ้าป้องกันคือมีได้ค่ะ ซึ่งหนูใช้ถุงยางเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ทีนี้วันนี้ถุงยางดันแตกอีกรอบอ่าค่ะ 😭 หนูไม่รู้ว่ายาคุมที่ฝังจะออกฤทธิ์หรือยัง หนูจะท้องมั้ยคะ หรือหนูควรทำยังไงดีคะ ยาคุมฉุกเฉินไม่ควรกินแล้วใช่มั้ยคะ

ถ้าผู้ถามมีประจำเดือนมาแล้วในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม เลือดที่ออกมาในวัน 9 พฤศจิกายน น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินค่ะ

ดังนั้น แนะนำดังนี้นะคะ

1. เมื่อฝังยาคุมไม่ทัน 5 หรือ 7 วันแรกของการมีประจำเดือน (ในกรณีที่เลือดที่ออกมาเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน) จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางร่วมด้วยไปอีก 7 วันหลังจากฝังยาคุมค่ะ

และถ้าถุงยางฉีกขาด ก็จะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยงที่มีให้น้อยลงนะคะ

2. ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงมาก จึงถือว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ถุงยางฉีกขาดทั้งรอบก่อนและรอบล่าสุด ยังเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% จึงควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วรอตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

ถ้าผลตรวจออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็ไม่มีปัญหา และสามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติแล้วนะคะ การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลป้องกันจากยาฝังคุมกำเนิด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 0.05% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ

ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยาฝังคุมกำเนิดค่ะ สามารถใช้ได้เลยตามที่จำเป็น

แนะนำให้รับประทานแบบหมดแผงในครั้งเดียวนะคะ นั่นคือ ถ้าผู้ถามใช้ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวค่ะ

หากมีเลือดกะปริบกะปรอยออกมาหลังจากนี้ แต่ไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย (เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง) ก็ไม่ต้องกังวล เพราะอาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินเอง หรือเป็นผลข้างเคียงจากยาฝังคุมกำเนิดเองก็ได้ค่ะ

และควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

ถ้าผลตรวจออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็ไม่มีปัญหา สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติค่ะ ถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวลแล้วในช่วงที่มีผลป้องกันจากยาฝังคุมกำเนิดนะคะ

แต่ผลข้างเคียงเด่น ๆ ของยาฝังคุมกำเนิด อาจทำให้ผู้ใช้มีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน ดังนั้น หากผลตรวจตั้งครรภ์ออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ แต่ไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม ก็น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาฝังคุมกำเนิดนั่นเองค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากผู้ถามกังวลใจในกรณีที่ไม่มีประจำเดือนมา ว่าอาจตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ซ้ำได้นะคะ